ทั้งร่างกายและจิตใจของลุคสั่นสะท้าน สัมผัสแห่งความคุ้นเคยบริเวณหว่างขาของเขาแผ่ซ่านทั่วร่างกาย และความรู้สึกนี้ก็ทำให้จังหวะใจของชายหนุ่มระรัวยิ่งขึ้น
ความงามอันแสนอ่อนหวานของเธอดึงดูดสายตาของเขามาโดยตลอด
“อ่า!”
วินาทีถัดมา เขาอุ้มเธอในทันที เท้าของเบียงก้าลอยขึ้นจากพื้นอีกครั้ง
เขาอุ้มเธอขึ้นชิงช้าสวรรค์ ลุคต้องอดทนต่อการยั่วยวนจากมือเล็ก ๆ ที่ซุกซนไปมารวมถึงความรู้สึกของริมฝีปากนิ่ม ๆ ที่ซักไซร้อยู่ที่คอ…. และยังจูบไปที่บริเวณไหปลาร้าของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เบียงก้าไม่รู้ว่าชายผู้นี้เป็นใคร เธอลืมแม้กระทั่งว่าตัวเธอเป็นใคร สัญชาตญาณความกระหายของร่างกายกำลังครอบงำเธอให้ทำเช่นนี้ เพราะนี่เป็นทางเดียวที่จะทำให้ร่างกายเธอรู้สึกดีขึ้น มิฉะนั้น ความกระหายอันเร่าร้อนนี้จะแผดเผาทรมานเธอจนทำให้เธอปรารถนาที่จะหมดไหม้ไปพร้อมกับมัน
เธอรู้สึกทรมานแสนสาหัส
ได้โปรด ใครก็ได้ช่วยเธอที
มือของเธอกำลังเสาะแสวงหาสิ่งที่เธอต้องการ เธอปลดกระดุมเม็ดที่สามบนเสื้อเชิ้ตของชายคนนั้นอย่างง่ายดาย…
กระดุมสองเม็ดบนของเสื้อลุคถูกปลดออกตั้งแต่แรกแล้ว และตอนนี้เม็ดที่สามก็ถูกปลดเช่นกัน ไม่สิ แทนที่จะบอกว่าเธอปลดของเขา ต้องบอกว่าเธอฉีกออกด้วยแรงขับจากหลุมแห่งความสิ้นหวังของเธอที่จะได้ผู้ชายคนนี้มา…
หน้าอกอันกระชับของชายคนนี้เผยให้เธอเห็นอย่างสง่าผ่าเผย เปล่งให้เห็นถึงพลังและความแข็งแกร่งของความเป็นชายที่น่าลิ้มลอง!
“หยุดอยู่ตรงเลยนะ!” ลุคมองลงมาที่เธออย่างเย็นชาและตะวาดใส่เธอ เขาขมวดคิ้วแน่น จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกมาและป้อนรหัสผ่านแปดหลักที่ประตู เพื่อเปิดเข้าไปยังชิงช้าสวรรค์
เขาอุ้มเธอขึ้นชิงช้าสวรรค์
เบียงก้าสะดุ้งเสียงทุ้มลึกของเขาชวนให้หลงใหลเป็นพิเศษ!
หลังจากนั้น ประตูปิดลง
ตอนนั้นเอง ชิงช้าสวรรค์เริ่มเคลื่อนตัวขึ้นไปอย่างช้า ๆ
ขณะที่กระเช้าชิงช้าสวรรค์ค่อย ๆ ลอยสูงขึ้น ลุคกังวลว่าเธอจะเสียการทรงตัว ดังนั้นเขาจึงกอดเธออย่างระมัดระวัง ปล่อยเธอลงบนที่นั่งคู่ภายในกระเช้า
เขากำลังจะลุกขึ้นและปล่อยให้เธอนั่งคนเดียวเพื่อสงบอารมณ์ แต่แล้วมือน้อย ๆ ที่ไม่เชื่อฟังของเธอไต่ขึ้นไปบนร่างกายของเขาอย่างนุ่มนวลและแผ่วเบา เธอกอดเอวอย่างแน่นและไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย
ลุคยืนนิ่ง
“ฉัน… รู้สึกร้อนจัง… ร้อนจัง… อืม…”
เมื่อใดที่เธอชะงักแค่ชั่วขณะหนึ่ง เบียงก้าจะรู้สึกราวกับว่าถูกมดนับล้านกัดกินร่างกายอยู่
“อดทนไว้ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป อีกเดี๋ยวเธอจะรู้สึกดีขึ้นเอง เป็นเด็กดี แล้วก็อยู่เฉย ๆ นะ” น้ำเสียงของลุคแหบแห้งด้วยแรงปราถนา แต่เขาไม่ได้หันกลับมามองเธอ เขากังวลว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
“ฉัน… ฉัน… ฉันกำลังจะตายค่ะ…” เธอหายใจไม่ออกและหายใจผิดจังหวะ ทำไมไม่มีใครช่วยเธอได้เลย!
ความสิ้นหวังค่อย ๆ กัดกินเธอ และเธอก็ดึงมือกลับมาถูไหล่อันหนาวเหน็บที่โหยหาอ้อมกอด จากนั้นเธอเสยผมยาว เผยให้เห็นลำคอและใบหน้าที่กำลังเร่าร้อนอย่างบอกไม่ถูก
สุดท้ายแล้ว เธอก็ขดตัวอยู่บนม้านั่งในกระเช้า ร่างกายของเธอเสียดสีเข้ากับพื้นผิวบนนั้น…
ลุคไม่ได้หันกลับไป แต่เมื่อเขาเห็นกระเช้าชิงช้าสวรรค์ลอยขึ้นช้า ๆ เขาไม่สามารถยับยั้งต่อสิ่งเร้าอารมณ์อันแรงกล้าที่ทำปฏิกิริยาต่อร่างกายของเขา ไม่สำคัญว่าเขาพยายามข่มมันไว้แค่ไหน
“ฉันอยาก… ฉันอยาก…” เธอพลิกตัวไปมาด้วยความทรมาน โดยไม่รู้ว่าตัวเองกำลังพึมพำอะไรอยู่
ร่างกายของเขาเริ่มปั่นป่วนขึ้นเรื่อย ๆ เสียงครางที่แผ่วเบาของเบียงก้า ทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังอ้อนวอนเขา…เพื่อปลดปล่อยเธอ…
โทรศัพท์ของลุคดังขึ้น
เมื่อหยิบขึ้นมา เขาได้ยินรายงานที่ฟังดูเป็นมืออาชีพของเจสัน "คุณครอว์ฟอร์ดครับ ตำรวจได้จับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม มีคู่แม่ลูกเป็นส่วนหนึ่งของผู้ต้องสงสัยด้วย คาดว่าน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับคุณเรย์น”
เสียงของลุคเย็นชา “ฉันไม่สนหรอกว่ามันเป็นใคร จัดการตามนั้น!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก