ลุค ครอว์ฟอร์ดไปที่ร้านขายยาเพื่อซื้อยาสี่กล่องตามใบสั่งยาที่แพทย์ในชุมชนได้ให้ไว้ก่อนหน้านี้
ซึ่งเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของเขา ในการซื้อยาให้ผู้หญิง
หลังจากนั้น เมื่อเขากลับมา เขามองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่พบเบียงก้า
...
ณ คฤหาสน์ครอว์ฟอร์ดในเวลาพลบค่ำ
บลองช์ ครอว์ฟอร์ดยังคงไม่นอน ร่างเล็ก ๆ ของเด็กน้อยเขานั่งอยู่บนโซฟาหนังสีดำ
“พี่ชาย เราจะไม่เข้านอนกันเหรอ?” เรนนี่กอดตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ของเธอเอาไว้ในขณะที่เธอนั่งลงบนโซฟา เธอถามบลองช์ด้วยความสงสัย
“ถ้าเธอง่วงนอนก็ไปนอนก่อนเลย พี่จะรอเอง” บลองช์เองก็รู้สึกง่วงนอน แต่เขาพยายามบังคับไม่ให้ดวงตาของเขาปิดลง
เขาตั้งใจจะรอจนกว่าพ่อของเขาจะกลับมา และพูดในสิ่งที่เขาต้องการจะพูดก่อนที่เขาจะเข้านอน
เมื่อเรนนี่ได้ยินว่าพี่ชายของเธอจะรอต่อไป ดังนั้น เธอจึงรู้สึกว่า เธอควรเรียนรู้ในการเป็นคนเข้มแข็งดั่งพี่ชายของเธอแทนที่จะง่วงเหงาหาวนอนเช่นนี้
อาหลุยส์เคยบอกเธอว่า สักวันหนึ่ง ถ้าหากว่าพ่อของพวกเขาแต่งงาน พวกเขาก็จะต้องมีแม่เลี้ยง
ทั้งพี่ชายของเธอและตัวเธอเองต่างก็ต้องการคำอธิบายว่า แม่ของพวกเขาอยู่ที่ไหน? เธอจะไปสวรรค์แล้ว หรือว่าเธอจะไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งและไม่อยากเจอพวกเขารึเปล่า?…
ดังนั้น สองพี่น้องจึงรอด้วยกันต่อไป
แต่โชคร้ายนัก เด็กน้อยทั้งสองมีพลังงานจำกัด ก่อนสี่ทุ่มพวกเขาก็ผล็อยหลับไป และเรนนี่ก็นอนดูดนิ้วโป้งจนน้ำลายไหล...
อลิสันเองก็นอนไม่หลับ เธอจึงลงไปข้างล่างและได้เห็นเด็กทั้งสองผล็อยหลับอยู่บนโซฟา เธอจึงรีบสั่งให้สาวใช้อุ้มทั้งสองขึ้นไปชั้นบนอย่างระมัดระวัง
เมื่อรู้สึกว่ามีใครสักคนอุ้มพวกตน เด็กทั้งสองจึงมีปฏิกิริยาเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมา
ลุคกำลังกลับบ้านในคืนนั้น
และเมื่อเขากลับมาถึงบ้าน มันก็ดึกมากแล้ว เขาเดินไปดูเรนนี่และลานี่ที่หลับอยู่ในห้อง ก่อนที่เขาจะไปอาบน้ำและเข้านอน
ลุคนอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงเกือบสองชั่วโมง แต่เขาก็ยังคงนอนไม่หลับ ในขณะที่ห้องนอนถูกปกคลุมไปด้วยความมืด ราตรีนี้อีกยาวไกล
เมื่อเขานอนลงบนเตียง เขาก็ยังคงถอนหายใจเบา ๆ อยู่ภายในห้อง
จากนั้นไม่นาน เขาก็รู้สึกปวดหัว เขาจึงหลับ ๆ ตื่น ๆ เมื่อเขาลุกขึ้นนั่ง จู่ ๆ ลูกชายของเขาก็ปรากฏตัวขึ้นบนเตียงของเขา
“พ่อครับ คุณอาหลุยส์บอกว่าอาการแบบนี้เรียกว่า อาการนอนไม่หลับเมื่ออยู่คนเดียว...”
ลุคเลิกคิ้วและเอื้อมมือทั้งสองไปแตะที่ศรีษะของเขา เขาหลับตาและพูดว่า “ทำไมเด็กตัวเล็กแค่นี้ถึงรู้เกี่ยวกับอาการนอนไม่หลับตอนอยู่คนเดียวด้วยล่ะ?”
“ผมรู้ ผมถึงมานอนกับคุณพ่อยังไงละครับ คุณพ่อแบ่งหมอนให้ผมนอนด้วยและคุณพ่อจะได้ต้องไม่รู้สึกเหงาและนอนไม่หลับอีกครับ” เด็กชายพูดในขณะที่เขากอดพ่อที่เย็นชาของเขา จากนั้นเขาก็กล่อมลุคและพูดว่า “คุณพ่อครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณพ่อ...”
มันเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักที่ลุคจะเต็มใจให้ลูกชายของเขาถาม
“พ่อครับ คุณแม่ของผมยังมีชีวิตอยู่ไหม?” เด็กชายเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง เพราะเขารู้ว่าหัวข้อนั้นอาจจะเป็นคำถามล้ำเส้นพอสมควร
"ยังมีชีวิตอยู่"
ลุคตอบคำถามด้วยความงัวเงีย
ดวงตาของบลองช์เบิกกว้างราวกับว่าเขาเห็นผี 'อะไรนะ? แม่ของเรายังมีชีวิตอยู่!'
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก