พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 51

“เราไม่ควรต้องเจอกันอีก มันไม่เพียงแต่จะทำให้เธอต้องรู้สึกกระวนกระวายใจ แต่สุขภาพจิตของเธอก็จะแย่ลง แถมอาจจะแก่เร็วขึ้นอีกด้วย”

ถ้อยคำเหล่านั้นพุ่งผ่านริมฝีปากของเบียงก้าก่อนที่จะตัดสินใจเดินจากไป

“อย่าเพิ่งไปสิ...”

สีหน้าของมาลีเปลี่ยนไปในทันที ท่าทางของเธออ่อนน้อมลง เธอเอื้อมมือทั้งสองข้างไปจับที่แขนของเบียงก้า จากนั้นเธอก็เริ่มอ้อนวอน “ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของฉันเอง ฉันขอโทษ เธอจะตบตีฉันยังไงก็ได้ ทุกอย่างที่เธอต้องการได้เลย”

เบียงก้าหันหลังกลับมามองเธอ

มือของมาลีวางอยู่บนไหล่ของเบียงก้า จากนั้นเธอก็ค่อย ๆ เลื่อนมือไปจับที่มือของเบียงก้า มาลีกล่าวออกมาด้วยท่าทางที่ไร้เดียงสา “บี เธอรู้ไหมว่าตั้งแต่ที่ฉันเกิดมา ฉันก็ไม่เคยได้รับความรักจากพ่อเลย นั่นจึงเป็นเหตุที่ฉันอิจฉาที่เห็นว่าเธอมีพ่อ และตั้งแต่ที่ฉันได้เข้ามาเป็นครอบครัวเดียวกับเธอ ฉันก็รู้สึกไม่มีความสุขกับเธอมาตลอด ฉันอิจฉาที่เธอมีความสุขมากกว่าฉัน ฉันอาจจะทำอะไรลงไปโดยไม่คิด เพราะว่าตอนนั้นฉันยังไม่โตพอ ได้โปรดเชื่อฉันเถอะนะ ฉันไม่เคยคิดที่จะแย่งแฟนของเธอเลย...”

เบียงก้าคุ้นเคยกับกลอุบายของมาลีมาตั้งแต่เด็ก

เบียงก้าไม่จำเป็นต้องหันไปมองข้างหลัง เธอก็สามารถรับรู้ได้ว่ามีคนอยู่ข้างหลังของเธอในตอนนี้

เบียงก้าสัมผัสได้ว่า การกระทำอันเสแสร้งของมาลีไม่ได้แสดงออกมาเพื่อเธอ แต่เพื่อให้คนที่อยู่ข้างหลังของเธอได้เห็น

“บี ฉันไม่ได้มีอะไรกับฌองจริง ๆ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนที่เราอยู่ต่างประเทศนั้น มันเป็นเพราะว่าฉันไม่มีที่ไหนให้ไปนอกจากต้องอยู่ในห้องของเขาในคืนนั้น แต่ว่าเรื่องนี้ เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย มันเป็นฉันเองที่เป็นคนยืนกรานที่จะอยู่ที่นั่น” จากนั้น มาลีก็ยกมือขึ้นเพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์โดยการสาบานและพูดต่อว่า “ฉันสาบานได้ ในคืนนั้นเขานอนบนเตียง ส่วนฉันนอนบนพื้น และมันก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเราทั้งสองคนจริง ๆ”

เบียงก้าสะบัดมือของมาลีออกอย่างแรง “เลิกเล่นละครได้แล้ว”

“แต่ว่าฉันจริงใจจริง ๆ นะ ฉันไม่รู้ว่าเธอจะเกลียดฉันมากขนาดนี้...” มาลีพูดออกมาอย่างขมขื่น จากนั้น ดวงตาที่ไร้เดียงสาของเธอก็หลั่งน้ำตาออกมาในขณะที่เธอจ้องมองไปที่เบียงก้า

น้ำตาของเธอยังคงไหลหลั่งจนเธอดูน่าสงสาร

หากใครได้เห็นพวกเขาในตอนนี้ พวกเขาอาจจะคิดว่าเบียงก้ากำลังกลั่นแกล้งมาลี และพวกเขาก็จะตำหนิเบียงก้าที่เธอไม่ยอมรับพี่สาวที่มาจากการแต่งงานครั้งที่สองของพ่อของเธอ

เบียงก้ารู้ว่าฌองยืนอยู่ข้างหลังของเธอ เธอจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่เยาะเย้ยว่า “ฉันไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าเธอทั้งคู่จะมีอะไรกันหรือไม่ก็ตาม แต่ฉันสงสัยว่า เธอมาที่นี่และแสดงความโศกเศร้าทำไม? เธอรู้สึกผิดอย่างนั้นเหรอ? เรื่องบนเตียงของเขาแย่มากจนเธอเสียใจที่ไปหลงเสน่ห์เขาอย่างนั้นเหรอ? หรือเธอต้องการเรียกเงินประกันคืนจากฉันอย่างนั้นเหรอ?”

มาลีเบิกตากว้างเป็นประกายวาววับราวกับดอกไม้สีขาว เธอมองดูเบียงก้าด้วยท่าทางที่อ่อนแรง แต่ทว่า ลึกลงไปภายในใจนั้น เธอกำลังกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ ‘เบียงก้า ทำไมเธอถึงได้เย่อหยิ่งขนาดนี้? ตลกสิ้นดี เธอบอกว่าฌองเป็นรองเท้าคู่เก่าที่เธอไม่ต้องการมันอีกต่อไปอย่างนั้นเหรอ? ก่อนที่เธอจะพูดเช่นนั้น เธอเคยส่องกระจกดูเงาตัวเองบ้างไหม? ฉันคิดว่า ไม่มีผู้ชายคนไหนในโลกใบนี้ที่อยากได้ผู้หญิงที่ไม่มีความเร้าใจและเย่อหยิ่งแบบเธอหรอก!’

“พอได้แล้ว” ฌองเดินเข้าไปจับข้อมือเรียวเล็กของมาลีและดึงเธอออกไป

เบียงก้ายังคงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างสงบนิ่ง

“ฌอง ปล่อยนะฉันเจ็บ...” มาลีพูดอย่างแผ่วเบาในขณะที่เธอพยายามสะบัดข้อมือของเธอออกจากมืออันใหญ่โตของฌอง

ฌองยังคงไม่ปล่อยขณะที่มาลีพึมพำด้วยความเจ็บปวด เธอหันกลับมามองเบียงก้าที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม จากนั้นรอยยิ้มแห่งชัยชนะก็ผุดขึ้นบนใบหน้าของมาลี...

“เชิญเธอกลับบ้านไปเองเลยนะ ฉันไม่อยากคุยเรื่องไร้สาระวันนี้ เราจะคุยกันวันพรุ่งนี้” ฌองปล่อยมือของมาลี เขาจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบด้วยความกระวนกระวายใจ จากนั้น เขาก็ขึ้นรถแล้วขับออกไป

มาลีเบิกตากว้างในขณะที่เธอจ้องมองไปที่ฌองที่ทิ้งเธอไว้ตรงนั้น เธอโกรธจนแทบจะตะโกนออกมาดัง ๆ...

เมื่อฌองขับรถออกมาแล้ว เขาก็เอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าสตางค์เพื่อชำระค่าที่จอดรถ ก่อนที่เขาจะออกจากลานจอดรถไป

ณองพิงมือของเขาบนหน้าต่างในขณะที่เขากำลังขับรถ เขารู้สึกเศร้าใจและสงสัยในสิ่งที่เบียงก้าพูดกับมาลีก่อนหน้านี้ 'อะไร? เรื่องบนเตียงของฉันไม่ดีอย่างนั้นเหรอ?

‘ฉันเป็นรองเท้าชำรุดและเธอไม่ต้องการเหรอ...มันน่าโมโหจริง ๆ!

‘มาดูกันว่า ใครกันแน่ที่จะเป็นรองเท้าที่ชำรุดกันแน่!'

“นางผู้หญิงคนนี้!” ฌองทิ้งก้นบุหรี่ออกจากรถด้วยความโกรธ จากนั้น เขาก็หมุนพวงมาลัยและเร่งคันรถอย่างรวดเร็ว

มาลีที่ถูกทิ้งไว้ที่ลานจอดรถมองไปรอบ ๆ เธอสังเกตเห็นว่าผู้คนที่ผ่านไปมากำลังจ้องมองเธออยู่ เธอกลอกตาของเธอที่ยังคงเป็นประกายไปด้วยน้ำตา ในขณะที่เธอพึมพำกับตัวเองอย่างมั่นอกมั่นใจว่า “เบียงก้า เรย์น เธอจะต้องร้องขอความเมตตาจากฉันแน่! ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ฉันต้องการ! ไม่ว่าเรื่องการแต่งงานหรือว่าเรื่องผู้ชาย เธอจะไม่มีวันได้สมหวัง!”

...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก