เรนนี่ผล็อยหลับไปด้วยความเคลิ้มและเกือบจะไม่รู้ตัว
มือเล็ก ๆ ของเธอโอบรอบคอน้าบีอย่างมีความสุข เธอซบตัวเองมากขึ้นในอกของน้าบีโดยไม่รู้ตัว เธอเบ้ปากเล็ก ๆ และพูดว่า “ตัวน้าบีหอมมากเลยค่ะ…”
ลุคที่นอนอยู่อีกด้านของเตียงใหญ่ "..."
ในห้องนอนที่กว้างขวางและถูกตกแต่งอย่างหรูหรา มีโคมไฟติดผนังที่มีแสงสลัวเพียงสองดวงเปิดอยู่เหนือเตียง นั่นคือเหตุผลที่ห้องนอนที่เหลือถูกความมืดปกคลุมไว้หมด ยกเว้นรอบเตียงใหญ่
เบียงก้าค่อย ๆ ลูบไล้ผมเรนนี่เพื่อพยายามทำให้เด็กหลับเร็วขึ้น
พลังอันเหลือล้นของเรนนี่เหนือกว่าจินตนาการของผู้เป็นแม่อย่างเธอ เธอไม่ร้องไห้หรือสร้างปัญหาใด ๆ เลย และผล็อยหลับไปอย่างว่าง่าย
“น้าบีคะ หนูอยากลองจับหน้าอกของคุณจัง”
เรนนี่หลับตาลง และมือเล็ก ๆ ของเธอก็คลำหาบางอย่างที่ต้องการ
เบียงก้ารู้ดีว่านี่ เป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กอายุ 5 ขวบที่จะอยากนอนกอดแม่...
ถึงกระนั้น ยังมีชายคนหนึ่งที่อยู่บนเตียงใหญ่
เธอรู้สึกเขินอายไม่น้อยเลย
หลังจากวุ่นวายใจกับความคิด เบียงก้าก็มองลงมาที่เรนนี่ซึ่งอยู่ในอ้อมแขนและตัดสินใจที่จะไม่ปฏิเสธเด็กคนนั้น
หลังจากพลัดพรากกันมานานกว่าห้าปี ลูกสาวตัวน้อยกำลังร้องขอเรื่องง่าย ๆ กับผู้เป็นแม่ เธอไม่สามารถปฏิเสธคำขอลูกสาวได้
“ก็ได้จ้ะ พอจับเสร็จแล้วต้องนอนได้แล้วนะ ตกลงไหม? แล้วพรุ่งนี้ฉันจะทำอาหารเช้าแสนอร่อยให้ทานนะ” เบียงก้าคว้ามืออวบอ้วนของเด็กน้อย แล้วแปะมือนั้นไว้ภายใต้เสื้อของตน
หลังจากสัมผัสสิ่งที่เธอต้องการแล้ว เรนนี่ก็เบียดตัวเองไปมาบนแขนของหญิงสาว ราวกับเด็กที่มีความสุขที่ได้นอนอยู่ในอ้อมแขนของแม่ ฉากนั้นดูเหมือนมาจากการ์ตูน และในที่สุด เด็กก็ผล็อยหลับไปอย่างหวานชื่น
ลุคที่นอนอยู่อีกด้านของเตียงใหญ่แต่ยังนอนไม่หลับ "..."
เบียงก้าที่ดูแลลูกสาวเป็นอย่างดี และไม่ได้ขยับตัวไปไหนขณะนอนอยู่บนเตียง เธอนอนในท่าตะแคงและไม่ไหวติงเพราะกลัวว่าจะปลุกลูกสาวที่กำลังหลับอยู่
เมื่อเวลารุ่งสาง เบียงก้าก็ผล็อยหลับไปด้วยความงัวเงีย
แม้ว่าเธอจะหลับ แต่จิตใต้สำนึกของเธอยังคงจำได้ว่าลูกสาวอยู่ในอ้อมแขนของตน
เธอกลัวว่าจะนอนทับเด็กน้อยเข้า
ขณะหลับไป เธอรู้สึกว่ามือเล็ก ๆ ของลูกสาวที่กำลังจับหน้าอกเธออยู่ถูกพรากไป
มีความรู้สึกชื้นตรงจุดที่มือของลูกสาวทาบอยู่ ขณะนอนหลับ เบียงก้าเอื้อมมือไปกอดลูกสาวที่นอนอยู่ข้างกาย
เธอต้องการทำให้ลูกรู้ว่าเธอยังอยู่ที่นั่น
แต่เมื่อเอื้อมมือไป เธอไม่รู้สึกถึงตัวของลูกสาวเลย
หลังจากเอื้อมมือออกไปคลำหาอีกครั้ง ก็ยังว่างเปล่า สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกคือผ้าปูที่นอนผ้าไหมนุ่ม ๆ
เบียงก้าดูเหมือนจะฝันร้ายและตื่นขึ้นทันทีทันใด!
หลังจากลืมตาแล้ว เบียงก้าก็ลุกขึ้นมานั่ง ปากเธอเปิดเล็กน้อย เธอมองไปรอบ ๆ ห้อง และคิ้วขมวดเล็กน้อย
ไม่มีใครอยู่ในห้องนอนใหญ่
โคมไฟติดผนังเปิดอยู่ และมีร่องรอยของเด็กนอนอยู่บนเตียงท่ามกลางแสงสลัว แต่เด็กคนนั้นหายไป
หลังจากตื่นขึ้นประมาณสิบวินาที เบียงก้าก็ลุกออกจากเตียง ใส่รองเท้าแตะ และกำลังจะออกจากห้องนอน
ในขณะนั้น เธอไปถึงประตูและบังเอิญเห็นชายคนหนึ่งเดินออกจากห้องนอนของเด็ก ๆ
ลุคปิดประตูห้องลูกสาวอย่างเบามือและกำลังจะกลับห้อง
ทั้งสองสบตากันและเบียงก้ายืนอยู่ที่นั่นขณะที่เธอถามเขา "ทำไม...? ทำไมคุณถึงพาลูกออกไปคะ?"
หลังจากตื่นนอนแล้ว ผิวของเบียงก้าเป็นเหมือนไข่ลวกที่ปอกเปลือกแล้ว มันมีสีขาวและเรียบเนียนด้วยความแวววาวซึ่งน่าลิ้มลองเป็นพิเศษ กางเกงท่อนล่างและเสื้อผู้ชายท่อนบนที่เธอสวม ล้วนมีรอยย่นเพราะการนอนก่อนหน้านั้น อย่างไรก็ตาม รอยย่นบนเสื้อผ้าดูเหมือนจะแนบเข้ากับร่างกายของเธออย่างสวยงามราวกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย
“ท่านอนของคุณไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และคุณก็ทับเรนนี่อยู่ด้วย” ลุคละสายตาจากเธอ และเดินผ่านเข้าไปในห้องนอน
'อะไรนะ?'
เบียงก้าขมวดคิ้ว ท่านอนของเธอไม่ดีงั้นเหรอ?
'จริงจังเหรอเนี่ย?!'
เบียงก้าหันกลับมาและตามเขาไป “ท่านอนของฉันปกติดีอยู่เสมอนะคะ ตอนฉันยังเด็ก คุณปู่บอกฉันแบบนี้นะ ตอนฉันโต เพื่อนร่วมชั้นบอกฉันเสมอ ๆ แบบเดียวกัน รวมถึงใครก็ตามที่เคยร่วมห้องกับฉันด้วย อื้ม–”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก