เธอสูดกลิ่นกายที่ช่างหอมหวานของชายผู้นั้น หลังจากสัมผัสมันอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุด เบียงก้าก็กลับสู่ความเป็นจริง
“คุณฝันร้ายรึเปล่า?” ริมฝีปากที่เย็นชาของลุคกดลงบนหน้าผากของเธอ จากนั้นมือใหญ่ของเขาก็จับผมที่ยุ่งเหยิงของเธอทัดใบหูให้เธอ เขามองดูใบหน้าอันสดใสและดวงตาที่เปียกปอนของเธอ เขาพูดเบา ๆ ว่า “อย่ากลัวไปเลย ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”
เบียงก้ารู้สึกขอบคุณที่มันเป็นเพียงแค่ความฝัน
เมื่อเธอลืมตาขึ้นมา เธอก็ได้เห็นความจริงที่ไม่ได้เลวร้ายดั่งเช่นความฝัน
มือข้างหนึ่งของเธอจับเอวที่กระชับของชายผู้นั้น ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งคว้าที่เสื้อของเขา เธออ้าปากค้างหลังจากได้ยินคำพูดปลอบโยนของชายผู้นั้น
บรรยากาศภายในห้องเล็ก ๆ ตกอยู่ในความเงียบ
หลังจากนั้นไม่นาน เบียงก้าก็ฟื้นคืนสติ เธอสะบัดมือออกจากเอวและหน้าอกของเขาอย่างรวดเร็ว
เสื้อที่ลุคใส่อยู่มีรอยยับหลังจากที่เบียงก้าปล่อยมือออก
"ฉันขอโทษ ฉัน-ฉันจะรีดให้คุณเองค่ะ” เบียงก้าไม่ได้พูดอะไรอีก
หลังจากที่เธอพูดเช่นนั้น เธอก็กำลังจะลุกขึ้น
ลุคดึงเธอกลับเข้าไว้ในอ้อมแขนของเขาอีกครั้ง เขาพูดอย่างหนักแน่นว่า “นอนต่ออีกหน่อยสิ ยังเช้าอยู่เลย”
ลมหายใจอันร้อนรุ่มของชายผู้นั้นกระทบเข้าที่แก้มและใบหูของเธอ บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนกลายเป็นความหอมหวานและความสนิทสนมในทันที
บางทีวันนี้อุณหภูมิอาจสูงขึ้นและลุคก็อยู่ข้าง ๆ เธอ จนทำให้อากาศรอบตัวเธอรู้สึกอบอุ่นและอบอ้าวขึ้นมาในทันใด
จึงทำให้เธอผล็อยหลับไปในเวลาไม่นาน
ตั้งแต่เธออายุ 18 ปี เธอก็ไม่เคยได้นอนหลับสนิท
อุณหภูมิร่างกายของลุคและอากาศรอบตัวเขาทำให้เบียงก้ารู้สึกปลอดภัย แต่เธอก็ยอมรับว่าในบางครั้ง เธอก็รู้สึกไม่เต็มใจจะยอมจำนนต่อเขาเช่นกัน
แต่ในครั้งนี้ เธอไม่ได้ปฏิเสธที่จะยอมลงไปในนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา
ในที่สุดขนตาที่สั่นเทาของเธอก็ปิดลง การหายใจที่หนักหน่วงของเธอเมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็ค่อย ๆ สงบลงเช่นกัน
หลังจากผล็อยหลับไป เบียงก้าไม่มีฝันร้ายอีกเลย
…
เตียงภายในห้องนอนไม่ใหญ่นัก
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเตียงควีนไซส์ แต่ก็ไม่เพียงพอสำหรับผู้ใหญ่สองคน โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่สูงและมีขาที่ยาวจนไม่มีที่ว่างสำหรับขาครึ่งล่างของเขา
เมื่อเบียงก้านอนกับเรนนี่ เธอแทบไม่กล้าเคลื่อนไหวมากนักเพราะเธอกังวลว่าเธอจะนอนทับเด็กหญิงวัย 5 ขวบ
ลุคเหนื่อยแต่เขาไม่นอน
เขาอยู่ในสำนักงานจนถึงตีห้า แต่โชคดีที่ช่วงเช้าตรู่การจราจรนั้นยังคล่องตัว ดังนั้น เขาจึงกลับมาถึงบ้านพักของเบียงก้าในตอนตีห้าครึ่งเท่านั้น
เขาเปิดประตูด้วยกุญแจสำรองก่อนเข้าไปที่ห้องของลูกชาย
เด็กน้อยนอนเอาขาพาดบนผ้าห่มแล้วเตะออกไป เด็กชายนอนหลับสนิทและมีเสียงกรนเบา ๆ ดังออกมา
หลังจากห่มผ้าห่มให้ลูกชายแล้ว เขาก็ไปที่ห้องของเบียงก้า
เรนนี่กำลังนอนหลับอยู่ในท่าที่เรียบร้อยกว่าลานี่ เธอจะขยับเขยื้อนเป็นบางครั้งเท่านั้น
เมื่อเขากำลังจะปิดประตูและเดินออกไป เขาก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากเตียง เขาหันกลับมาและเห็นเบียงก้าขมวดคิ้วในขณะที่ใบหน้าของเธอถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อและเธอก็ขยับตัวเบา ๆ ราวกับว่าเธอกำลังรู้สึกเจ็บปวด
ลุคไม่รู้ว่าเธอฝันร้ายแบบไหน เขาจึงเดินเข้าไปและพยายามปลุกเธอ
เบียงก้าที่กำลังนอนหลับอยู่ละเมอไปต่าง ๆ นานา แต่เขาก็ได้ยินไม่ชัดเจนว่าเธอพูดว่าอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก