พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 55

รถไฟใต้ดินวิ่งผ่านสถานีก่อนหน้านี้มาจนถึงอีกหนึ่งสถานี

เบียงก้าครุ่นคิดว่า ร่างกายของเธอที่กำลังแนบชิดกับลุคนั้นมีความรู้สึกที่แปลกไป...

หน้าต่างบานใหญ่ของตู้โดยสารรถไฟใต้ดินสะท้อนให้เห็นภาพของผู้โดยสารภายในรถไฟ

ในตอนแรก เบียงก้าไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมองได้ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ใบหน้าที่เขินอายของเธอก็จางลงอย่างเห็นได้ชัดเจน เธอพยายามเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองไปยังภาพสะท้อนที่อยู่บนหน้าต่าง

ร่างสูงกำยำของลุคยืนอยู่ด้านหลังเธอ ชายผู้นั้นจับราวด้วยมือข้างหนึ่ง ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งได้ปกป้องเธอเอาไว้ด้วยการโอบกอด

เบียงก้าตัวเล็กเกินไป แต่เธอก็ยังอยากเห็นสีหน้าของเขา ความสูงของชายผู้นั้นทำให้เธอไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขา ดังนั้น เธอจะต้องเงยหน้าขึ้น ถ้าหากว่าเธออยากเห็นใบหน้าของเขา

เพียงเพราะว่าชายวัยกลางคนได้ฉวยโอกาสจากเธอก่อนหน้านี้ด้วยการสัมผัสมือของเธออย่างจงใจ เหตุการณ์นั้นทำให้ลุคแสดงความเป็นเจ้าของและโอบกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนของเขาแน่น

เมื่อผู้โดยสารชายคนอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียงได้ยินชายผู้นี้เรียกเธอว่า 'ภรรยา' ดังนั้น พวกเขาจึงถอยออกจากเบียงก้าโดยอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้ 'สามี' ของเธออารมณ์เสีย

เมื่อรถไฟใต้ดินมาถึงย่านการค้าในใจกลางเมือง ผู้โดยสารจำนวนมากก็ได้ลงจากรถไฟไป

เบียงก้ามองดูรถไฟใต้ดินหยุดลง จากนั้น ผู้คนรอบตัวเธอก็เริ่มเดินไปที่ประตู เธอสงสัยว่าลุครู้วิธีขึ้นรถไฟใต้ดินหรือไม่ เธอจึงหันกลับมาและกระซิบเบา ๆ ว่า “เราต้องลงที่นี่”

ลุคไม่รู้ว่าเขาจะต้องลงที่สถานีใด

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาจึงตอบเธอว่า “อืม”

เบียงก้าเดินไปข้างหน้าและลงจากรถไฟใต้ดินอย่างคล่องแคล่ว เธอเดินไปที่ทางออกในขณะที่เธอสงสัยว่าลุคยังคงตามมาอยู่รึเปล่า

เมื่อออกมาจากสถานีรถไฟใต้ดินแล้ว ถนนฝั่งตรงข้าม คืออาคารบริษัทที คอร์ปอเรชั่น ที่ใช้เวลาเดินไปถึงที่นั่นเพียงแค่ไม่กี่นาที

หัวใจของเบียงก้าเต้นแรง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้เดินเคียงข้างกับเจ้านายของเธอ แต่เขาก็ยังคงเดินตามหลังเธอไปอย่างใกล้ชิด

'พื้นที่นี้อยู่ภายในระแวกของบริษัท' เบียงก้าครุ่นคิดอย่างเป็นกังวล 'จะมีใครสังเกตเห็นพวกเราไหม?'

ใครจะไปคิดว่าลุคจะขึ้นรถไฟใต้ดินมาทำงานในวันนี้ และเขายังโดดเด่นออกมาเกินหน้าเกินตาคนอื่นเสียด้วย...

เบียงก้ารีบเร่งความเร็วของเธอโดยไม่รู้ตัว

ลุคเดินออกมาจากสถานีรถไฟใต้ดินอย่างสงบ

ลุคไปถึงที่หน้าประตูบ้านเช่าของเบียงก้าตอนเจ็ดโมงยี่สิบนาที เขาได้ขับรถไปที่นั่น และเขาก็ได้เห็นเบียงก้าเดินตรงไปที่สถานีรถไฟใต้ดิน หลังจากที่เธอออกมาจากบ้านของเธอแล้ว

เขาจึงเดินตามเธอไป เขาซื้อบัตรและรูดบัตรโดยสาร เขาทำตามเธอทุกอย่างจนกระทั่งเขาได้ขึ้นรถไฟใต้ดิน

เธอไม่รู้เลยว่าเขาได้ตามเธอไปตลอดทาง

เมื่อคิดถึงผู้หญิงคนนี้ มันก็เริ่มส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเขา ลุคเคยคิดว่าเมื่อเวลาผ่านไปนานกว่าห้าปี เธอจะกลายเป็นเพียงแค่คนไม่รู้จักในสายตาของเขา

แต่ในความเป็นจริง มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น

เมื่อลุคเดินเข้ามาภายในระแวกของที คอร์ปอเรชั่น เจ้านายที่กำลังเดินเข้ามาที่บริษัทตกเป็นเป้าสายตาของพนักงานหลายคนที่กำลังเข้าไปในอาคาร

วันนี้เจ้านายไม่ขับรถมาทำงาน

ไม่เพียงเท่านั้น เขายังมาจากทิศทางของสถานีรถไฟใต้ดินที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนอีกด้วย

การกระทำของเขาทำให้พนักงานหลายคนต่างก็มองดูด้วยความสงสัย

เบียงก้าเดินเข้ามาทางประตูหน้าของบริษัท เธอเดินก้มหน้าลงและตรงไปยังทิศทางของลิฟต์

เมื่อลิฟต์ลงมาแล้ว เธอจึงเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่การพยายามหลีกเลี่ยงของเธอกลับล้มเหลว 'สิ่งที่ไม่อยากให้เกิดกลับเกิดขึ้น' และ 'คนที่ไม่อยากให้เข้ามากลับเข้ามา’

เธอมองไปยังชายที่เดินเข้ามาในขณะที่เขาเปิดประตูลิฟต์ ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอซีดเซียวและหวาดกลัว

จากนั้น ประตูลิฟต์ก็ปิดลง เบียงก้าต้องใช้เวลาพอสมควรในการฟื้นคืนสติ จากนั้น เธอก็กดหมายเลขชั้นที่เธอกำลังจะมุ่งหน้าไป

บรรยากาศภายในลิฟต์เงียบสงบ

เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกในแต่ละชั้น และพนักงานบางคนที่ต้องการที่จะขึ้นลิฟต์ แต่เมื่อพวกเขาสังเกตเห็นเจ้านายของพวกเขายืนอยู่ข้างใน พวกเขาจึงไม่กล้าเข้ามาในลิฟต์

ณ จุดนี้ เบียงก้าจึงดูเหมือนตัวตลก

ในขณะที่พวกเขาตกใจเมื่อพวกเขามองเห็นเจ้านายของพวกเขา พวกเขาก็จะมองดูเธอด้วยความสับสนเช่นกัน

ในที่สุด ลิฟต์ก็มาถึงชั้นที่เบียงก้าต้องการจะออกไป และเมื่อเธอกำลังจะออกไปนั้น

“ยาของคุณน่ะ” เสียงของชายผู้นั้นต่ำและแหบแห้ง

เมื่อเธอกำลังจะออกไป ข้อมือซ้ายของเบียงก้าก็ถูกชายผู้นั้นรั้งเอาไว้เบา ๆ จากนั้น ถุงที่มีโลโก้ของร้านขายยาก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ

เขาบอกให้เธอรอเขาเมื่อคืนนี้

แต่เธอไม่ได้รอ

สรุปว่าเขาไปร้านขายยาเพื่อซื้อยาให้กับเธอ

เมื่อเธอพบเขาในรถไฟใต้ดิน เขาก็โอบกอดเธอจากด้านหลัง และเมื่อเธอลงจากรถไฟใต้ดินมา เธอก็แทบจะไม่ได้มองเขาเลย แต่ในตอนนี้ ในที่สุด เธอก็หันกลับมาและจ้องมองไปที่ใบหน้าของเขา

ลุคไม่ได้อยู่ในชุดสูทและรองเท้าหนังที่ดูน่าเกรงขามในวันนี้ แขนของเสื้อเชิ้ตสีขาวถูกม้วนขึ้นโดยปราศจากเน็คไท จนทำให้เขาดูเป็นกันเองและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่ก็ยังมีความเป็นผู้ใหญ่และสง่างาม

ถึงแม้ว่าเธอจะยังคงสงสัย แต่เธอก็เอื้อมมือไปรับยาอย่างเชื่อฟัง…

วันนี้ซูมาถึงที่ทำงานเร็ว เพราะมีหลายเรื่องให้คิด เธอจึงนอนไม่หลับ ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจมาที่ทำงานแต่เช้าตรู่ แต่การอดนอนทำให้เธอรู้สึกง่วงเล็กน้อย เธอจึงหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาและเดินไปชงกาแฟ

เมื่อเธอเดินออกมา เธอก็สังเกตเห็นใครบางคนยืนอยู่ที่ทางเข้าลิฟต์

เบียงก้าเหรอ?

ซูกำลังจะเข้าไปทักทายเบียงก้า แต่แล้ว เธอก็ได้เห็นเบียงก้ากำลังคุยกับใครบางคนที่อยู่ในลิฟต์ ชายผู้นั้นกำลังคว้าข้อมือของเบียงก้า เธอจึงสังเกตเห็นนาฬิกาที่มีราคาแพงที่ส่องประกายจากบนข้อมือของเขา

ซูรู้เรื่องของเธอดี ดังนั้น เธอจึงค่อนข้างแน่ใจว่าผู้ชายคนนั้นคือเจ้านายของเธอ

ภายในลิฟต์ เบียงก้าถูกร่างกายที่กำยำของลุคกดทับลงบนผนังของลิฟต์ หน้าอกของเธอสั่นเทาพร้อมหัวใจที่สั่นระรัว ริมฝีปากของเธอเร่าร้อนขึ้นในทันใด สถานการณ์นั้นช่างเย้ายวนใจจนเธอเกือบจะลืมว่าเธอเป็นใคร…

ลิฟต์โดยสารแคบ ๆ ถูกปกคลุมไปด้วยเสียงหายใจที่คลุมเครือและเสียงของเสื้อผ้าที่เสียดสีกัน…

ชายคนนั้นเอื้อมมืออันใหญ่โตเข้าไปภายใต้กระโปรงของเบียงก้า เบียงก้าตัวสั่นจนขาของเธอแทบจะอ่อนแรง เธอเพียงรู้สึกว่ามือของชายผู้นั้นให้ความรู้สึกที่สั่นสะท้าน...

“อย่านะ…” เธอหายใจหนักขึ้น เธอกลัวว่าเธอจะจมอยู่กับกลิ่นฮอร์โมนอันเร่าร้อนของชายผู้นี้

ว่ากันว่า ร่างกายของมนุษย์มักจะกระปรี้กระเปร่าในตอนเช้า

โดยเฉพาะในพื้นที่ลิฟต์ที่แคบ ๆ เช่นนี้ ซึ่งไม่ว่าใครคนไหนก็ตามสามารถเดินออกได้ตลอดเวลาสิ่งนี้ทำให้เกิดอารมณ์ได้ทุกเมื่อด้วยบรรยากาศที่สามารถปลุกเร้าให้ผู้คนหลงใหลอย่างควบคุมไม่ได้

ซูซ่อนตัวอยู่ในห้องชงกาแฟและกำลังดื่มกาแฟที่เธอชงอย่างเร่งรีบ

เมื่อเห็นใครบางคนเดินเข้ามาในพื้นที่ของแผนกออกแบบ ซูก็รีบจิบกาแฟเข้าไป เธอมองดูแก้มที่แดงอย่างเห็นได้ชัดเจนของเบียงก้า และริมฝีปากอันอ่อนโยนที่บวมแดงเหมือนแอปเปิ้ลที่สุกงอม

เธอรู้ได้ทันทีว่าเจ้านายของเธอได้ทำให้ริมฝีปากของบีชุ่มชื้นขึ้น...

เบียงก้าหมกมุ่นอยู่กับงานจนถึงเที่ยงวัน จากนั้น เธอก็ถูกรบกวนโดยสายเรียกเข้าจากใครบางคน

คลอเดียโทรมาหาเธอและพูดอย่างตื่นเต้นว่า “บี เธอจำครอว์ฟอร์ดที่หล่อเหลาและน่าเกรงขามคนนั้น คนที่เล่นบาสเก็ตบอลเก่ง ๆ ที่อยู่โรงเรียนมัธยมข้าง ๆ ได้ไหม?”

เบียงก้าถอนหายใจ “…”

“เขาไม่เคยมาสังสรรค์กับพวกเราเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา! และฉันก็รู้ดีว่าเขาเป็นรุ่นพี่และแก่กว่าเรา ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะไม่มาคลุกคลีกับพวกเรา แต่คราวนี้เขาบอกว่าเขาจะมา! แม่บอกกับฉันว่า เขาจะเข้าร่วมประชุมที่สหรัฐอเมริกาในสุดสัปดาห์นี้ แต่หลังจากนั้น เขาก็โทรมาบอกว่าเขาจะเข้าร่วมการประชุมเร็วขึ้น เขายังบอกอีกว่า เขาจะแนะนำหมอศัลยกรรมกระดูกที่มีชื่อเสียงจากต่างประเทศให้แม่ฉันรู้จักเพื่อรักษาอาการป่วยด้วยนะ!”

คลอเดียยังคงเล่าเรื่องราวเพ้อฝันของเธอต่อไปก่อนที่เธอจะทนหยอกล้อเบียงก้าไม่ไหว “บี ฉันจำได้ว่าตอนนั้นสมัยเด็ก ๆ เธอเคยแอบชอบรุ่นพี่คนนั้นนะ…”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก