รถไฟใต้ดินวิ่งผ่านสถานีก่อนหน้านี้มาจนถึงอีกหนึ่งสถานี
เบียงก้าครุ่นคิดว่า ร่างกายของเธอที่กำลังแนบชิดกับลุคนั้นมีความรู้สึกที่แปลกไป...
หน้าต่างบานใหญ่ของตู้โดยสารรถไฟใต้ดินสะท้อนให้เห็นภาพของผู้โดยสารภายในรถไฟ
ในตอนแรก เบียงก้าไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมองได้ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ใบหน้าที่เขินอายของเธอก็จางลงอย่างเห็นได้ชัดเจน เธอพยายามเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองไปยังภาพสะท้อนที่อยู่บนหน้าต่าง
ร่างสูงกำยำของลุคยืนอยู่ด้านหลังเธอ ชายผู้นั้นจับราวด้วยมือข้างหนึ่ง ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งได้ปกป้องเธอเอาไว้ด้วยการโอบกอด
เบียงก้าตัวเล็กเกินไป แต่เธอก็ยังอยากเห็นสีหน้าของเขา ความสูงของชายผู้นั้นทำให้เธอไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขา ดังนั้น เธอจะต้องเงยหน้าขึ้น ถ้าหากว่าเธออยากเห็นใบหน้าของเขา
เพียงเพราะว่าชายวัยกลางคนได้ฉวยโอกาสจากเธอก่อนหน้านี้ด้วยการสัมผัสมือของเธออย่างจงใจ เหตุการณ์นั้นทำให้ลุคแสดงความเป็นเจ้าของและโอบกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนของเขาแน่น
เมื่อผู้โดยสารชายคนอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียงได้ยินชายผู้นี้เรียกเธอว่า 'ภรรยา' ดังนั้น พวกเขาจึงถอยออกจากเบียงก้าโดยอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้ 'สามี' ของเธออารมณ์เสีย
เมื่อรถไฟใต้ดินมาถึงย่านการค้าในใจกลางเมือง ผู้โดยสารจำนวนมากก็ได้ลงจากรถไฟไป
เบียงก้ามองดูรถไฟใต้ดินหยุดลง จากนั้น ผู้คนรอบตัวเธอก็เริ่มเดินไปที่ประตู เธอสงสัยว่าลุครู้วิธีขึ้นรถไฟใต้ดินหรือไม่ เธอจึงหันกลับมาและกระซิบเบา ๆ ว่า “เราต้องลงที่นี่”
ลุคไม่รู้ว่าเขาจะต้องลงที่สถานีใด
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาจึงตอบเธอว่า “อืม”
เบียงก้าเดินไปข้างหน้าและลงจากรถไฟใต้ดินอย่างคล่องแคล่ว เธอเดินไปที่ทางออกในขณะที่เธอสงสัยว่าลุคยังคงตามมาอยู่รึเปล่า
เมื่อออกมาจากสถานีรถไฟใต้ดินแล้ว ถนนฝั่งตรงข้าม คืออาคารบริษัทที คอร์ปอเรชั่น ที่ใช้เวลาเดินไปถึงที่นั่นเพียงแค่ไม่กี่นาที
หัวใจของเบียงก้าเต้นแรง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้เดินเคียงข้างกับเจ้านายของเธอ แต่เขาก็ยังคงเดินตามหลังเธอไปอย่างใกล้ชิด
'พื้นที่นี้อยู่ภายในระแวกของบริษัท' เบียงก้าครุ่นคิดอย่างเป็นกังวล 'จะมีใครสังเกตเห็นพวกเราไหม?'
ใครจะไปคิดว่าลุคจะขึ้นรถไฟใต้ดินมาทำงานในวันนี้ และเขายังโดดเด่นออกมาเกินหน้าเกินตาคนอื่นเสียด้วย...
เบียงก้ารีบเร่งความเร็วของเธอโดยไม่รู้ตัว
…
ลุคเดินออกมาจากสถานีรถไฟใต้ดินอย่างสงบ
ลุคไปถึงที่หน้าประตูบ้านเช่าของเบียงก้าตอนเจ็ดโมงยี่สิบนาที เขาได้ขับรถไปที่นั่น และเขาก็ได้เห็นเบียงก้าเดินตรงไปที่สถานีรถไฟใต้ดิน หลังจากที่เธอออกมาจากบ้านของเธอแล้ว
เขาจึงเดินตามเธอไป เขาซื้อบัตรและรูดบัตรโดยสาร เขาทำตามเธอทุกอย่างจนกระทั่งเขาได้ขึ้นรถไฟใต้ดิน
เธอไม่รู้เลยว่าเขาได้ตามเธอไปตลอดทาง
เมื่อคิดถึงผู้หญิงคนนี้ มันก็เริ่มส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเขา ลุคเคยคิดว่าเมื่อเวลาผ่านไปนานกว่าห้าปี เธอจะกลายเป็นเพียงแค่คนไม่รู้จักในสายตาของเขา
แต่ในความเป็นจริง มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น
เมื่อลุคเดินเข้ามาภายในระแวกของที คอร์ปอเรชั่น เจ้านายที่กำลังเดินเข้ามาที่บริษัทตกเป็นเป้าสายตาของพนักงานหลายคนที่กำลังเข้าไปในอาคาร
วันนี้เจ้านายไม่ขับรถมาทำงาน
ไม่เพียงเท่านั้น เขายังมาจากทิศทางของสถานีรถไฟใต้ดินที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนอีกด้วย
การกระทำของเขาทำให้พนักงานหลายคนต่างก็มองดูด้วยความสงสัย
เบียงก้าเดินเข้ามาทางประตูหน้าของบริษัท เธอเดินก้มหน้าลงและตรงไปยังทิศทางของลิฟต์
เมื่อลิฟต์ลงมาแล้ว เธอจึงเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่การพยายามหลีกเลี่ยงของเธอกลับล้มเหลว 'สิ่งที่ไม่อยากให้เกิดกลับเกิดขึ้น' และ 'คนที่ไม่อยากให้เข้ามากลับเข้ามา’
เธอมองไปยังชายที่เดินเข้ามาในขณะที่เขาเปิดประตูลิฟต์ ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอซีดเซียวและหวาดกลัว
จากนั้น ประตูลิฟต์ก็ปิดลง เบียงก้าต้องใช้เวลาพอสมควรในการฟื้นคืนสติ จากนั้น เธอก็กดหมายเลขชั้นที่เธอกำลังจะมุ่งหน้าไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก