“เขาถามว่าคุณร้องไห้เหรอ?” เสียงแหบห้าวของลุคกดลงที่หลังของเธอ เขาจูบเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ริมฝีปากของเขาขยับไปตามกระดูกสันหลังและเอื้อมไปที่ติ่งหูของเธอ “บอกผมหน่อยสิว่าคุณกำลังร้องไห้อยู่รึเปล่า?”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงฟ้าร้องดังสนั่น ตามมาด้วยแสงฟ้าแลบ
เบียงก้าฉวยโอกาสนั้นตะคอกใส่เขา “คุณมันไอ้อันธพาล!”
"ก็ถูกของคุณนะ ในที่สาธารณะ ผมเป็นสุภาพบุรุษสำหรับทุกคน แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมจะเป็นอันธพาลเฉพาะกับคุณ” ลุคกัดหูของเธอจากด้านหลังและเลียเธอไปมา
มือข้างหนึ่งของเขาเอื้อมไปรอบเอวเรียวของเธอพร้อม ๆ กันกับเอื้อมมือไปสัมผัสสะดือท้องที่ของเธอ
นิ้วโป้งที่หยาบกระด้างของชายคนนั้นลูบไล้สะดือของเธอไปมา…
เบียงก้าทนไม่ได้กับวิธีที่เขาลูบไล้เธอเช่นนี้ และเธอก็ต่อสู้กับนิ้วของเขาที่สะดือของเธอตามสัญชาตญาณ นั่นคือเหตุผลที่เธอโค้งตัวกลับขึ้นมาและเงยศีรษะขึ้น
ด้วยวิธีนี้ เธอทำให้มันง่ายขึ้นมากสำหรับลุคที่จะกดร่างของเขากับเธอ…
ฌองยังคงมอบความรักให้เธออยู่ข้างนอก “วันนั้นพี่ไม่มีเวลาว่างเลย เบียงก้า และพี่ไม่ควรพูด พูดเรื่องพวกนั้น พี่ขอโทษนะ แต่เธอไม่รู้หรอก ว่าแม่ต่อว่าพี่ในวันนั้นว่ายังไงบ้าง! ท่านเรียกพี่ว่าคนไร้ค่า บอกว่าพี่รั้งผู้หญิงของพี่ไว้ไม่ได้ด้วยซ้ำ!
“ผู้หญิงในละแวกของบ้านเธอบอกแม่ของพี่ว่าเธอพาแฟนกลับบ้านและก็แสดงสนิทสนมกันตรงชั้นล่างของตึก เมื่อพี่เชื่อมโยงเรื่องนั้นกับดอกไม้ที่เธอได้มา พี่… พี่รู้สึกปวดหัวราวมาก มันราวกับว่าใจพี่กำลังจะแตกสลายไป!
“ดอกไม้นำเข้านั่นมันต้องราคาเท่าไหร่กัน? พี่ไม่รู้เลย แต่พี่รู้ว่าพี่จะไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือยกับอะไรแบบนั้น พอคิดดูดี ๆ ว่าตอนนี้พี่มีรายได้เท่าไร พี่อิจฉาจริง ๆ! อิจฉาที่มีคนอื่นให้เธอได้มากกว่าพี่!”
ฌองหยุดประเดี๋ยวหนึ่ง หลังจากการระบายความรู้สึกครั้งนั้นโดยคิดว่าเบียงก้ากำลังฟังเขาอยู่อีกด้านหนึ่ง
“แม่ของพี่โกรธเพียงเพราะท่านชอบเธอในฐานะลูกสะใภ้มากเกินไป แม้ว่าเราสองคนเพิ่งจะหมั้นกัน แต่แม่ท่านก็ถือว่าตัวเองเป็นแม่สามีของเธอแล้ว ช่วยบอกพี่ที ว่าแม่สามีที่ไหนจะทนได้ถ้าให้ชายอีกคนแอบเข้าไปในบ้านของลูกสะใภ้ของเธอน่ะ”
ไม่คงมีเสียงตอบกลับจากอีกฝั่งของประตู มีเพียงเสียงของร่างกายที่กระทบกับแผงประตูเท่านั้น มันทำให้เขาคิดว่าเธอยังคงสะอื้นอยู่อีกด้านหนึ่ง
“เบียงก้า เธอร้องไห้เสร็จแล้วช่วยออกมาได้ไหม? เธอก็แค่ต้องอธิบายให้แม่ฟังและขอโทษ...”
มือและร่างกายของเบียงก้าแนบชิดไปกับประตู แทบไม่มีช่องว่างระหว่างตัวเธอกับไม้ เธอไม่มีพื้นที่ให้ขยับเลย ไม่ว่าจะด้านหน้าหรือด้านหลัง…
ชายด้านหลังเธอพยายามท้าทายสติที่มั่นคงของเธอ
คำพูดของฌองลอยเข้าหูเธอ
เบียงก้าคิดในใจอย่างขมขื่น 'ใช่ ก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันแทบไม่เคยสนิทสนมกับลุค ครอว์ฟอร์ด และเราแค่พูดคุยกันเพียงไม่กี่คำในละแวกบ้านเท่านั้น'
อันที่จริง เธอทะเลาะกับลุคในวันนั้นด้วยซ้ำ
สำหรับผู้หญิงที่ชื่อเดซี่คนนั้น เธอยังพูดกับลุคด้วยท่าทางที่เย็นชาและไม่พอใจของเขา แล้วเธอจะกลับมาบอกว่าพวกเขาสนิทสนมกันได้อย่างไร?
ส่วนที่น่าเศร้าที่สุดคือ มีคนที่หลงเชื่อคำโกหกของคนแปลกหน้าไปเสียแล้ว
ไม่ใช่แค่คุณนายแลงดอนเท่านั้นที่เชื่อพวกเขา แต่ฌองก็เช่นกัน
แม้ว่าเธอจะละเว้นความเข้าใจผิดนั้นทิ้งไป เบียงก้าก็ไม่เคยลืมว่าฌองพูดอะไรไว้อีก เธอไม่เคยลืมว่าเขาเคยกล่าวหาเธอ ว่าเธอเป็นเมียน้อยของชายต่างชาติสมัยอยู่ต่างประเทศ…
ขณะที่กล่าวหาเธอในเรื่องนี้ เขาไม่ได้ให้โอกาสเธออธิบายด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจด้วยตัวเองว่าเธอต้องทำเช่นนั้น และนั่นเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้เธอเรียนจบและกลับมายังประเทศนี้ได้...
ที่แย่ไปกว่านั้น หลักฐานเพียงอย่างเดียวที่อยู่เบื้องหลังการกล่าวอ้างที่ไร้สาระทั้งหมดของฌอง ไม่มีอะไรมากไปกว่าแค่คำโกหกของมาลี เรย์น
มันง่ายมากเลยสินะที่จะทำให้ฌองเชื่อว่าเธอเป็นคนเลวร้ายที่สุด เฮ้อ...
เบียงก้าไม่รู้ว่ามาลีเก่งเรื่องโกหกหรือว่าจริง ๆ แล้วฌองเองต่างหากที่โง่เง่า
เมื่อเรื่องนั้นเกิดขึ้นกับเธอ เธอรู้สึกว่าความเศร้าโศกเข้าโอบกอดจิใจเอาไว้
ก่อนที่เธอจะจมดิ่งลงไปในความเศร้าสร้อยนั้น เธอกำลัง...
ลุคลงโทษเธอเพราะเรื่องนี้
“อ่า… ไม่… โอ้… อ่า!”
เบียงก้าแทบจะมลายภายใต้ลมหายใจของเขา
ดวงตาของลุคแดงดุจไฟเผา เขามองลงมาที่ร่างของเธอ ขณะที่ร่างกายของเธอกดอยู่ระหว่างร่างกายของเขากับประตู
เนินที่อ่อนนุ่มบนหน้าอกของเธอนั้นกระจ่างใส่กว่าประตูสีขาวเสียอีก
ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ยินเสียงของฌองจากด้านนอกห้องเลย วินาทีที่เธอล้มลง เขากลับตัวเธออย่างแรงและทำให้เธอปะทะกับหน้าของเขา
ขณะที่เบียงก้าถูกบังคับให้เผชิญหน้ากับชายคนนั้น ใบหน้าของเธอก็ร้อนรุ่มและไม่รู้อะไรเลย...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก