สรุปตอน บทที่ 153 ลุคยอมรับด้วยตัวเอง – จากเรื่อง พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก โดย พะเนินเทินทึก
ตอน บทที่ 153 ลุคยอมรับด้วยตัวเอง ของนิยายโรแมนติกเรื่องดัง พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก โดยนักเขียน พะเนินเทินทึก เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
แต่ในตอนนั้น เบียงก้าก็ไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว
แม้ว่าจะรู้ว่ามันเป็นกับดัก เธอก็เดินเข้าไปในนั้นอย่างไม่ลังเล
คำขอของเธอประจักษ์อยู่ในใจมาระยะหนึ่งแล้ว
คำขอของเธอนั้นไม่ใช่สิ่งอื่นใด นอกจากความจริงที่เธออยากรู้ว่า ลานี่กับเรนนี่เป็นลูกของเธอรึเปล่า และเขาเป็นชายคนเดียวกันกับเมื่อห้าปีก่อนหรือไม่...
"ข้อดีของการใช้สิ่งนี้คือ..." เบียงก้าพูดซ้ำไปมาอย่างเขินอายกับสิ่งที่ได้เรียนรู้ระหว่างการฝึกเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน “นอกจากประโยชน์ด้านการคุมกำเนิดแล้ว หน้าที่สำคัญที่สุดของถุงยางอนามัยคือช่วยป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ ค่ะ รวมถึงช่วยลดอัตราการติดเชื้อของโรคที่พบเจอได้บ่อย เช่น ซิฟิลิส โรคหนองใน และโรคเอดส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พูดง่าย ๆ คือหน้าที่หลักของถุงยางเลยคือเป็นเกราะป้องกันนั่นเองค่ะ..."
เบียงก้ารีบตอบคำถามที่เขาถามก่อนหน้านี้เพราะในหัวของเธอเต็มไปด้วยคำถามสองข้อที่เธอต้องการจะถามเขา
“แล้วอันนี้ล่ะ?” ลุควางผลิตภัณฑ์คุมกำเนิดและเซ็กซ์ทอยขึ้นมา
ข้างกล่องบรรจุภัณฑ์เขียนว่า "เครื่องนวดหรรษาพร้อมรีโมตคอนโทรลระยะไกลไว้สนุกกับแฟนสาว"...
ช่างเป็นเครื่องที่เติมเต็มทุกความฝันและความเพลิดเพลินได้เป็นอย่างดี
ดูเหมือนว่าเครื่องมือนี้มีไว้ใช้นวดร่างกาย
ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ลุคไม่รู้เลยว่าการจะนวดใครสักคนจะต้องทำอย่างไรบ้าง
“คุณขายของแบบนี้ด้วยเหรอ? คุณต้องมีสินค้าพวกนี้อีกหลากหลายประเภทแน่นอนถูกไหม?” สายตาอันเยือกเย็นที่ชายหนุ่มใช้มองเธอเป็นเหมือนมีดพกอันแหลมคมพร้อมกับความโกรธเคืองซึ่งเล็ดลอดออกมาจากความอบอุ่นของเขา “เจ้านายของคุณบอกว่าให้สอนวิธีใช้ผลิตภัณฑ์นี้กับผู้ชายด้วยไหม?”
เบียงก้าปิดปากไว้แน่น อารมณ์ของเธอค่อย ๆ ดิ่งลงอีกครั้ง
เธอไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี
เขาพูดอย่างจริงจัง “บอกผมมาสิ”
เบียงก้าซึ่งแทบจะครองสติไม่อยู่จ้องมองเขา ราวกับว่าเธอกลัวเปลวไฟจากตาคู่นั้นแผดเผาจนตายไป เธอมองออกไปอีกด้าน เหมือนนักเรียนที่ถูกครูเรียกให้อ่านบทความในหนังสือ
เธอท่องทั้งหมดออกมาจากความทรงจำด้วยน้ำเสียงที่ลังเลไม่น้อย
“สำหรับอันนี้… สิ่งนี้ แม้ว่าคุณลูกค้ากับคนรักจะอยู่ห่างไกลกัน คุณทั้งสองคนก็สามารถ… ยังสามารถสนุก-” ไม่ เธอพูดผิด “เพลิดเพลินกันได้อยู่…
“เครื่องนี้จะสั่งการและควบคุมด้วยโทรศัพท์มือถือของคุณลูกค้า ซึ่งจะสามารถทำให้คุณควบคุมการทำงานได้อย่างเต็มที่... สิ่งนี้มีตัวควบคุมแสนอัจฉริยะที่ทำให้คุณเปลี่ยนโหมดการสั่นได้อย่างอิสระ...”
“อีกอย่างก็คือ...” เธอกลืนน้ำลายอย่างเชื่องช้า “คุณสามารถสร้างรูปแบบการสั่นสะเทือนได้ด้วยตัวเอง คุณสามารถเลือกระยะเวลา… รวมถึงความแรง… คุณยังจะสามารถใช้มันสนุกกับคนรักของคุณ… ได้ทุกที่ในโลก…”
หลังจากพูดตะกุกตะกักไปทั้งประโยค แก้มของเบียงก้าก็ร้อนผ่าว
สีของกุหลาบแดงกระจายจากแก้มไปที่ติ่งหู ใบหน้าอันเรียวเล็กและบอบบางเผยให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ตลอดจนการยั่วยวนใจและแรงปรารถนาของเธอ
ลุคก้มศีรษะลงทันที และถือสิ่งที่เธอพล่ามสรรพคุณนานสองนานไว้ในมือ เขาลูบของเล่นชิ้นนี้เป็นเวลานานแล้วกระซิบข้างใบหูของเธอว่า "ผมอยากได้ของเล่นชิ้นนี้"
'เขา... เขาต้องการ...'
'เขาจะทำอะไรกับของชิ้นนี้...?
“เอ่อ ของชิ้นนี้ขายให้คุณผู้หญิงเท่านั้นนะคะ… และก็มีไว้ใช้งานกับแค่ผู้หญิงด้วยค่ะ” เธอเตือนเขาอย่างใจดี แต่หลังจากกล่าวเตือนเขา เธอต้องรู้สึกเสียใจทันที
น้ำเสียงของลุคเริ่มหนักแน่น “ผมจะซื้อให้ภรรยาผมนะครับ เธอจะได้รู้สึกดีที่มีผมเป็นคนคอยควบคุมเครื่องเอง ถ้าผมจำไม่ผิด คุณพูดแบบนี้สินะครับ”
'ภรร... ภรรยาของเขา...'
เธอสูดดมกลิ่นของชายคนนั้นเข้าไปในเต็มปอด และความร้อนจากชายคนนั้นแผ่ซ่านและทะลุผ่านเสื้อผ้าบาง ๆ ของทั้งคู่ ผิวหนังของเธอร้อนจนแทบไหม้
สิ่งที่น่าหวาดหวั่นที่สุดคือ ตั้งแต่ต้นจนจบ เจ้าหนูลุคก็ลุกชูชันขึ้นมาตลอดเวลาเลย
จนกระทั่งตอนนี้ บางส่วนของเขาก็ตั้งตระหง่านและไม่ยอมอ่อนข้อเลย
เจ้าหนูลุคน่ากลัวเสียจนสามารถกลืนกินเธอได้ทั้งร่างกาย
ลุคเคยเห็นเธอใส่ชุดนักเรียนมาก่อน ซึ่งที่เห็นนั้นเป็นกระโปรงสั้นกับเสื้อเชิ้ต
ย้อนกลับไปในตอนนั้น เบียงก้ายังสวมชุดนักเรียนในระหว่างตั้งครรภ์เพราะเธอยังเป็นนักเรียนและไม่มีเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าในตอนเลิกเรียน ด้วยเหตุนี้ เธอจึงสวมชุดนักเรียนไปที่คฤหาสน์กับเฟย์เสมอ
เมื่อชายผู้นั้นโอบเอวด้วยมืออันใหญ่โตและจับด้านหลังศีรษะแล้วเคลื่อนไปทางหน้าอกของเธอ เขาก็ก้มหน้าลงและใช้ริมฝีปากสัมผัสเธอ เธอหอบหายใจขณะที่มือเล็ก ๆ ของเธอวางอยู่บนหน้าอกอันแข็งของเขา เธอกะพริบตาด้วยอารมณ์สับสนและเปียกชื้น เธอจ้องมองไปยังลุค “คุณบอกว่า... ถ้าฉันเชื่อฟังคุณ คุณจะยอมทำตามคำขอของฉัน”
“อยากขออะไรล่ะ? เหมือนกับที่คุณเคยบอกผมมาก่อนรึเปล่า ว่าคุณชอบฌองแค่คนเดียวและในชีวิตนี้ คุณจะไม่สามารถมอบหัวใจให้คนอื่นได้อีก” ลุครู้สึกอึดอัดโดยเฉพาะตรงจุดนั้น
เพราะตอนนี้ส่วนนั้นของเขาที่ถูไปกับเนื้อผ้าของกางเกงเริ่มรู้สึกเจ็บขึ้นมาแล้ว
เบียงก้าส่ายศีรษะ
“ฉันอยากจะถามว่า...” เธอทนไม่ไหวกับการเต้นของหัวใจและไม่สามารถพูดออกมาได้ เนื่องจากนั่งบนตักของเขา หัวใจของเธอก็เต้นเร็วขึ้น ตอนนี้ เธอไม่สามารถแม้แต่จะสร้างประโยคได้ด้วยซ้ำ
"ฉันอยากถามคุณเกี่ยวกับเรื่องลานี่และเรนนี่ค่ะ...ใครกันคะ...จริง ๆ แล้วแม่ของเด็ก ๆ เป็นใครคะ?"
ตอนแรก เธอต้องการถามว่าลานี่และเรนนี่เป็นลูกของเธอหรือไม่ แต่เมื่อคำพูดนั้นถูกเปล่งออกจากริมฝีปากเธอ มันก็กลายเป็นคำถามไปโดยปริยาย
เธอเขินอายเกินไปแล้ว ณ ตอนนี้
หลังจากถามไปอย่าเช่นนั้น หัวใจของเบียงก้าก็เต้นแรงอยู่ภายในอกเพราะความหวาดกลัว เธอก้มศีรษะลงและรอคอยคำตอบ แต่เธอก็ไม่มีความกล้าพอที่จะเงยหน้าขึ้น
สีหน้าของเขาก็สงบลงทันตา
เขาอยู่ใกล้เธอมากเสียจนไม่มีใครบอกได้ว่าเสียงลมหายใจอันร้อนแรงนั้นเป็นของใคร
“บางทีเราควรจะต้องมาสนุกกันอีกสักรอบแล้วจริง ๆ คุณจะได้รู้สักทีว่าใครเป็นแม่ของลูก ๆ ผม” ลุคกระซิบข้างหูเบียงก้าด้วยเสียงที่แหบแห้ง
'นั่นแปลว่าเขายอมรับแล้ว…’
เธอให้กำเนิดทั้งลานี่และเรนนี่ รวมถึงเขาเป็นชายคนนั้นที่ช่วยเธอและต้องการตัวเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก