พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 172

เบียงก้าหมดหนทางแล้ว

ถ้าชายผู้เป็นจุดสนใจออกมาข้างนอกเช่นนี้ เขาก็อาจถูกถ่ายรูปจากฝีมือพวกนักข่าวที่มีหน้าที่จับภาพชีวิตส่วนตัวของคนมีชื่อเสียงเพื่อเต้าข่าว

แต่ถึงเขาจะอยากเปลี่ยนกางเกงก่อนกลับไปก็คงทำไม่ได้ เนื่องจากเจสันผู้เป็นดั่งนางสนองพระโอษฐ์ของลุคไม่อยู่ คนที่ไม่เคยทำงานพลาดอย่างเจสันกลับมาพลาดเอาวันนี้ แถมยังมีนัดบอดอีกด้วย

เบียงก้ารู้ดีว่าการแยกทางกับคนรักนั้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดของชีวิตแต่งงาน เจสันเองก็ไม่ใช่คนอายุน้อย สำหรับเขาแล้วมันคงไม่ง่ายเลยที่จะได้พบรักครั้งใหม่

ทว่าแล้วตอนนี้เธอควรทำอย่างไรดี...

เบียงก้ามองเวลาแล้วก็ได้แต่คิดไม่ตก “นี่ก็ดึกมากแล้ว ห้างสรรพสินค้าใกล้ ๆ นี่ก็คงใกล้ปิดแล้วด้วยสิ ถ้าจะให้ฉันไปซื้อกางเกงตัวใหม่ให้ ฉันเกรงว่าตัวเองคงไปไม่ทันห้างปิดแน่”

“แล้วหลังจากผมฟังคุณพูดทั้งหมดนี้แล้ว คุณกำลังจะบอกผมว่า ผมสามารถนอนค้างที่นี่กับคุณได้คืนหนึ่งแล้วค่อยกลับไปตอนเช้าถูกไหม?” หลังจากเขาเอ่ยขึ้นมาเช่นนั้น ลุคก็ไม่มองมาที่เธออีก เขาเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าที่หม่นลง

เบียงก้ายืนอยู่หน้าห้องน้ำด้วยสีหน้าอันว่างเปล่า

นิ้วของเธอจับเข้าที่กรอบประตูอย่างพูดไม่ออก

เธอไม่เคยพูดสักคำว่าอยากให้เขาค้างคืนที่นี่

ยิ่งกว่านั้น เขายังแสดงสีหน้ารังเกียจออกมาอีกด้วย

บ้านเธอแย่ขนาดนั้นเลยรึยังไง?

“น้าบีคะ หนูนอนตรงไหนได้บ้างเหรอคะ?” บริเวณรอบดวงตาข้างที่ไม่ได้ถูกปิดของเรนนี่แดงไปหมดขณะเอ่ยถาม

เบียงก้าก้มหน้าลงมองใบหน้าเรนนี่แล้วอุ้มเธอขึ้นมา จากนั้นก็เดินไปที่ห้องนอน “เรามานอนที่เตียงนี้ด้วยกัน ดีไหมจ้ะ?”

“ดีค่ะ…” เรนนี่ฝังตัวเองลงในอ้อมกอดของเบียงก้าอย่างมีความสุข

ลุคเปิดเตาแก๊สเพื่อจุดบุหรี่ ลานี่ยืนอยู่ที่ห้องนั่งเล่นเพราะเขาไม่รู้ว่าตัวเองจะไปนอนที่ไหนได้

เตียงนอนของน้าบีนั้นดูเหมือนจะนอนได้เต็มที่แค่สองคนเท่านั้น

ถ้าน้าบีจะนอนกับเรนนี่ ก็หมายความว่าเขาจำต้องนอนที่ห้องอื่นใช่รึเปล่า? แต่เขาก็อยากนอนกับน้าบีด้วยเหมือนกันนี่นา

แต่ถือว่าโชคดีที่เขาไม่ใช่คนขี้ขลาดเขาเคยนอนคนเดียวมาก่อน เพราะงั้นเขาถึงไม่กลัวการต้องนอนคนเดียว

“พ่อครับ ทำไมพ่อยังอยู่นี่ล่ะ?” หลังจากเด็กชายตัวน้อยดื่มน้ำจนหมด เขาก็เดินเข้ามาในห้องครัวพร้อมแก้วในมือ ก่อนจะเขย่งเท้าเพื่อเอื้อมไปหยิบกามาเทน้ำเพิ่ม ในตอนนั้นเองที่เขาเห็นว่าพ่อยังไม่ไปไหน

ลุคหันกลับมามองลูกชายด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

ทุกคนจะอยากให้เขากลับมากขนาดนั้นเลยเหรอ?

เด็กชายชะงักไปทันทีที่ถูกพ่อมองมาเช่นนั้น เขารินน้ำใส่แก้วแล้วเงยหน้ามองผู้เป็นพ่อ “พ่ออยากอยู่ที่นี่เหมือนกันเหรอครับ? แล้วพ่อจะนอนที่โซฟาหรือจะนอนเตียงเดียวกับผม?”

เบียงก้าอาบน้ำให้เรนนี่เสร็จแล้ว เมื่อเทียบกับอพาร์ตเมนต์สุดหรูของลุคแล้ว บ้านเช่าของเธอหลังนี้ก็ดูไม่จืดเอาเสียเลย

ที่นี่มีแค่ฝักบัวธรรมดา แถมระบบทำน้ำอุ่นชอบมีปัญหา น้ำที่ไหลจากฝักบัวจึงเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็นอยู่อย่างนั้น

“สวมเสื้อก่อนนะ จะได้ไม่เป็นหวัดเอา” ฤดูร้อนกำลังสิ้นสุดลงแล้ว และฤดูใบไม้ร่วงก็กำลังเข้ามาแทนที่ อากาศช่วงเช้าและกลางคืนนั้นเริ่มเย็นลง

เบียงก้าไม่อยากให้ลูกของเธอป่วย แต่เพราะพวกเขามาโดยไม่บอกเธอล่วงหน้า เรนนี่จึงไม่มีชุดนอนดี ๆ ใส่ และนี่ก็ดึกเกินกว่าที่จะออกไปหาซื้อชุดให้สาวน้อยแล้วด้วย เบียงก้าจึงหาได้เพียงแค่เสื้อยืดมาให้เธอใส่แทนเท่านั้น

เธอไม่ได้สระผมให้เรนนี่ เพราะกลัวว่าหยดน้ำจากผมที่เปียกจะซึมเข้าผ้าปิดตาของเรนนี่เอาได้

“ไปห่มผ้านอนได้แล้วล่ะ” เบียงก้าอุ้มเรนนี่ขึ้นไปบนเตียง แล้วจัดแจงห่มผ้าให้เธอ ก่อนจะจุมพิตลงบนหน้าผากของเด็กน้อย

เรนนี่มองเบียงก้าที่จูบหน้าผากของตนด้วยตาที่ถูกปิดไปข้างหนึ่ง เรนนี่เอ่ยเสียงหวาน “ราตรีสวัสดิ์ค่ะ น้าบี!”

“ราตรีสวัสดิ์จ้ะ” เบียงก้าพยักหน้า

เรนนี่หลับตาลงอย่างว่าง่าย และเริ่มเคลิ้มไป เด็กน้อยไม่กล้าทำตัววุ่นวาย เพราะกลัวว่าน้าบีของเธอจะเกลียดตัวเองกับพี่ชาย แถมยังกลัวว่าเบียงก้าจะมองว่าพวกเขาน่ารำคาญอีกด้วย

หลังจากเรนนี่อาบน้ำไปแล้ว ลานี่ก็เข้าไปอาบน้ำบ้าง

หลังจากอาบน้ำเสร็จ เด็กชายเดินออกมาอย่างเหนียมอาย เขาสวมเสื้อตัวเดิม ทั้งยังใช้ผ้าขนหนูปิดหน้าไว้

เขาไม่ได้พูดอะไรกับพ่อ เพียงแค่เดินเข้าไปในห้องนอนที่พ่อเฒ่าเรย์นเคยพักอยู่เท่านั้น

ผ้าห่มในห้องนี้เป็นของใหม่เอี่ยม มันทั้งนุ่มฟูและมีกลิ่นผงซักฟอกจาง ๆ อีกด้วย เพียงแต่วัสดุที่ใช้ทำผ้าห่มนี้ไม่ได้ดีเด่อะไร ราคาก็เทียบไม่ได้กับผืนที่ใช้กันในครอบครัวครอว์ฟอร์ด

แต่ถึงอย่างนั้น ลานี่ก็รู้สึกชอบผ้าห่มผืนนี้มากกว่า

เบียงก้ามองดูเรนนี่ที่หลับไปแล้ว ก่อนจะปิดประตูแล้วออกจากห้องมา

อาจจะเหลือแค่คู่พ่อลูกที่ยังคงตื่นอยู่ในบ้านเช่ารูหนูนี่

เบียงก้ายังต้องคอยดูพวกเขา

หลังจากออกมานอกห้องนอน เบียงก้าเห็นว่าลุคนั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา ก่อนจะเห็นว่าช่องที่เขาดูคือช่อง ซีเอ็นบีซี

เบียงก้ารู้สึกประหลาดใจกับชายที่ชอบดูช่องที่เสนอข่าวทุกอย่างได้อย่างซ้ำซากจำเจเช่นนี้

ลุคจ้องหน้าโทรทัศน์ตาไม่กะพริบ เขามีใบหน้าแสนโดดเด่น เข้ากับผมสั้นสีดำขลับที่ดูภูมิฐานและสะอาดสะอ้าน แถมรังสีที่แผ่ออกมาก็ยังให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่งและมีอำนาจอีกด้วย กว่าจะไล่สำรวจรายละเอียดของชายตรงหน้าได้ครบ คงต้องใช้เวลาไม่น้อย

เพราะแม้แต่นิ้วมือของเขาก็ยังมีเอกลักษณ์เหนือผู้ชายทั่วไป ช่วงวัยแรกแย้มของเบียงก้า เธอได้เห็นคู่รักมากมายในโรงเรียน เธอเคยเห็นปลายนิ้วที่เด็กผู้ชายพวกนั้นสัมผัสลงบนพวงแก้มของเด็กสาว เธอยังเก็บเอาความรู้สึกเพ้อฝันนั้นมาจินตนาการ...

โซฟาที่อยู่ในห้องเช่านี้แย่ยิ่งกว่า หากแต่เมื่อมีชายคนนี้นั่งอยู่มันดูมีราคาค่างวดขึ้นมาเสียอย่างนั้น

แต่อาจจะเพราะจอโทรทัศน์นั้นเล็กเกินไป แถมภาพก็ยังดูไม่ค่อยชัด ลุคถึงได้ทำหน้าจริงจังแบบนั้น คิ้วของเขาขมวดเป็นปม

เบียงก้ายากจนเกินกว่าจะมีสิทธิ์เลือก พวกที่มีรายได้ตามค่าเฉลี่ยก็ซื้อได้แค่โทรทัศน์แบบนี้ทั้งนั้นแหละ แถมโทรทัศน์นี่ก็ได้มาจากเจ้าของบ้านโดยที่เธอไม่ได้จ่ายเงินไปกับของพวกนี้ด้วยซ้ำ

เบียงก้าละความสนใจออกจากชายที่จดจ่ออยู่กับข่าว เธอจึงไปเปิดประตูห้องแล้วเดินเข้าไปเงียบ ๆ

ลานี่หลับไปแล้วเช่นกัน เขาเตะผ้าห่มออกแล้วนอนคุดคู้

แต่เพราะเขาหลับไปในเวลาไล่เลี่ยกันกับเรนนี่ จึงเป็นอันเข้าใจได้ว่าเด็กทั้งสองคนนี้มีกิจวัตรที่เคร่งครัดพอดู ต้องขอบคุณตระกูลครอว์ฟอร์ดที่ฟูมฟักเลี้ยงดูเด็กทั้งสองมาอย่างดี

หลังจากอยู่ในห้องมาพักหนึ่ง เบียงก้าก็ออกจากห้องมา

ลุคยังคงดูข่าวอยู่อย่างเดิม เบียงก้ารินน้ำให้เขาแก้วหนึ่ง แล้วพูดเพื่อทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดนี้ “ดูข่าวเสร็จแล้วคุณควรไปนอนในห้องของคุณปู่นะคะ นี่ก็ดึกมากแล้วด้วย ฉันคงต้องขอตัวก่อน”

เบียงก้ารู้สึกว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอกับเขาอยู่กันตามลำพัง เธอมักจะไม่รู้ว่าควรพูดอะไรกับเขา

ลุคเงยหน้ามองเธอ ดวงตาของทั้งคู่สบประสานกัน เบียงก้าอาจจะคิดไปมากไปเองว่าเขาแอบเหลือบตามองท้องของเธอครู่หนึ่งด้วย

“ในอนาคตคุณอยากมีลูกอีกรึเปล่า?” ลุคหยิบแก้วที่เบียงก้าเพิ่งวางลงเมื่อครู่ เขาไม่ได้ยกมันขึ้นดื่ม หากแต่ทำเพียงแค่ถือมันไว้ในมือ

เบียงก้ารู้สึกสับสน เธออยากจะกลับห้องตัวเองไป แต่ก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น เธอหันมามองลุค ก่อนจะพบว่าเขาเอาแต่เหม่อมองน้ำให้แก้ว

ทำไมเขาถึงถามเธอแบบนั้นล่ะ?

เบียงก้าได้แต่งง

แต่เธอก็กล่าวออกไปว่า “ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงอยากมีแหละค่ะ… แต่อย่างแรกคือฉันต้องหาพ่อของลูกให้ได้ก่อน”

“คุณเจอคนคนนั้นแล้วรึยังล่ะ?” ลุคถาม เขาลุกขึ้นยืนตระหง่านอยู่เหนือเธอ นั่นคือภาพที่เธอเห็น ก่อนที่เขาจะคว้ารีโมตไปปิดโทรทัศน์

เบียงก้าส่ายศีรษะ “ฉันไม่อยากมีลูกอีกแล้วล่ะค่ะ” เธออยากมอบความรักทั้งหมดที่มีให้เรนนี่กับลานี่เท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก