เจสันบอกความลับทุกเรื่องที่เขารู้เห็นให้กับเจ้านายของตนฟังหมดเปลือก ในฐานะผู้ช่วยส่วนตัวของลุค เขาเชื่อว่าเจ้านายเป็นคนฉลาด น่าจะเดาได้ว่าอีวอนน์กำลังจะทำอะไร
ถึงกระนั้น สุดท้ายแล้วเจ้านายก็ยังคงเป็นเจ้านายอยู่วันยังค่ำ เขามีประสบการณ์ในชีวิต และด้วยลักษณะนิสัยส่วนตัว เจ้านายจะไม่จัดการเรื่องส่วนตัวเหมือนคนโง่เขลาที่กดขี่ข่มเหงโดยไร้เหตุผล
บนใบหน้าของเจ้านายไม่ได้แสดงออกใด ๆ เขาดูคาดเดายากไม่น้อย จนอาจไม่มีใครสามารถเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
เช่นนั้นแล้ว เจสันจึงไม่สามารถเดาได้ ว่าเจ้านายจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร เขาทำได้แค่รอดู!
เขาจะไปดูแลงานของเขาก่อน!
…
ในแผนกออกแบบชั้นล่าง
นับตั้งแต่อีวอนน์เริ่มทำงานที่นี่ หัวข้อการสนทนาของทุกคนก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ตอนแรก พวกเขาพูดถึงนักสังคมสงเคราะห์ที่มีชื่อเสียงในเมือง ในวินาทีถัดมาพวกเขาจะพูดถึงคนดังในวงการบันเทิง บางครั้งพวกเขาจะพูดไปถึงพวกผู้บริหารและนายทุน
ช่วงเวลางานของหนุ่มสาวในสำนักงานช่างน่าเบื่อหน่าย มันมีเพียงแค่เรื่องของงาน และการทำงานที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนจะมีความสุขมากขึ้นถ้าได้พูดคุยเรื่องซุบซิบนินทาเกี่ยวกับสิ่งที่น่าตื่นเต้นเพื่อสร้างความบันเทิงให้ตัวเอง
ส่วนที่สำคัญที่สุดของเรื่องนี้คือ ทุกเรื่องที่พูดคุยมักจะเกี่ยวข้องกับอีวอนน์ เมื่อเจอเรื่องแบบนี้ แม้แต่หัวหน้าแผนกออกแบบก็ไม่กล้าจะหยุดพวกเขา
ด้วยเหตุนี้ พวกเขาทำได้เพียงปล่อยให้อีวอนน์ทำทุกอย่างที่เธอต้องการ
ในทางกลับกัน ซูรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างยิ่ง
แต่เนื่องจากหัวหน้าแผนกออกแบบไม่ได้พูดหรือว่ากล่าวตักเตือนอะไร รองหัวหน้าทีมอย่างเธอจึงไม่กล้าพูดอะไรมากเพื่อยุติเรื่องนี้ เธอทำได้เพียงอดทนต่อไป
คราวนี้ มีเพื่อนร่วมงานหญิงคนหนึ่งถามอีวอนน์ว่า “วอนน์ เธอรู้จักคนที่ชื่อเลอา นอร์แมนไหม? เธอเคยเห็นหรือเคยเจอเขามาก่อนรึเปล่า?”
อีวอนน์คิดอยู่ครู่หนึ่ง "แน่นอน ฉันก็ต้องเคยเจออยู่แล้วน่ะสิ!"
“เลอาตัวจริงเขาสวยมากไหม?” เพื่อนร่วมงานหญิงมีความอยากรู้อยากเห็นอย่างมาก
“ตัวจริงงั้นเหรอ…” อีวอนน์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และครุ่นคิด “ตัวจริงเธอก็ดูใช้ได้เลยนะ เพราะเธอต้องแต่งหน้า และใช้โปรแกรมแต่งรูปมากไปหน่อยนะฉันว่า”
อีวอนน์ไม่เคยพบเลอามาก่อน แต่เธอรู้แค่ว่า เลอาเธอเป็นนักแสดงดาวรุ่งของวงการบันเทิงในปีนี้ ซึ่งเกิดหลังปี 1995
เธอได้เป็นนักแสดงนำในภาพยนตร์ของผู้กำกับที่มีชื่อเสียง หลังจากนั้น เธอก็กลับกลายเป็นสาวที่มีชื่อเสียงมากขึ้นในทันที
เพื่อนร่วมงานหญิงเชิดชูบูชาอีวอนน์ เพราะรู้จักคนดังมากมาย และเธอยังคงนินทาต่อไป “วอนน์ เธอสนิทกับคนมากมายในวงการบันเทิงมากมาย จากมุมมองของเธอ เธอคิดว่าเลอาจะยังคงดังแบบนี้ต่อไปรึเปล่า?”
“ทำไมเธอถึงได้ถามอะไรเยอะแยะนักนะ?” รู้ไหมว่ามันรำคาญแค่ไหน! พวกเขาเสียงดังมากจนนีน่าไม่สามารถทำงานต่อได้
เพื่อนร่วมงานหญิงมองดูนีน่าอย่างอ่อนต่อโลกและพูดว่า “ฉันติดตามข่าวของคนดังเหล่านี้ และฉันคาดหวังไว้สูงสำหรับเลอา นอร์แมน ถ้าเธอเป็นคนที่ดี เธอก็จะมีอาชีพการงานที่ดีแน่ ๆ ในอนาคต เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น ฉันอยากจะกลายเป็นแฟนคลับที่ค่อยสนับสนุนชีวิตเธอไงเล่า”
นีน่าถึงกับพูดไม่ออก เธอจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์และกดแป้นพิมพ์ทำงานต่อพลางพูดประชดประชันว่า “ฉันว่า ถ้าเธอมีเวลามานั่งถามเรื่องเกี่ยวกับคนดังอย่างเลอา นอร์แมนมากมายขนาดนี้ ทำไมเธอไม่ลองหาเวลาไปฟังคุณหมอเล่าถึงอาการเกี่ยวกับสุขภาพของแม่ของเธอบ้างนะ?”
เพื่อนร่วมงานหญิงแทบกระอัก
อันที่จริง แพทย์ของแม่เธอโทรมาบอกเธอเกี่ยวกับสุขภาพของแม่ตอนประมาณสิบโมงเช้า แต่เธอกลับไม่ฟัง เธอบอกให้หมอคุยกับแม่ของเธอแทน
เธอชอบซุบซิบนินทาเกี่ยวกับวงการบันเทิง นี้ไม่ได้ผิดกฎหมายถูกมั้ย?
อีวอนน์ชำเลืองมองนีน่า จากนั้น ก็หลบสายตาและบอกเพื่อนร่วมงานหญิงว่า “ถ้าเธออยากเป็นแฟนของเลอา แสดงว่าเธอมีคนที่เหมาะสมแล้ว ฉันรับประกันได้ว่าตราบใดที่เลอายังต้องการอยู่ในวงการบันเทิง จะไม่มีใครหยุดเธอจากการขึ้นสู่จุดสูงสุดได้”
"ทำไมล่ะ?" เพื่อนร่วมงานหญิงต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม
“เธอมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาน่ะสิ” อีวอนน์เลิกคิ้วและมองไปที่เพื่อนร่วมงานหญิง “ภูมิหลังที่อย่างเธอไม่สามารถจินตนาการได้เลยแหละ แต่ก็นะ ฉันคงพูดมากกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ”
แม่ของอีวอนน์แต่งงานกับเศรษฐีในหมู่ของคนรวยและมีอำนาจในเมืองใหญ่เพียงนี้ ดังนั้นทุกคนจะได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับคนในแวดวงนั้น รวมถึงคนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงนั้นด้วย
นอกจากนี้ หากมีอะไรสำคัญ ๆ มันก็จะกระจายไปทั่ววงการทันที
นามสกุลของเลขาธิการคณะกรรมการประจำจังหวัดคือนอร์แมน และชื่อของเขาคือแจ็ค นอร์แมน ในทางกลับกัน ภรรยาของแจ็คคือควีนนี่ เซกเลอร์ เมื่อควีนนี่ยังเด็ก เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดกับแม่ของลุค อลิสัน และแม่ของซาเวียร์ เลซีย์ ฟอสเตอร์
แจ็คและควีนนี่ ไม่มีลูกด้วยกันด้วยเหตุผลบางอย่าง
อย่างไรก็ตาม เมื่อสิบปีที่แล้ว ควีนนี่ไปเยี่ยมสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เธอมักจะไปบ่อย ๆ เธอได้พาเด็กผู้หญิงอายุประมาณสิบขวบกลับมาด้วย ผู้หญิงคนนั้นในตอนนี้คือเลอา เธออายุได้ 20 ปีแล้ว
ดาราสาวคนไหนในแวดวงวงการบันเทิง จะมีภูมิหลังทางครอบครัวที่ดีกว่าเลอาแล้วล่ะ?
นอกจากนั้น ไม่มีชาวเน็ตคนใดรู้เบื้องหลังของเลอา และไม่มีใครกล้าพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยซ้ำ เพราะกลัวว่าถ้าเกิดไปรู้เรื่องไม่ควรรู้เข้า อาจทำให้พวกเขาไม่มีชีวิตขุดคุ้ยเรื่องราวของคนอื่นต่อไปก็ได้
ในทางกลับกัน บรรดาขาใหญ่ในวงการบันเทิงรู้ดีว่าใครเป็นพ่อแม่บุญธรรมของเลอา พวกเขาทั้งหมดดูแลยกยอเลอาด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกันโดยปริยาย และปฏิบัติกับเธอราวกับเธอเป็นเจ้าหญิง
ถ้าหากจะต้องปีนบันไดขึ้นไป มันคงจะเป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับเลอาที่จะมีคนคอยช่วยเหลือเธอเสมอ
อีวอนน์รู้สึกอิจฉา เมื่อเธอนึกถึงความหอมหวานที่แสนเย้ายวนใจที่เลอาได้รับในวงการบันเทิง เธอรู้สึกอิจฉาที่เลอาได้รับเกียรติจากคนดังมากมาย มันคงจะสมบูรณ์แบบถ้าเธอมีโอกาสเข้าสู่วงการบันเทิงด้วย
ผู้หญิงคนนี้กำพร้ามาสิบปี และกลายเป็นดาราหลังจากนั้น เราจะไม่รู้สึกอิจฉากับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมนี้ได้อย่างไร?
อีวอนน์ไม่กล้ากล่าวเสียเทเสียเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับเลอา เธอจึงบอกกับเพื่อนร่วมงานหญิงเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่านั้น เธอบอกว่าในชีวิตจริงเลอาไม่ได้สวยเลิศเลอขนาดนั้น และภาพถ่ายในออนไลน์ทั้งหมดของเธอถูกตกแต่งจากโฟโต้ชอป
อันที่จริง อีวอนน์ไม่เคยเห็นเลอาตัวจริงมาก่อน
พวกเขากำลังพูดคุยกันอย่างไม่ระวังปากที่นี่ และอีกด้านหนึ่งเบียงก้ายุ่งมากจนหัวแทบหมุน เธอได้ยินแต่ชื่อ 'เลอา นอร์แมน' ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เช้าที่วุ่นวายผ่านไป และได้เวลารับประทานอาหารกลางวันมื้อใหญ่ในตอนบ่าย พอถึงตอนบ่ายสามโมง เบียงก้าคว้ากระเป๋าและวิ่งออกจากสำนักงานไปอย่างเร่งรีบ
ระหว่างทางไปเยี่ยมคุณปู่ เธอไปที่ร้านถ่ายเอกสารสองถึงสามร้านที่สามารถพิมพ์นามบัตรได้
ในที่สุด เธอก็เลือกร้านที่ถูกที่สุดได้
เบียงก้าทิ้งที่อยู่ของเธอให้เจ้าของร้าน และบอกให้ไปส่งที่สำนักงานทันทีที่ทำเสร็จ
…
สถานที่ที่คุณปู่เรย์นอยู่นั้นเงียบสงบ อากาศไม่ได้แย่กว่าในเมือง
หลังจากไปถึงที่นั่นพร้อมกับที่อยู่ที่ให้ไว้กับเธอ ผู้ดูแลเปิดประตูให้เบียงก้าเมื่อเธอไปถึงที่นั่น หลังจากเข้าไปแล้ว เธอเห็นแม่บ้านกำลังทำความสะอาดสถานที่อยู่
“สวัสดีค่ะ คุณเรย์น” ผู้ดูแลทักทายเธออย่างสุภาพ
“สวัสดีค่ะ” เบียงก้าตอบอย่างสุภาพเช่นกัน
บาดแผลของคุณปู่เกือบจะหายดีแล้ว ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ เขามีความกระตือรือร้นมากขึ้น เบียงก้ารู้สึกว่าเธอทำสิ่งที่ถูกต้องโดยยอมรับความช่วยเหลือของลุค
ความทะนงตัวของเธอไม่สำคัญเท่ากับสุขภาพและความสงบสุขของปู่
ขณะเดินไปรอบ ๆ สนามหญ้าหน้าบ้านกับหลานสาวของเขา คุณปู่เรย์นกล่าวว่า “ลุคห่วงใยเธอมากนะ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาดูแลปู่ หลานควรจำสิ่งนี้ไว้นะ”
“เขาใจดีมากค่ะ” เบียงก้าตอบพลางเตะบอลไปที่ข้างทาง
คุณปู่เรย์นกระแทกไม้เท้าลงกับพื้น และมองดูหลานสาว เขาขมวดคิ้วและกล่าวว่า “แน่นอนสิ ลุคเขาใจดีมาก! ลุคเป็นห่วงหลานขนาดนั้น เขาดูแลปู่เพื่อลดภาระของหลาน ดังนั้นหลานควรจำบุญคุณครั้งนี้ไว้ หลานคิดจริง ๆ เหรอว่าการที่เขารับปู่มาดูแลแบบนี้ เขาแค่ใจดีน่ะ? มีชายชราที่ยากจนอีกมากมายอยู่นอกนั่น ทำไมเขาถึงไม่รับคนพวกนั้นมาดูแลให้หมดเลยล่ะ?”
เบียงก้ารู้สึกขบขันเพราะปู่ของเธอ
คุณปู่เรย์นกล่าวต่อว่า “อย่าโกรธเคืองกันเพราะเรื่องโง่ ๆ เลยนะ แล้วก็เลิกบอกว่าจะเลิกกับเขาเพราะว่าตัวเองไม่เหมาะสมกับเขาสักทีเถอะ เขาชอบหลานนะ ดังนั้นต้องมีบางอย่างในตัวหลานที่ดึงดูดเขาได้ ครอบครัวต้องมีความเหมาะสมในแง่ของสถานะทางสังคม แต่สามีและภรรยาบางคนไม่มีความสุข แม้ว่าพวกเขาจะมีสถานะทางสังคมที่เข้ากันได้เหมือนกันนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก