พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 50

เบียงก้าต้องยอมรับว่าการมีผู้ชายคนนี้คอยปกป้องเธออยู่ ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยขึ้นเป็นเท่าตัว

ในโลกนี้ จะมีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ต้องการการปกป้องจากผู้ชายคนนี้บ้างล่ะ?

แต่ถึงคุณจะคิดว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่ใช่ หลายคนก็จะจบลงด้วยการทำตัวเองเจ็บอยู่วันยังค่ำ กว่าคุณจะรู้ตัวว่าความรักที่หวานปานน้ำผึ้งนั้นสามารถกลายเป็นคมมีดที่บาดลึกได้นั้น ร่างกายและจิตใจของคุณก็คงเต็มไปด้วยบาดแผลไปแล้ว

เธอไม่รู้เลยว่าในท้ายที่สุด ผู้ชายคนนี้จะทิ้งอะไรไว้ให้เธอบ้าง? เธอไม่รู้และไม่กล้าที่จะพนันเรื่องนี้เลย

เบียงก้าไม่ได้พูดอะไรกับลุคในตอนที่พวกเขาเดินมาถึงหน้าประตูทางเข้า

เธอไม่คิดที่จะชวนลุคเข้าไป เพราะเธอไม่ต้องการให้เขารู้ว่าเธออาศัยอยู่ที่ตึกไหนหรือชั้นไหน เพราะเกรงว่าวันหนึ่งเขาอาจจะมาปรากฏตัวพร้อมกับลูก ๆ ที่หน้าประตูของเธอ

และตอนนี้เธอเช่าบ้านร่วมกับนีน่าด้วย

ถ้านีนาเห็นว่าพวกเขาสองคนอยู่ด้วยกัน เธออาจจะเข้าใจเรื่องนี้ผิดไปก็เป็นได้

ที่ทำงาน เจสันและซูที่เข้าใจความสัมพันธ์ของเธอกับเจ้านายของพวกเขาผิดไปนั้น ก็สร้างความอึดอัดให้เธอมากพอแล้ว เธอไม่อยากให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดอะไรในชีวิตเธอมากไปกว่านี้อีก

อีกด้านหนึ่ง เบียงก้าเพิ่งเลิกกับฌองได้ไม่นาน ถ้านีน่าเห็นว่าเธอกลับบ้านมากับลุคทั้งที่เพิ่งเลิกกับคนรักได้ไม่นาน แม้แต่กับนีนาที่เชื่อใจเธอ ก็อาจจะเข้าใจผิดว่าเธอเป็นพวกผู้หญิงที่ไม่ดีแบบนั้น

“คุณครอว์ฟอร์ด เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ” เบียงก้าส่งเสื้อคลุมให้เขาโดยที่ไม่ได้มอง

ลุคอยู่ห่างจากเบียงก้าไม่ถึงครึ่งเมตร เขาก้มลงมองเสื้อคลุมสีดำสนิทที่ถูกเธอไว้ในมือจนแน่น

เขาไม่ได้รับมันกลับไป

ภายใต้แสงไฟ ลุคนำบุหรี่ออกจากกล่องแล้วจุดขึ้นมาสูบ และจ้องมองงเบียงก้าพลางเอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก “คุณกลัวอะไร?”

เบียงก้ากลัวทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขา เป็นร่างกายที่สมบูรณ์แบบ ภาพลักษณ์อันสูงส่ง ไหนจะความสง่างามที่ปรากฏขึ้นในทุกวินาทีที่เขาย่างก้าวไป... ทุกสิ่งที่เป็นเขาทำให้เธอรู้สึกว่าเธอไม่คู่ควรที่จะอยู่ใกล้เขาเกินไป

“คุณครอว์ฟอร์ดคะ ทำไมคุณต้องทำให้ชีวิตของฉันลำบากขนาดนี้ด้วย?”

“ทำไมผมถึงต้องทำเรื่องแบบนั้นด้วย?” คำถามนั้นทำให้ลุคก้าวมาข้างหน้าอีกครึ่งก้าว ทำให้เขามายืนอยู่ตรงหน้าเธอ และในตอนที่เธออยากจะเลี่ยงเขา เขาก็คว้าเข้าที่ขากรรไกรล่าง และลูบไล้ด้วยนิ้วโป้งของเขาก่อนจะตอบคำถาม “ผมมีเหตุผลสำหรับการทำให้คุณลำบากก็แล้วกัน”

เบียงก้ามองเข้าไปในดวงตาที่ไม่สามารถอ่านออก

‘เหตุผลสำหรับการทำให้ชีวิตของฉันลำบากอย่างนั้นเหรอ?

‘นี่อาจเป็นอาการของมนุษย์โลกที่เข้าใจว่าสิ่งที่ดีที่สุดนั้นยังไม่มาถึงใช่ไหม? แต่เมื่อพวกเขาประสบความสำเร็จแล้ว พวกเขาก็จะเลิกสนใจไปเอง เขาจะโบกมือลาแล้วฉันก็จะกลายเป็นคนไร้ค่าในที่สุด ในตอนนั้นเธอคงได้รับอิสรภาพอีกครั้ง’

เบียงก้าหันหน้าหนี กรามของเธอได้รับอิสระจากปลายนิ้วที่เรียวยาวและแข็งแรงของเขา

มือข้างนึงของเขาที่คีบบุหรี่เอาไว้ยกขึ้น ลุคคีบบุหรี่ด้วยปาก แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยิบเสื้อคลุมออกจากตัวเธอ

เบียงก้าที่รู้สึกขุ่นข้องหมองใจตัดสินใจที่จะพูดกับเขาอย่างตรงไปตรงมา “ฉันหวังว่าคุณลุคจะเมตตาและหยุดเล่นเกมบ้า ๆ นี้กับฉันเสียที ฉันเชื่อว่ารอบตัวคุณคงจะมีผู้หญิงมากมาย ไม่ว่าจะผอมหรืออวบ สูงหรือเตี้ย คุณจะต้องการผู้หญิงแบบไหนก็ได้”

ลุคพ่นควันออกมาทางเธอ คิ้วของเขาขมวดมุ่น “ว่าต่อสิ”

เบียงก้ายืนพิงเสาไฟนีออน สายตาของเธอเปล่งประกายจากแสงที่ตกกระทบดูราวกับว่าเธอมีน้ำตา ‘ชีวิตนี้ฉันไม่ได้อยากเจอคนรวยหรือมีชื่อเสียงอะไรทั้งนั้น ฉันเพียงแค่อยากมีร่างกายที่แข็งแรงและมีอายุที่ยืนยาวเท่านั้น ฉันไม่ได้ต้องการที่จะเกาะแข้งเกาะขาของคุณเลย คุณครอว์ฟอร์ด ไม่แม้กระทั่งที่จะวาดฝันว่าซินเดอเรลล่าจะกลายเป็นเจ้าหญิงด้วยซ้ำ’

“ฉันเชื่อว่ามีผู้หญิงมากมายที่กำลังอ้อนวอนขอให้พวกเขาจับคุณได้อยู่หมัดและได้อยู่เหนือใคร ๆ จะเป็นดาราดัง ลูกสาวของผู้มีอิทธิพล หรือหญิงสาวสูงศักดิ์ที่ไหน... คุณจะเลือกใครก็ได้ค่ะคุณครอว์ฟอร์ด…”

ลุคมองลึกเข้าไปยังผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา จากภายนอกเขาดูเฉยชา หากแต่ภายในหัวใจของเขากับปั่นป่วนไม่ต่างกับพายุที่ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรที่พัดพาและทำร้ายทุกอย่างจนสิ้นซาก เขาเคยตั้งใจจะคบกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน?

แม้กระทั้งแม่ของตัวเอง ก็ไม่เคยได้รับการปรนนิบัติดูแลจากเขา

เธอคงไม่รู้ว่าเขาทุ่มเทให้เธอเพียงใด?

“คุณคิดว่าใคร ๆจะสามารถไขว้คว้าผมได้ตามที่พวกเขาต้องการอย่างนั้นเหรอ? กับคนที่สั่นสะท้านอย่างมีความสุขในตอนที่ขาที่สามของผมแตะคุณอย่างแผ่วเบา คุณนี่ชอบตัดช่องน้อยแต่พอตัวจริงๆ” ลุคพูดด้วยสีหน้าเย็นชากับเธออย่างไม่รู้สึกรู้สา

เบียงก้ามองเขาด้วยความตกใจสุดขีด แม้ภายใต้แสงนีออนก็ไม่อาจปิดบังความเขินอายที่เด่นหราอยู่บนแก้มของเธอ...

“รอผมอยู่ที่นี่แหละ ผมจะปล่อยให้คุณได้จินตนาการว่าคนที่ไม่เชื่อฟังผมจะโดนอะไรบ้าง” ลุคกล่าวและหยิบเสื้อคลุมของตัวเองไปจากมือเธอ เขาสูบบุหรี่ครั้งหนึ่งก่อนจะหมุนตัวจากไป

เบียงก้าถูกทิ้งให้ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความงุนงง

แผ่นหลังที่ยาวและตระหง่านของลุคให้ความรู้สึกถึงอำนาจที่เขามี

เธอหลับตาลงและอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบ ‘ไม่ว่ายังไง ลุคก็ดูไม่เหมือนรุ่นพี่ครอว์ฟอร์ดของเธอเลยแม้แต่น้อย เขาไม่มีทางที่จะเป็นรุ่นพี่ครอว์ฟอร์ดได้หรอก รุ่นพี่น่ะเป็นสุภาพบุรุษ เป็นเจ้าชายที่สง่างาม ในขณะที่อีกคนปากร้าย ขี้โมโห แถมยังชอบทำให้ทุกคนกลัวเขาด้วย’

‘นี่เป็นนิสัยที่ต่างกันสุดขั้วของผู้ชายทั้งสองคนนี้ แล้วพวกเขาจะเป็นคน ๆ เดียวกันได้อย่างไร!’

เบียงก้าจมอยู่กับความคิดของเธอจนไม่ได้สังเกตว่ามีรถออดี้ คิว ไฟท์ปรากฏขึ้นที่หัวมุมของถนน

ฌองที่หน้าบอกบุญไม่รับอยู่ที่เบาะคนขับก็ทำให้มาลีอารมณ์ไม่ดีเช่นกัน เขาคิดที่จะขับรถไปอย่างลานจอดรถใกล้ ๆ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ในตอนที่มาลีตะโกนออกมา “จอดรถ!”

ฌองกล่าวอย่างรำคาญโดยไม่ได้หันไปมองมาลี “ไม่ใช่ว่าเราจะหยุดตรงไหนก็ได้นะ นี่มันบนถนนไม่ใช่บ้านเธอ”

“ฉันเห็นเบียงก้า หยุดรถ!” มาลีจ้องไปนอกตัวรถก่อนจะหันกลับมามองฌอง “คนรักของคุณอยู่ข้างนอกนั่นน่ะ จะไม่หยุดรถจริงๆเหรอ?”

อย่างที่คาดไว้ สีหน้าของฌองเปลี่ยนไปในทันทีที่ได้ยินชื่อของเบียงก้า

มาลีได้แต่รู้สึกผิดหวังอย่างมาก และรู้สึกราวกับว่าลูกในท้องของเธอเป็นเพียงแค่เรื่องตลกเรื่องหนึ่ง เธอกรีดร้องใส่เขา “คุณไม่ได้โทษว่าฉันเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณเสียคนรักไปอย่างงั้นเหรอ? ฉันจะบอกอะไรดี ๆ กับคุณสักคำสองคำนะ ฉันจะช่วยทำให้คุณกับเธอคืนดีกัน!”

มาลีไม่สนใจฌองอีกต่อไป เธอเปิดประตูและก้าวลงไปจากรถทันที

ฌองอยากเรียกเธอให้กลับมา แต่ปากของเขาก็หนักเกินไป ใบหน้าของเขาขมวดมุ่น ก่อนจะหมุนพวงมาลัยแล้วขับตรงไปยังจุดจอดรถ

เบียงก้าก็ตกใจที่เห็นมาลีปรากฏตัว

“ปฏิกิริยาของเธอดูน่าสนใจดีนิ เธอไม่คิดว่าฉันจะมาเจอเธอที่นี่ใช่รึเปล่า?” แววตาของมาลีไร้ความรู้สึกในตอนที่เธอจ้องมองไปยังเบียงก้าก่อนจะขยับปากพูด “มันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะหาว่าเธออาศัยอยู่ที่ไหน และดูเหมือนว่าเธอจะลืมบอกคลอเดีย คลินตันว่าเราไม่ใช่พี่น้องที่ญาติดีกันสักเท่าไหร่”

ตั้งแต่ที่คลอเดียและเบียงก้าพบกันครั้งหนึ่ง คลอเดียก็รู้ว่าเบียงก้าอาศัยอยู่ที่ไหน

เพราะเจนนิเฟอร์ ภรรยาของเควินต้องตามสามีกลับมาบ้านเกิดที่มลฑลเจียงซี เพราะเหตุนั้นมาลีจึงต้องตามพวกเขากลับมาด้วยบ่อยครั้ง

ทุกครั้งที่คลอเดียได้ยินว่าครอบครัวเรย์นกลับมา เธอมักจะไปหาเบียงก้าอยู่เสมอ จากนั้นไม่เท่าไรคลอเดียก็เริ่มคุ้นเคยกับมาลี

เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น มาลีมักจะเก็บซ่อนความดำมืดในจิตใจและแสร้งว่าเป็นเด็กสาวไร้เดียงสาแสนบริสุทธิ์ คลอเดียไม่เคยคิดสงสัยอะไรสักอย่าง

เบียงก้านึกถึงสิ่งที่เธอได้ยินเมื่อตอนกลางวัน เรื่องที่มาลีตั้งครรภ์ลูกของฌอง เบียงก้าแทบไม่หลงเหลือความโกรธ ในทางกลับกัน เธอดูราวกับทะเลที่เงียบสงบ

“เธอกับฌองจะแต่งง่านกันเมื่อไหร่ล่ะ? อย่าลืมบอกฉันด้วยนะ เพราะฉันดีใจมากที่คุณทั้งสองคนได้พบรักกัน” เบียงก้าอดรู้สึกไม่ได้ว่าเขาทั้งคู่เหมาะสมกัน

“ทำไมล่ะ? นี่เธอแกล้งทำเป็นเข้มแข็งทั้งที่หัวใจแตกสลายไปแล้วใช่รึเปล่า? ฉันไม่หัวเราะเยาะเธอหรอกนะแม้ว่าเธอจะยอมรับว่าหัวใจของเธอแตกสลายที่ฉันแย่งแฟนเธอมาได้! เสียงของมาลีไม่ได้ดังมากมาย แต่กลับเสียดแทงเข้าไปภายในจิตใจของเบียงก้า

เบียงก้าหัวเราะ “เขาก็แค่รองเท้าคู่เก่าที่ฉันทิ้งเพราะมันทั้งสกปรกแล้วก็ขาดวิ่นอีก ฉันแต่โยนมันลงถังขยะ และไม่ว่าใครหน้าไหนจะเก็บมันได้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันอีกแล้ว สิ่งที่เห็นว่าควรจะโดนทิ้งตอนนี้มันก็โดนทิ้งเรียบร้อยแล้ว ไม่มีทางที่มันจะทำให้ฉันรู้สึกหัวใจสลายได้หรอก”

หลังจากพูดจบ เบียงก้าก็ตระหนักรู้ได้ทันทีว่ามาลีนั้นไม่อาจระงับอารมณ์ของตัวเองได้อีกต่อไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก