ความอัปยศอดสูของเบียงก้าพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์
เธอไม่เคยคิดว่าจะได้ยินฌองเรียกเธอว่า “นางแพศยา!”
ลุคจับเข้าที่ข้อเท้าขาวดุจหิมะของเธอไม่ยอมปล่อย เธอพยายามหนีให้ห่างจากรสขมปร่าในปาก ในขณะเดียวกันก็รู้สึกหวาดกลัวนัยน์ตาแดงก่ำราวกับจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว
ดิ้นรนอยู่ไม่นานนัก ข้อเท้าที่ถูกเขาจับเอาไว้ก็เปลี่ยนเป็นสีแดง
“โอ๊ย…” เธอร้องออกมา
ปัง!
ปัง!
ฌองเตะเข้ามาที่ประตูสองสามครั้ง
ประตูใกล้จะพังอยู่รอมร่อ เบียงก้าตกอยู่ในความกลัวจับขั้วหัวใจ เลือดหยดสุดท้ายไหลออกจากใบหน้าเธอไปจากใบหน้าซีดเผือดของเธอ
ในขณะที่เบียงก้ารู้สึกอับจนหนทางอยู่เช่นนั้น ริมฝีปากของเธอก็ถูกชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาช่วงชิงเอาไป
เสียงจากภายนอกยังคงดังอยู่
โสตประสาทของเบียงก้าเต็มไปด้วยเสียงหอบอันเย้ายวนและลมหายใจที่ร้อนระอุของผู้ชายคนนี้
ภายนอกห้องนอน
ฌองหันหลังกลับไปตามเสียงที่ได้ยินแล้วจึงเห็นชายในชุดเครื่องแบบตำรวจสี่คนอยู่ตรงหน้าเขา พ่วงมากับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของระแวกนี้ พวกเขาเดินเข้ามาทางที่ประตูเปิดออก
“โปรดมากับพวกเราด้วยครับ!”
ฌองมองไปยังตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาเหลือบมองไปที่ประตูห้องนอนที่ใกล้จะพังเพราะฝีมือการเตะของตัวเอง เสียงของเขาดูต่อต้าน “ก็แค่คนรักมีปัญหากัน ตำรวจต้องเข้ามายุ่งเรื่องพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“มีคนโทรแจ้งตำรวจว่าคุณทำลายทรัพย์ส่วนบุคคลของคนอื่น โปรดให้ความร่วมมือกับเราแต่โดยดี” หนึ่งในตำรวจเหล่านั้นกล่าวขณะเข้าไปจับกุมฌอง
...
อีกฟากหนึ่งของประตูเบียงก้าได้ยินทุกอย่างที่ตำรวจกล่าว...
ลุคปล่อยเธอไปนานแล้ว
เธอได้แต่หลบอยู่ใต้ผ้าห่ม และห่อตัวเองไว้จนแน่น ถึงแม้ว่าด้านนอกจะมีฝนตกหนัก แต่บรรยากาศภายในห้องกลับทั้งร้อนและอับชื้น เนื่องจากเครื่องปรับอากาศไม่ได้ถูกเปิดเอาไว้ ร่างทั้งร่างของเธอจึงชุ่มไปด้วยเหงื่อ...
ในพื้นที่อันแสนคับแคบนี้เต็มไปด้วยกลิ่นของความเย้ายวน
เธอไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงหยุดลงดื้อ ๆ แต่ดีใจเหลือเกินที่เธอยังพอมีโชคเหลืออยู่บ้าง บางทีเขาอาจจะมีจิตสำนึกขึ้นมากระทันหันถึงได้ยอมหยุดการกระทำอันบ้าคลั่งนั้น...
หน้าต่างของห้องนอนเปิดออก
ลุคยืนอยู่หน้าหน้าต่าง ร่างสูงโปร่งของเขาไม่ขยับไปไหน เขาก้มลงและจุดบุหรี่ คิ้วของเขาขมวดมุ่นอยู่แวบหนึ่ง ก่อนตะกอนบุหรี่จะถูกเขี่ยทิ้งแล้วจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรออก
ใครบางคนที่ปลายสายรับโทรศัพท์ “พาคุณหมอจอยซ์มาที่นี่ ที่อยู่เดียวกับครั้งก่อน เร็วเข้า” ลุคพูด
เบียงก้าได้แต่เก็บงำความสงสัยของเธอไว้ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงโทรเรียกหมอ
ดร.จอยซ์คือแพทย์หญิงที่เคยรักษาเธอที่โรงพยาบาล
แล้วมันหมายความว่ายังไงที่ว่า “ที่อยู่เดียวกับครั้งก่อน” ?
เบียงก้ายังคงสงสัยอยู่ ว่าใครเป็นคนโทรแจ้งตำรวจ?
เพื่อนบ้านของเธออย่างนั้นเหรอ?
ทันใดนั้นเธอก็คิดขึ้นได้ว่านี่อาจจะเป็นฝีมือของลุคก็ได้ เขาลงมือได้อย่างแยบยลมาก
ลุคสูบบุหรี่เสร็จแล้วหันกลับมา เห็นว่าเธอยังคงอยู่ใต้ผ้าห่ม
ฝนยังคงโปรยปรายลงมา เขาเดินมาหาและดึงเธอขึ้นมาจากเตียง เขากระชากผ้าห่มของเธอออก
ร่างของเบียงก้าประจักษ์ต่อสายตาของเขา น้ำเสียงเกรี้ยวกราดเอ่ยถาม “นี่คุณจะทำอะไรเนี้ย..?”
ลุกไม่ได้ดูโกรธเมื่อเธอเรียกเขาว่าปีศาจ ในทางกลับกัน เขาปล่อยเธอลงแล้วพูดอย่างอ่อนโยน “ลุกขึ้นไปอาบน้ำ คุณหมอจอยซ์กำลังจะมาที่นี่”
หลังจากออกจากอ้อมแขนของเขา เบียงก้ากะพริบตาด้วยความงุนงง
“คุณมีเลือดออก” ลุครู้สึกผิดเล็กๆ
ห้วงความคิดของเบียงก้าว่างเปล่าไป
เธอรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ในตอนที่เขาบอกว่าเธอมีเลือดออกเธอรู้ว่าเลือดของเธอออกมาจาก...
อาการตกเลือดเป็นสาเหตุเดียวที่ทำให้เขาหยุดการกระทำชำเราเธอ แม้ว่าไฟราคะในกายของเขากำลังลุกโชนอยู่ก็ตาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก