ขณะที่ลุคเดินกลับมายังห้องของตัวเอง เขาก็บังเอิญเห็นว่าเบียงก้าเดินออกมาพร้อมกับหมอนและผ้าห่มในมือ
เมื่อสายตาของทั้งคู่สบประสานกัน เบียงก้าก็ก้มหน้าหลบสายตาของชายหนุ่มทันที เธอกระชับผ้าห่มที่เหน็บไว้ที่แขนแน่น
ลุคขมวดคิ้วแล้วจ้องมองเธอโดยไม่พูดอะไร
เพียงครู่เดียว เบียงก้าเอ่ยปากขึ้น “ฉันจะนอนบนโซฟานะคะ”
ขณะที่เบียงก้ากำลังเดินสวนกับลุคไปที่ห้องนั่งเล่น ผ้าห่มกับหมอนที่เธอถือไว้ในมือก็ถูกเขาแย่งไป
เธอจ้องมองเขา
เบียงก้ามองตามแผ่นหลังที่ห่างออกไปของลุค แผ่นหลังของเขาเหยียดตรง แถมยังมีแขนดูแข็งแรงสมส่วนอยู่ภายใต้ชุดคลุมนอนสีเข้ม ไม่ว่าเธอจะมองอย่างไร ร่างกายของเขาก็ดูสมบูรณ์แบบอย่างที่สุด
เบียงก้าเห็นลุคกางผ้าห่มออกอย่างลวก ๆ ก่อนโยนหมอนตามลงไป เขาเอนตัวลงนอนบนผ้าห่มผืนนั้นทั้งที่มันยังไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ เบียงก้าเดินเข้าไปใกล้เขาเล็กน้อย ในฐานะของผู้หญิง เธอเป็นพวกชอบย้ำคิดย้ำทำนิดหน่อย ดังนั้น เธออยากเข้าไปจัดผ้าห่มให้เขาใจจะขาด
แต่ในท้ายที่สุด เธอก็อดใจเอาไว้ได้
ห้องนอนของเรนนี่อยู่ไม่ไกลจากห้องนอนใหญ่ ดังนั้น เบียงก้าจึงเดินเข้าไปในห้องของเด็กสาว
เบียงก้าผลักประตูห้องนอนของเรนนี่เปิดอย่างเบามือ แสงจากด้านนอกห้องค่อย ๆ ส่องเข้าไป เรนนี่จึงไม่ตื่นขึ้นเพราะแสงที่จ้ามากเกิน
เมื่อเบียงก้าเห็นว่าเรนนี่หลับสนิท เธอก็รู้สึกโล่งใจ
เบียงก้าดึงมือเล็กจิ๋วของเรนนี่ออกจากใบหน้าของตนเองแล้วซุกมือนั้นไว้ใต้ผ้าห่มแทน ก่อนจะกลับออกมา
เบียงก้าไปยังห้องของลานี่
ลานี่ก็ดูหลับสบายเช่นกัน หากแต่ท่านอนของเขานั้นดูไม่เหมาะสมเท่าน้องสาว
เบียงก้าค้อมศีรษะลงไปหอมหน้าผากของลูกชายอย่างระวัง เธอมองไปที่ใบหน้าอันอ่อนเยาว์ของลูกชาย แล้วรู้สึกว่าท่าทางการนอนของเขาดูคล้ายกับชายที่นอนอยู่ด้านนอกนั่นไม่มีผิด...
เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจให้กับพลังของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของพวกเขาเสียจริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก