ตอน บทที่ 179 คุณไม่ต้องการฉันเหรอ? ฉันจะยอมมอบร่างกายนี้ให้คุณเลยนะ จาก พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 179 คุณไม่ต้องการฉันเหรอ? ฉันจะยอมมอบร่างกายนี้ให้คุณเลยนะ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนติก พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก ที่เขียนโดย พะเนินเทินทึก เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
หลังจากที่ลุคออกไปเบียงก้าก็รู้สึกโล่งใจ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ทั้งหมด
เธอถอนหายใจในขณะล้างจานที่อยู่ในอ่าง เธอไม่รู้ว่ามีอะไรผิดปกติกับเธอ
เมื่อเขาพูดว่าเขามีเรื่องต้องจัดการคืนนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งที่อีวอนน์พูดที่สำนักงาน
อีวอนน์พูดถูก
มันก็อาจจะจริงที่ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบผู้หญิงอ่อนเยาว์
ถึงแม้ว่าเบียงก้าจะมีอายุเพียง 24 ปี เธอไม่ได้ดูแก่และยังดูเด็กอยู่มาก แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่สามารถสู้อีวอนน์ที่มีอายุเพียงแค่ 19 ปีได้
ในสายตาของผู้ชายแล้ว ระหว่างผู้หญิงที่เคยอุ้มท้องมาแล้วกับผู้หญิงที่ยังไม่เคยมีลูกนั้นค่อนข้างแตกต่างกัน
ในโลกของอินเทอร์เน็ตนั้นค่อนข้างก้าวหน้า และยังมีทั้งผู้ชายที่น่ากลัวและผู้หญิงที่โง่เขลามากมาย แต่ไม่ว่าสิ่งที่คนอื่นคิดจะเป็นเช่นไร แต่เบียงก้าก็เป็นหนึ่งคนที่คิดเช่นนั้น
ผู้ชายอย่างลุคนั้นร่ำรวยและมีอำนาจมากมาย เขาดูดีและมีร่างกายแสนเร่าร้อน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะกลายเป็นที่หมายปองของผู้หญิงมากมาย
แล้วผู้ชายอย่างเขาจะรักผู้หญิงคนหนึ่งตลอดไปได้อย่างไร?
…
เจสันมาถึงที่ชั้นล่างตอนทุ่ม 40 นาที
เบียงก้าพาเด็ก ๆ ลงไปที่ชั้นล่าง เธอตั้งใจจะพาพวกเขาไปขึ้นรถไฟใต้ดิน
เด็กน้อยยังบอกเธอด้วยว่าพวกเขาชอบรถไฟใต้ดิน
"คุณครอว์ฟอร์ดโทรหาผมก่อนที่เขาจะไปทำธุระครับ เขาสั่งให้ผมมารอคุณที่นี่ก่อนที่คุณจะออกไปข้างนอก” เจสันกล่าว เขาปฏิบัติต่อเธอราวกับว่าเธอเป็นนายหญิง
จู่ ๆ เบียงก้าก็นึกถึงสิ่งที่ลุคพูดเมื่อคืนนี้ได้ เขาบอกว่าเขาไม่ได้สั่งให้เจสันส่งเสื้อผ้าสะอาดมาให้เด็ก ๆ เพราะว่าเจสันกำลังออกเดตอยู่
มันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ชายที่จะต้องใช้เวลากับแฟนสาว
และในตอนนี้ เขาก็ควรจะต้องไปทำงานแล้ว
เบียงก้าไม่ได้ต้องการสร้างปัญหาให้กับเจสัน และเธอเองก็กังวลว่าแฟนสาวของเขาจะโกรธ เธอจึงกล่าวว่า “การขึ้นรถไฟใต้ดินสะดวกและรวดเร็วกว่าสำหรับฉันและเด็ก ๆ ถ้าหากว่าคุณมีธุระ คุณสามารถไปทำธุระของคุณได้เลย ไม่ต้องเป็นห่วงฉันค่ะ คุณดอยล์”
เจสันยิ้มและพูดว่า “ชีวิตของผมได้ทุ่มเทให้กับงานและเจ้านายไปแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องเกรงใจผม ขึ้นรถเถอะครับ คุณเรย์น”
เบียงก้ายังคงไม่ยอมขึ้นรถ
เจสันควรจะมีเวลาส่วนตัวของเขาเองบ้าง!
“ผมว่าบางทีคุณอาจจะไม่เคยพาเด็ก ๆ ออกไปตามลำพังมาก่อน เพราะฉะนั้น คุณจึงไม่รู้ว่ามันเหนื่อยแค่ไหนและถ้าคุณละสายตาจากพวกเขาเพียงแค่วินาทีเดียว เด็ก ๆ ก็อาจจะ…” เจสันไม่กล้าพูดเกินจริง เขาเป็นกังวลถ้าหากว่ามีอะไรเกิดขึ้น
พวกเขาเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งครอว์ฟอร์ด
เมื่อเบียงก้าได้ยินเช่นนั้น เธอจึงยอมพาเด็ก ๆ ขึ้นรถเบนท์ลีย์ไป
พวกเขาเพียงแค่ต้องการไปซื้อชุดนอน แต่ทำไมมันถึงยากเย็นเช่นนี้นะ!
…
ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นเตอร์ คอร์ท
เบียงก้าไม่รู้ว่าชุดนอนสำหรับพวกเขาควรจะมีคุณภาพเช่นไรและราคาเท่าไหร่ แต่เพื่อความสุขของลูกทั้งสองคน เธอจึงเต็มใจจะจ่ายถึงแม้ว่ามันจะแพงก็ตาม
เธอไม่เคยได้มีโอกาสพบกับลูกน้อยของเธอมาถึงห้าปี และในตอนนี้ เธอก็จะต้องปรับตัวให้ชินกับชีวิตของพวกเขาให้ได้
อีกด้านหนึ่ง ลุคนั่งอยู่ภายในห้องทำงานและจดจ่ออยู่กับงาน นี่เป็นครั้งที่สองที่เขากลายเป็นคนบ้างานหลังจากครั้งแรกที่เขาได้เริ่มสืบทอดกิจการของตระกูลครอว์ฟอร์ด
เวลาทุกนาทีและทุกวินาทีมีความสำคัญต่อเขามาก
โลกของเขาถูกครอบครองโดยตัวเลขและข้อมูลแสนน่าเบื่อ งานและหน้าที่ที่ไม่มีวันสิ้นสุดจะปรากฏต่อหน้าเขาทันทีที่เขาตื่นขึ้นจนถึงช่วงเวลาที่เขาได้พักผ่อน
เขาจะต้องอ่านและเซ็นสัญญาในทุก ๆ วัน และในแต่ละวัน เขาก็จะต้องใช้ความคิดในการตัดสินใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ก่อนจะเข้าไปในเมือง เขายังคงต้องทำงานที่นี่อย่างน้อยสิบวัน
เบียงก้าเดินออกไปดูและเห็นแค่เพียงรองเท้าสามคู่ นั่นหมายความว่าลุคยังไม่กลับมา เธอยังได้ให้กุญแจสำรองกับเขาไปเมื่อวานนี้ด้วย
เขาไปไหน?
เขาอยู่กับอีวอนน์รึเปล่า?
เธอนึกถึงช่วงเวลาตอนที่เขาอยู่กับเธอ ใบหน้าของเขาที่ดูเร่าร้อนจนแทบบ้าเพราะเขาไม่สามารถปลดปล่อยมันลงกับเธอได้ และเมื่อเธอคิดเช่นนั้นเธอก็แทบจะหายใจไม่ออก หรือว่าเขาจะไปหาอีวอนน์…เพื่อสนองความต้องการของตัวเองกันนะ?
และอีวอนน์เองก็จะช่วยสนองความต้องการให้กับเขา...
เธอหยุดคิดเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ราวกับว่าเธอกำลังตกอยู่ในภวังค์ ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็กลับมาสู่ความเป็นจริง เธอพยายามฟื้นคืนสติด้วยมือทั้งสองข้างที่จับลงบนศีรษะของตัวเอง
‘เบียงก้าเธอเป็นอะไรไป?
‘เธอไม่ใช่ภรรยาของลุค นี่เธอกำลังเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขามากเกินไปรึเปล่า?
‘เรื่องที่เธอได้ให้กำเนิดลานี่และเรนนี่กับเขาเมื่อห้าปีก่อน มันก็เป็นแค่ธุรกิจ แต่ในตอนนี้ เขาอนุญาตให้เธอติดต่อกับเด็ก ๆ แล้ว แต่ทำไมเธอถึงยังไร้เหตุผลเช่นนี้อยู่?
‘เธอต้องการครอบครองคนที่อยู่สูงกว่าเช่นนี้ นี่เธอไม่มีสมองจริง ๆ เหรอ?’
หลังจากครุ่นคิดและพยายามฟื้นคืนสติ เบียงก้าก็ล้มตัวลงนอน จากนั้นเธอก็เริ่มง่วงและนอนหลับไปในที่สุด
แต่แล้วฝันร้ายของเธอก็ยังคงดำเนินต่อไป
ในฝันร้ายของเธอ เรนนี่กอดขาของพ่อและจ้องมาที่เธอ เด็กหญิงพูดว่า “หนูก็ไม่ต้องการคุณแล้ว คุณพ่อเลี้ยงดูหนูมาห้าปี แล้วคุณล่ะ? คุณไปอยู่ที่ไหนมา? ในเมื่อพ่อของหนูไม่ชอบคุณแล้ว พวกเราก็จะไม่ชอบคุณอีกต่อไปด้วยเหมือนกัน!”
“อย่าไป ได้โปรดอย่าไปนะ” ในฝันของเธอ เธอกำลังเฝ้ามองดูผู้หญิงอีกคนหนึ่งพาลูก ๆ ของเธอไป เธอคว้าแขนเสื้อของลุคและอ้อนวอนเขาทั้งน้ำตา “คุณไม่ต้องการฉันแล้วเหรอ? ฉันจะยอมมอบร่างกายนี้ให้คุณเลยนะ ได้โปรดอย่าพาลานี่และเรนนี่ไปเลย…”
“ผมจะไม่ไปไหน ผมอยู่ที่นี่แล้ว” เสียงที่ทุ้มต่ำและมีเสน่ห์ของชายคนหนึ่งกระซิบที่ข้างหูเธอของเบียงก้า
เบียงก้าไม่รู้ว่ามันคือความจริงหรือเธอยังคงอยู่ในความฝัน
เธอยังคงดิ้นรนอยู่พักหนึ่ง จากนั้นไม่นาน เธอก็ลืมตาขึ้นด้วยดวงตาที่เป็นประกายไปด้วยน้ำตา และเธอก็ได้เห็นว่ามันเช้าแล้ว ร่างกายที่เร่าร้อนของลุคปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ จากนั้นเธอก็ต้องตกตะลึงเมื่อเธอตระหนักได้ว่าศีรษะของเธออยู่ในอ้อมแขนของเขา ทันใดนั้น ริมฝีปากของเธอก็บังเอิญแตะเข้าที่กรามของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก