เบียงก้าเห็นแล้วว่าชายที่ยืนอยู่หน้าประตูคือ ซาเวียร์ แทนเนอร์
นี่เป็นการบอกกลาย ๆ ว่าซาเวียร์คงเดินตามหาเธอจนทั่วโรงละครทั้งยังกลับไปที่ห้องโถงวีไอพีเพื่อตามหาเธออีกรอบ แต่ก็หาไม่เจอ
การที่เขามาปรากฏตัวต่อหน้าเธอเช่นนี้ ก็เพราะความโกรธนั่นเอง
เขาได้แต่มองดูภรรยาตามกฎหมายของตัวเองระเริงรักอยู่กับชายอื่นอยู่ตำตา แต่กลับพลาดโอกาสทองที่จะจับพวกเขาได้คาหนังคาเขา
แม้ว่าการแต่งงานของพวกเขาจะไม่ได้เกิดจากความรักเลยแม้แต่น้อย แต่ในฐานะสามีแล้วล่ะก็ ความเจ็บปวดนี้ไม่อาจบรรยายได้เลย
ในความเป็นจริงแล้ว เบียงก้าไม่คิดว่าการไปเยี่ยมพ่อของลูกจะถือเป็นการนอกใจอะไร แต่ในมุมมองของซาเวียร์แล้วล่ะก็ การได้เห็นลุคจูบเธอเท่ากับการนอกใจ
“บี เขาเป็นเพื่อนเธอรึเปล่า?” นีน่ายืนอยู่ที่ประตูด้วยความอึดอัดใจ จากสายตาที่ซาเวียร์มองเบียงก้า นีน่าเดาได้ว่าเบียงก้าน่าจะรู้จักชายคนนี้ไม่มากก็น้อย
เบียงก้าปล่อยให้ความเงียบเป็นคำตอบ
นีน่าอดคิดไม่ได้ว่าเธอน่าจะได้รู้จักเพื่อนคนอื่น ๆ ของเบียงก้าที่นี่ด้วย เพราะในฐานะของเพื่อนร่วมงานใหม่ที่เบียงก้าได้ทำความรู้จักที่บริษัท นีน่ามั่นใจว่าเธอรู้จักคนพวกนั้นดีกว่าเบียงก้าแน่
นอกจากคนพวกนั้นแล้ว คนข้างนอกก็ดูแทบจะไม่เคยได้สุงสิงกับเบียงก้าเลย
ขอสรุปเดียวที่พอจะเป็นไปได้ก็คือ ชายคนนี้อาจจะเป็นคนรู้จักของเบียงก้ามาตั้งแต่สมัยที่เธอเรียนอยู่ต่างประเทศ ตอนนี้คนทั้งคู่กลับมาที่บ้านเกิดแล้วก็กลับมาติดต่อกันอีกครั้ง...
แต่จากสีหน้าของชายคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้านี้ นีน่ารู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเบียงก้ากับเขานั้นซับซ้อนเกินกว่าจะเป็นแค่เพื่อนธรรมดาทั่วไป
“คุณ… คุณอยากเข้ามานั่งด้านในก่อนไหมคะ?” นีน่าเอ่ยถาม
ซาเวียร์ไม่ได้สนใจนีน่าเลยแม้แต่น้อย ดวงตาที่ลุกโชนเพราะไฟโทสะมองไปยังรองเท้าผู้หญิงสีขาวคู่เล็กที่ชั้นวางข้างประตู
ฉากเร่าร้อนที่ประจักษ์แก่สาตาของเขาที่ห้องโถงนั่นแล่นกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง
“เข้ามาสิคะ บังเอิญฉันมีอะไรจะพูดกับคุณด้วย” เบียงก้าเอ่ยอย่างเย็นชา หลังจากนั้นเธอก็หันกลับเข้าครัวไปเพื่อรินน้ำใส่แก้วสองใบ
หลังออกจากห้องครัว เบียงก้าวางแก้วน้ำทั้งสองใบลงบนโต๊ะรับแขก
นีน่าเดินออกมาจากหน้าประตู ตั้งแต่ที่ชายผู้มาเยือนเดินผ่านประตูบ้านเข้ามา ชายคนนั้นมีเรียวขายาว และรูปร่างที่ค่อนข้างดี
แต่เมื่อเทียบกับท่านประธานแล้ว ชายผู้นี้ขาดเล่ห์เหลี่ยมของนักธุรกิจ แต่กลับมีมาดของความโหดเหี้ยมเข้ามาแทนที่
สูทที่เขาสวมใส่นั้นให้ความรู้สึกราวกับหนังแกะที่พรางร่างที่แท้จริงของหมาป่าผู้ซึ่งไร้ความปรานีเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น
“นี่รองเท้าแตะค่ะ” นีน่าช่วยหยิบรองเท้าแตะออกจากชั้นวางให้
เมื่อซาเวียร์ก้มศีรษะลงเพื่อเปลี่ยนไปใส่รองเท้าแตะ เขาก็ได้แต่ขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจที่ดูเหมือนว่าขนาดของรองเท้าที่ดูเหมือนเป็นของผู้ชายเสียมากกว่า
นีน่าที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของซาเวียร์ก็อธิบายอย่างใจดีว่า “รองเท้าแตะคู่นี้เป็นของคุณปู่ของบีน่ะค่ะ คุณใส่มันได้เลย”
หลังจากได้ยินว่ารองเท้าแตะคู่นี้เป็นของปู่เบียงก้า ซาเวียร์ก็สวมมันโดยไม่ต้องคิดอีก
คนทั้งสามยืนอยู่ร่วมห้องนั่งเล่นด้วยความอึดอัด
นีน่ารู้สึกได้ว่าบรรยากาศระหว่างซาเวียร์และเบียงก้านั้นไม่ชอบมาพากล เธอสังหรณ์ใจว่าพวกเขาน่าจะมีเรื่องส่วนตัวต้องคุยกัน เธอจึงพูดกับเบียงก้าอย่างสงบใจ “ฉันจะไปเล่นอินเทอร์เน็ตในห้องตัวเองนะ ถ้าอยากให้ช่วยอะไรก็เรียกแล้วกัน”
เบียงก้าพยักหน้า
เพราะมีนีน่าอยู่ด้วย เบียงก้าจึงกล้าพอจะยอมให้ซาเวียร์ย่างกรายเข้ามาในบ้าน เพราะอันที่จริงแล้ว เธอไม่มีวันที่จะยอมเผชิญหน้ากับคนที่ชอบถือกฎหมายมาข่มเธออย่างเขาแน่
เบียงก้าได้แต่คิดว่าถ้าหากนีน่าส่องตาแมวแล้วเห็นเขาที่หน้าประตู เธอคงจะไม่ยอมให้นีน่าเปิดประตูให้เขาเข้ามาเช่นนี้แน่
ต่อให้ซาเวียร์จะกดกริ่งไปทั้งคืน เธอก็จะไม่เปิดประตูให้
ในเมื่อเหลือเพียงพวกเขาสองคนในห้องนั่งเล่น ซาเวียร์ก็ไม่ได้นั่งลง เขาเดินตรงไปที่ชั้นวางรองเท้า แล้วหยิบเอารองเท้าผ้าใบสีขาวออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก