หลังจากที่เบียงก้าได้ยินคำตอบที่เกือบจะใกล้เคียงความเป็นจริงกับหูตนเอง เธอสงบสติอารมณ์และหายใจเข้า หลังจากเวลาผ่านไปนาน เธอจำได้ว่าเธอต้องลุกออกจากตักที่ร้อนและแข็งแรงของลุค
เมื่อพยายามจะขยับตัว เธอพบว่าขาของตนนั้นอ่อนแรงราวกับไร้กระดูกก็ว่าได้
เธอไม่สามารถยืนขึ้นได้
รู้สึกราวกับว่าขาเธอกลายเป็นขาคนอื่นไปเสียแล้ว
ริมฝีปากบาง ๆ และร้อนของชายคนนั้นเม้มและจูบลงอย่างนุ่มนวลตรงติ่งหูเธอ ลมหายใจอันรุนแรงและร้อนรุ่มตรงเข้าใบหูจนทำให้เธอชาไปทั้งตัว ใบหน้าเธอแดงก่ำและหัวใจเต้นระรัว
เธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป
"อย่าค่ะ... อย่าทำแบบนี้..." เบียงก้าอ้าปากค้าง แต่เธอถูกความเป็นชายอันอบอุ่นของลุคกระชากลงไปอย่างรุนแรง
“ไม่ต้องกลัวไป ไม่มีใครเข้ามาหรอก”
เบียงก้าเป็นดั่งขุมทรัพย์ในฝ่ามือ ลุคอุ้มเธอขึ้นมาและจัดการให้เธอให้นั่งคร่อมเขา
เบียงก้าไม่สามารถนั่งแบบนั้นได้เลย เพราะการแข็งตัวของชายคนนั้น... ขนาดมันใหญ่เกินไปและกระโปรงเธอก็บางเหลือเกิน
ความรู้สึกที่เธอไม่สามารถนั่งลงได้นั้นทำให้ใบหน้าเธอขึ้นสีอย่างชัดเจน
เมื่อเห็นสภาพเบียงก้า ลุคก็ปรับเปลี่ยนท่าทีให้เธอสามารถนั่งลงมาได้อีกเล็กน้อย แต่ท่าทางเขาทำให้ใบหน้าเธอแดงยิ่งขึ้น
เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากัน เธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าอันเฉียบคมของชายคนนั้นและดวงตาเขาที่ฉาบไปด้วยแรงตัณหาคู่นั้น
เมื่อก้มหน้าลง เธอเห็นบางจุดใต้กางเกงชายคนนั้นตั้งตรง
เบียงก้าอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย ริมฝีปากเธอแห้งเหือดและเธอต้องการหนีห่างจากเขา ประนึงว่าชีวิตนี้ตั้งอยู่บนการวิ่งหนีไปเสียแล้ว
“เลิกขยับสักที-” ชายคนนั้นคว้าข้อมือเธอ มือใหญ่โตอีกข้างจับต้นขาที่ไม่เชื่อฟังของเธอมาไว้บนตัวเขา
แม้ว่าจะมีชั้นของกางเกงกั้นอยู่ระหว่างพวกเขาทั้งสอง แต่ก็ไม่สามารถหยุดเปลวในร่างกายที่ลุกโชนได้เพราะหญิงคนนี้ดันไปจุดไฟตัณหานี้ขึ้นมาเอง
มีชั้นผิวอันด้านและหนาบนฝ่ามือของชายที่กุมข้อเท้าเธอไว้ เกิดจากการออกกำลังกายเพื่อความแข็งแรงตลอดทั้งปีและการควบคุมพวงมาลัย สัมผัสของเขาค่อนข้างหยาบและแห้งกราน
“จะหนีทำไมเล่า? คิดถึงฌองอีกแล้วเหรอ? นั่งบนตักผมแล้วเกิดรู้สึกผิดที่ทรยศต่อรักครั้งแรกของคุณรึไง? หรือเพราะคุณรู้สึกผิดที่นอกใจสามีคนนั้น?” สายตาที่ใช้ลุคมองหน้าเธอพลันมืดมนลง
เมื่อพูดถึงรักครั้งแรกของเธอ ทำไมกันหนอถึงกลายเป็นเจ้าฌองนั่นไปได้
มันเป็นความรู้สึกซึ่งราวกับว่ามีก้างติดอยู่ในลำคอของชายหนุ่ม ซึ่งเขาไม่สามารถกลืนเข้าไปหรือคายออกมาได้เลย
ขณะที่ก้างขวางคออย่างเจ้าฌองนั่นยังไม่หายไปไหน ตอนนี้กลับมีเจ้าซาเวียร์โผล่กระแทกใบหน้าเขาในฐานะสามีของเธออีก
ผู้หญิงคนนี้สร้างปัญหาให้กับเขาได้เสมอ
ถึงกระนั้น เขาก็หักห้ามใจให้รักผู้หญิงคนนี้ไม่ได้อยู่ดี
มือใหญ่ของลุคที่จับข้อเท้าเบียงก้า ขยับขึ้นอย่างเชื่องช้า ฝ่ามือสัมผัสไปที่ผิวหนังของข้อเท้าและเลื่อนไปที่น่องก่อนจะหยุดลง
ชายคนนั้นบีบน่องเรียวสวยสีขาวของเบียงก้าแล้วลูบไปมาเชิงหยอกล้อ ซึ่งทำให้เบียงก้ารู้สึกจักจี้ และเธอดึงน่องกลับโดยไม่รู้ตัว
เพื่อให้อาการจั๊กจี้บนน่องทุเลาลง
แต่เบียงก้ายังคงนั่งคร่อมต้นขาลุคอยู่ เธอลูบไล้น่องขาขณะนั่งอยู่บนต้นขาของลุค
ไฟที่โหมกระหน่ำเริ่มลุกไหม้ตั้งแต่ต้นขาของลุคผ่านกางเกง และลุกไหม้ขึ้นไปทีละน้อยจนถึงช่องท้องส่วนล่างที่เกิดอาหารตึงอยู่
เบียงก้ายังคงคิดจะเจรจากับเขาต่อไป เธอต้องการจะพบลานี่และเรนนี่ รวมทั้งการดูแลลูกทั้งสองของตนอย่างใกล้ชิด
"อืม-"
ก่อนที่เธอจะคิดได้ ริมฝีปากอันร้อนและชุ่มชื้นของชายคนนั้นก็ประกบริมฝีปากเธอเสียแล้ว
ดวงตาของเธอเบิกกว้าง มือของเธอจับไหล่ชายคนนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เขาเข้าใกล้เธอมากกว่านี้ เธอต้องการจะพูดบางอย่าง แต่เมื่อเธออ้าปาก กลับกลายเป็นว่าเธอได้เปิดโอกาสที่ดีที่สุดให้ผู้ชายคนนั้นรุกเข้าหาเธอหนักกว่าเดิม
ราวกับว่าขณะที่ชายคนนั้นรุกล้ำเข้ามา เธอก็ยอมเปิดปากอันชุ่มชื้นอย่างว่าง่ายเพื่อตอบรับเขา
“เอ่อ...แฮ่ก...”
ลุคครอบงำและยึดริมฝีปากน้อย ๆ ทำให้เธอหายใจไม่ออก ปากเธอโดนกระทำจนชาไปหมดและร่างกายของเธอเริ่มตอบสนองแตกต่างออกไป
เมื่อลุคได้ยินเสียงหอบเล็ก ๆ มือใหญ่ที่อยู่ไม่สุขขยับขึ้นจากน่องไปจนถึงโคนต้นขาของเธอ
ต้นขาเรียบเนียนของเบียงก้านั้นบอบบางมาก เมื่อฝ่ามือหยาบกร้านสัมผัสเธอ เธอก็ตัวสั่นเทาและขนลุกไปทั่ว
"คุณกำลังจะทำอะไรคะ?" เบียงก้าเหงื่อออก หัวใจของเธอสูบฉีดเลือดแทบไม่ทันและเริ่มหายใจไม่ออก
ราวกับว่าเธอสูญเสียจิตวิญญาณตนเองไปและตื่นขึ้นมาหลังจากเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เห็นได้ชัดว่าจุมพิตของชายหนุ่มทำให้เธอเขินอายอย่างมาก ดังนั้นเธอจึงรีบแยกริมฝีปากออกจากเขา
เมื่อมือใหญ่แตะต้นขาด้านในของเธอ ชายกระโปรงสั้นสีดำถูกยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
เครื่องปรับอากาศในห้องส่วนตัวแสนหรูหราก็เย็นสบายดี ราวกับว่าผู้ชายในชุดสูทและรองเท้าหนังเกิดมาพร้อมกับร่างกายอันร้อนรุ่มตามธรรมชาติและไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากเครื่องปรับอากาศ
ร่างกายลุคเริ่มร้อนขึ้นเรื่อย ๆ
ทันใดนั้น กระโปรงสั้นเธอก็ถูกเปิดขึ้น และเบียงก้าก็รู้สึกถึงสายลมเรียกสติซึ่งพัดผ่านร่างกายไป มิฉะนั้น เธอจะไม่รู้เลยว่าเธอดื่มด่ำอยู่ในริมฝีปากของชายหนุ่มนานเท่าใดแล้ว
หลังจากถูกชายหนุ่มรุกล้ำเข้ามาขนาดนี้แล้ว ไม่มีผู้หญิงคนใดที่จะฟื้นคืนสติตัวเองได้ง่าย ๆ
สายตาที่แผดเผาและลึกซึ้งของลุคมองไปยังบริเวณอันอ่อนนุ่มที่มือของเขาสัมผัสอยู่ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “วันนี้คุณไม่ใส่กางเกงซับในเหรอ?”
สายตาของทั้งสองกำลังสบกัน และเขาก็กำลังไม่พอใจอย่างมาก
เบียงก้าดึงกระโปรงออกจากมือของชายคนนั้นด้วยความโกรธและปิดส่วนที่เปิดออกมาของตน
'จะใส่หรือไม่ใส่มันเป็นปัญหาส่วนไหนของเขามิทราบ?!'
“ทำไมคุณถึงไม่ป้องกันตัวเองแบบนี้? ผมถามคุณว่าทำไมถึงไม่ใส่กางเกงซับใน?” ลุคเป็นเหมือนพ่อที่เข้มงวดกำลังสั่งสอนลูกสาวของตน
เขาจำได้ว่าเมื่อเธอสวมเครื่องแบบและเฟย์พาไปที่คฤหาสน์ เธอสวมกางเกงซับตลอดเพราเขาเป็นคนถอดมันออกเองในคืนนั้น
ตั้งแต่นั้นมา เขาหวังเสมอว่าเธอจะแต่งกายให้มิดชิดและป้องกันตัวเองในที่อื่น ๆ ที่ผู้ชายชอบแห่กันไป
นั้นราวกับความเป็นเดือดดาลของนายเหนือหัวก็ว่าได้
มันยากที่จะควบคุมได้ และพร้อมจะระเบิดออกมาทุกเมื่อ!
เบียงก้าไม่ต้องการอธิบายหรือแก้ตัว มันเป็นวันแรกของการทำงาน และเธอไม่ได้คาดคิดว่าเจ้านายเธอจะให้พวกตนใส่กระโปรงสั้นเช่นนี้
ถ้าเธอรู้ล่วงหน้า เธอก็คงจะเตรียมตัวใส่กางเกงซับในไว้
อย่างไรเสีย ก็มีพวกวิปริตมากมายที่ชอบแอบดูและแอบถ่ายอยู่ดี ในเมือง มีข่าวเกี่ยวกับคนพวกนี้ไม่เว้นแต่ละวัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกันตนเองเสมอ
“ที่แต่งตัวแบบนี้มาเนี้ย ตั้งใจจะอ่อยใครที่ไหนรึเปล่า?”
ลุคจับต้นคอเธอด้วยมือขนาดใหญ่ เขาบังคับให้เธอหันหน้ามองเขา
เขาโกรธเธอที่ไม่ป้องกันตัวเองเช่นนี้ เขาต้องการจะสอนบทเรียนให้เธอ เป็นลงโทษให้เธอจะได้จดจำตลอดไป!
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอดันไปเจอผู้ชายที่ต้องการทำมิดีมิร้ายกับเธอขณะทำงานอยู่?
ใครจะช่วยเธอ?
“ทำไมถึงไม่พูดอะไรหน่อยเล่า? ใบ้กินไปแล้วรึไง?”
ลุคยิ่งเดือดดาล มือใหญ่เอื้อมเข้าไปใต้กระโปรงและสัมผัสเนินพุ่มไม้อันหวานชื่น...
เมื่อลุคกดดันเธอเช่นนั้น เบียงก้าก็ผลักเขาอย่างรุนแรง และขัดขืนไปพร้อมกับใบหน้าสีแดงระเรื่อ เธอต้องการเอามือของเขาออกไป
แม้ว่าเธอจะโกรธมาก แต่ชายคนนั้นขู่เธอด้วยน้ำเสียงแสนหนักแน่นว่า “ถ้าคุณยังดิ้นแบบนี้ ก็อย่าหวังว่าจะได้เจอเด็ก ๆ อีกนะ”
ทันใด เบียงก้าไม่กล้าแม้แต่จะขยับส่วนใดเลยด้วยซ้ำ
เด็กทั้งสองกลายเป็นเครื่องต่อรองชั้นเลิศของชายผู้นี้ไปเสียแล้ว
มือใหญ่ของลุคยังอยู่ใต้กระโปรง แทนที่จะขยับมือออกไป เขาดันขยับใกล้ทีละน้อย
โทรศัพท์มือถือของลุค เครื่องสีดำและบางวางอยู่บนโซฟาสีแดง มีเบอร์ส่วนตัวโทรเข้ามาและโทรศัพท์เครื่องนี้กำลังกะพริบอยู่
เบียงก้าสังเกตเห็นแสงนั้น
นิ้วของเขากำลังเล่นสนุกกับเธออยู่ แต่ในไม่ช้า เธอกลับรู้สึกแตกต่างออกไป
เบียงก้าไม่รู้จะบอกเขาอย่างไรดี เธอสั่นเล็กน้อยขณะพยายามบอกเขาว่า “โทรศัพท์ของคุณค่ะ เอ่อ... โทรศัพท์ของคุณกำลังดังค่ะ…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก