แดเนียลเดินออกไปข้างนอกก่อนแล้ว
ซาเวียร์เดินออกจากที่นั่งในแถวที่สามไปที่ทางเดิน เขายืนอยู่ตรงจุดที่สามารถมองทุกอย่างในแถวสี่ได้อย่างชัดเจน เขามองไปยังทั้งสองคนอีกครั้ง
ในตอนนั้น ผู้ชมเกือบทั้งหมดออกไปแล้ว
บนเวทีละคร ทีมงานฝ่ายอุปกรณ์กำลังขนย้ายข้าวของไปเก็บที่ด้านหลังเช่นกัน
ในที่นั่งแถวที่สี่ ปรากฏชายหญิงคู่หนึ่งกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างหนักหน่วง มือใหญ่โตของชายหนุ่มสอดเข้าไปในเสื้อของหญิงสาวในที่สาธารณะเช่นนี้ พวกเขาเกิดคำถามว่าทั้งสองคนจะทำอะไรเลยเถิดกันไปขนาดไหนหากอยู่ในที่ลับตาคน
คุณนายแทนเนอร์ไม่ได้เห็นหน้าค่าตาของคนทั้งสอง เธอเดินออกไปเอ่ยปากเรียกลูกชาย “ไปกันเถอะ พ่อของลูกรอเราอยู่ข้างนอกแล้วล่ะ”
ซาเวียร์ขมวดคิ้วและยังคงมองไปที่คู่รักที่กำลังจูบกันอย่างดูดดื่มในที่นั่งแถวที่สี่
แต่เมื่อเขาเห็นว่าทั้งสองคนใส่รองเท้าคู่กันเช่นนั้น เขาก็เลิกขมวดคิ้วและยอมเดินออกไปพร้อมแม่ของตัวเอง
แดเนียลยืนรออยู่ก่อนจะเห็นว่าภรรยาเดินออกมาพร้อมลูกชาย เขาไม่สบอารมณ์นัก “ทำไมคุณชักช้าแบบนี้ล่ะ?”
“ก็มีคู่หนุ่มสาวทำประเจิดประเจ้อโชว์คนอยู่น่ะสิคะ ให้ตายเถอะ ศีลธรรมในโลกนี้มันหายไปหมดแล้ว” คุณนายแทนเนอร์เดินบ่นไปจนถึงลานจอดรถพร้อมสามีและลูกชาย
เมื่อไปถึงลานจอดรถแล้ว คนขับรถที่ซาเวียร์จัดแจงไว้ก็มารออยู่แล้ว
แดเนียลรู้จักคนขับรถคนนี้ดี เด็กหนุ่มคนนี้เคยขับรถพาลูกชายของเขาไปบาร์เมื่อห้าปีก่อน
“นี่มันหมายความว่ายังไง?” แดเนียลเอ่ยถาม
“พ่อกับแม่ควรจะกลับบ้านไปก่อนนะครับ ผมยังมีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย ยังไงซะ ผมก็รักษาสัญญาด้วยการมาดูละครเวทีกับพ่อแม่แล้ว ถ้าอยากให้ผมทำอะไรอีกก็เอาไว้บอกผมคืนนี้แล้วกัน ผมจะกลับไปให้ทันมื้อเย็นนะครับ” ซาเวียร์อธิบาย
เมื่อได้ยินลูกชายอธิบาย คุณนายแทนเนอร์ก็จูงมือสามีให้ขึ้นรถไปเพื่อกันไม่ให้พ่อลูกต้องทะเลาะกันมากกว่าเดิม
แดเนียลไม่พูดอะไร เขาทำแค่เพียงขึ้นรถไป
ก่อนจะก้าวขึ้นรถไปนั้นเอง คุณนายแทนเนอร์หันกลับมาพูดกับลูกชายว่า “ในเมื่อลูกบอกว่าจะกลับมาให้ทันมื้อเย็น งั้นก็ไปเถอะ อย่าทำให้พ่อกับแม่ต้องรอล่ะ เราต้องคุยกันว่าลูกจะเอายังไงต่อเรื่องบี”
ซาเวียร์ให้สัญญา “ไม่ต้องห่วงครับ แม่”
คนขับรถพาผู้สูงวัยทั้งสองคนกลับบ้านไป
ซาเวียร์หันไปปลดล็อกรถ ทันทีที่เสียงปลดล็อกนั้นดังขึ้น เขาก็หันไปเห็นรถเรนจ์โรเวอร์สีดำจอดอยู่ไม่ไกล
เขาชะงักไปทันที
ลุคก็มีรถเรนจ์โรเวอร์สีดำเหมือนกันนี่
แน่ล่ะว่าในเมืองเอนี้ ใคร ๆ ก็ขับรถแบบนี้นับไม่ถ้วน สิ่งเดียวที่จะระบุตัวตนของเจ้าของได้ มีเพียงป้ายทะเบียนเท่านั้น
ซาเวียร์ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้เอะใจกับรถเรนจ์โรเวอร์สีดำคันนี้ เขาจึงเดินเข้าไปดู
เมื่อทะเบียนรถปรากฏขึ้นในสายตา นัยน์ตาของเขาก็หม่นลง
เลขทะเบียนที่ตระการตาบนป้ายนั้นไม่เพียงดึงดูดสายตา แต่มันยังบ่งบอกถึงสถานะทางสังคมของเจ้าของได้อีกด้วย
ริมฝีปากของซาเวียร์แห้งผาก เมื่อเขาหลับตาลง ภาพมากมายฉายซ้ำอยู่ในหัวของเขา
ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วที่เธอไม่รับสาย
เขาโทรหาเธอไม่ติดอยู่ตลอดคืน
จากที่โทรไปไม่รับ ก็กลายเป็น “ขอโทษค่ะ ไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้ในขณะนี้...”
ตั้งแต่วินาทีที่เขาเห็นรถเรนจ์โรเวอร์สีดำคันนี้ เขาก็มั่นใจได้ว่าเบียงก้าบล็อกเบอร์เขาเข้าแล้ว
ทันตา เขาก็นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อน
เขาแค่ต้องโทรหาเบียงก้าด้วยโทรศัพท์เครื่องอื่นเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ให้แน่ชัดเท่านั้น แต่เขาก็ไม่ได้ทำ
เขาได้แต่รออยู่หน้าห้องของพ่อเฒ่าเรย์นอยู่ตลอดคืน
แต่ถึงอย่างนั้น เบียงก้าก็ไม่ได้โผล่มา
กระทั่งรุ่งสาง เขานอนไม่หลับทั้งคืน ทั้งยังรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวมาก ถึงได้เข้าไปล้างหน้าด้วยน้ำเย็นเพื่อปลุกตัวเองในห้องน้ำ
ซาเวียร์ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำบ้าอะไรอยู่กันแน่
เขาไม่ได้ชอบเบียงก้า
ดูเหมือนความหึงหวงจะทำให้เขาไขว้เขว
ยิ่งไปกว่านั้น เขาได้กลายเป็นใครอีกคนที่เขาไม่รู้จัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก