พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 56

“ฉันเปล่า…” เบียงก้ารีบปฏิเสธทันที

“เธอกล้าโกหกฉันเหรอ? ถ้าเธอไม่ได้แอบชอบเขา แล้วใครกันล่ะที่ชอบซุ่มอยู่หลังกำแพงและแอบมองออกไปที่สนามเด็กเล่นของโรงเรียนมัธยมที่อยู่ติดกันอย่างกับคนบ้านั่นน่ะ?” คลอเดียหยอกล้อเธอถึงเรื่องของอดีต

เบียงก้ายังจำเหตุการณ์ในสมัยมัธยมของเธอได้ดี

เธอมักจะชอบจ้องมองทิวทัศน์ที่สวยงามและผู้คนอย่างโง่เขลาสมัยเรียนมัธยม และคนที่เธอให้ความสนใจมากที่สุดก็คือ รุ่นพี่ครอว์ฟอร์ด จากโรงเรียนมัธยมที่อยู่ติดกัน

คลอเดียคาดเดาได้ว่า เบียงก้าอาจจะกำลังเขินอายอยู่ เธอจึงพูดต่อว่า “เขาหล่อเหล่ามากขนาดนั้น! และยังน่าเกรงขามอีกด้วย! มีใครบ้างล่ะที่จะไม่ตกหลุมรักเขา? เธอไม่เห็นจะต้องอายเลย”

เบียงก้าสำลักเล็กน้อย ใบหน้าของเธอเริ่มแดง

จากนั้น ใบหน้าของรุ่นพี่ครอว์ฟอร์ดที่อยู่ภายในใจก็แปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าของลุค ครอว์ฟอร์ดโดยไม่รู้ตัว

มีข่าวลือว่า ลุคมีน้องชายที่ชื่อ หลุยส์ และทั้งสองพี่น้องก็มีความคล้ายคลึงกันในเรื่องของรูปลักษณ์ และเบียงก้าก็ยังไม่เคยเห็นหลุยส์เป็นการส่วนตัวมาก่อน

ถ้าหากว่า หลุยส์ คือรุ่นพี่ครอว์ฟอร์ด แต่ลุค คือคนที่อยู่ในใจของเธอตลอดเวลา ดังนั้น มันคงจะเป็นความเข้าใจผิดที่ใหญ่ที่สุด...

เบียงก้าตอบโต้อย่างดื้อรั้น “เธอพูดไร้สาระอะไร? ตอนนั้นฉันเพิ่งจะอายุแค่ 14 เอง…”

“เธอเพิ่งจะอายุ 14 แล้วยังไง? เธอควรจะเปิดใจให้มากกว่านี้หน่อย เธอไม่รู้เหรอว่าในวัยของเรา เรื่องความสัมพันธ์ในวัยรุ่นเป็นเรื่องที่มีอยู่ทุกที่แหละ แม้แต่รุ่นน้องปี 1 ก็ยังเคยทำแท้งเลย แม่ของฉันเป็นครู ฉันก็เลยได้ยินเรื่องพวกนี้อยู่บ่อย ๆ แหละ…” คลอเดียพูดต่อว่า “นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอแอบชอบใครสักคนนิ แถมเธอก็เขินอายเกินกว่าจะที่จะยอมรับมัน”

เบียงก้าพูดไม่ออกทันที

“เราเปลี่ยนที่อยู่ของสถานที่จัดเลี้ยงแล้ว เดี๋ยวฉันจะส่งที่อยู่ที่เรานัดสังสรรค์กันให้เธอนะ ฉันต้องวางสายก่อน ฉันจะต้องไปบอกคนอื่น ๆ อีก!” เมื่อพูดจบประโยค คลอเดียก็วางสายไป

เบียงก้าวางโทรศัพท์ลง เธอรู้สึกว่าร่างกายอ่อนแรง

เธอสงสัยว่ารุ่นพี่ครอว์ฟอร์ดจะมาปรากฏตัวหรือไม่ แต่คลอเดียก็ได้บอกกับเธออย่างชัดเจนแล้วว่า เขาจะมาร่วมงานเลี้ยง...

มันเป็นเรื่องปกติที่เด็กผู้หญิงทุกคนในวัยนั้นจะต้องมีคนที่แอบชอบอยู่ แม้ว่าเบียงก้าจะปฏิเสธที่จะยอมรับออกมาอย่างกล้าหาญ แต่ลึก ๆ ลงไป เธอเองก็รู้อยู่แก่ใจดี

เธอส่ายหน้าเบา ๆ เธอไม่ต้องการจมอยู่กับความคิดเหล่านั้นอีกต่อไป

ถึงแม้ว่าเธอจะบังเอิญเดินชนกับรุ่นพี่ครอว์ฟอร์ด เขาก็คงจะหันมาสบตาเธอเพียงแค่ชั่วขณะและเดินจากไป โรงเรียนของเธอเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่และมีเด็กผู้หญิงมากมายที่ชื่นชอบเขา เธอเป็นเพียงคนเดียวที่คอยเอาแต่ซ่อนตัวอยู่หลังกำแพง เพราะเธอไม่ได้มีความโดดเด่นอะไร

หลังจากที่หยุดความคิดเหล่านั้นแล้ว เบียงก้าก็กลับมาทำงานของเธอต่อ

ภายในร้านอาหารจีนธรรมดาที่ถนนถนนโฟร์ทริงในย่านใจกลางเมือง

อลินสัน แทนเนอร์ดื่มชาไปหลายถ้วยจนเธอไม่สามารถนับจำนวนได้ เธอดื่มไปเกือบครึ่งโถ จากนั้น เควิน เรย์น ก็ปรากฏตัวในที่สุด

เควินเปิดประตูห้องส่วนตัวและเดินเข้ามา

พนักงานเสิร์ฟเดินตามเข้ามา จากนั้น เธอก็วางเมนูลงและถามอย่างสุภาพว่า “ไม่ทราบว่าวันนี้ทั้งสองท่านจะรับอะไรดีคะ?”

อลิสันกำลังจะตอบว่าเธอไม่ต้องการสั่งอาหาร แต่แล้วเควินก็หยิบเมนูขึ้นมาและเลือกสั่งอาหารสามอย่าง ตามด้วยซุปข้าวสองจาน และโค้กหนึ่งขวด

เมื่อพนักงานเสิร์ฟรับออเดอร์เสร็จเรียบร้อยเธอจึงตอบว่า “กรุณารอสักครู่นะคะ” จากนั้นเธอก็เดินออกไป

อลิสันเริ่มหงุดหงิดต่อเห็นสภาพแวดล้อมภายในร้านอาหาร แต่เธอก็เก็บคำพูดเอาไว้อยู่ภายใน ก่อนที่เธอจะชี้ให้เขาดูนาฬิกาแล้วถามเขาว่า “นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว? ทำไมฉันจะต้องเสียเวลามานั่งรอคุณ เควิน เรย์น!”

“ครอบครัวของผมกำลังจับตาดูผมอยู่ ผมผิดเองแหละ...ที่มาสาย” เควินพูดอย่างตรงไปตรงมา

เมื่ออลิสันได้ยินข้อแก้ตัวของเขา เธอก็แทบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ไหว

“ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี คุณก็ยังไร้ประโยชน์เหมือนเดิม เควิน เรย์น” อลิสันจ้องมองไปที่ใบหน้าอันเหนื่อยล้าของเควินเธอกล่าวต่อว่า “ฉันนึกไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าผู้หญิงแบบไหนที่ยอมแต่งงานกับคนที่ไม่มีความกระตือรือร้นอย่างคุณ”

เควินยังคงนิ่งเฉยตลอดเวลา

เท้าข้างหนึ่งของชายผู้นี้อยู่ในหลุมศพแล้ว แต่อดีตภรรยาของเขาก็ยังคงย่ำยีเขาอย่างไม่ลดละ ไม่แปลกใจเลยที่การหลีกเลี่ยงอดีตภรรยาคนนี้จะเป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับเขา

อย่างไรก็ตามในวันนี้เขา มีเรื่องที่จะต้องคุยกับเธอ

“เข้าเรื่องกันเถอะ บ้านที่อยู่ในบ้านเกิดของผมกำลังจะถูกรื้อถอนภายในไม่ช้า และบ้านหลังนั้นก็มีชื่อคุณร่วมด้วย ดังนั้น ผมจึงอยากพบคุณเพื่อต้องการความคิดเห็นจากคุณ คุณต้องการค่าชดเชยเท่าไหร่?” เมื่อเควินถามเธอ เขาไม่ได้สบตาอลิสันเลย

ในตอนนี้ อลิสันได้กลายเป็นผู้มั่งคั่งไปแล้ว และความงามของเธอก็ยังได้รับการดูแลเป็นอย่างดี จนไม่มีใครสามารถคาดเดาอายุที่แท้จริงของเธอได้

เธอเป็นภรรยาคนที่สองของประธานคนก่อนของบริษัทที คอร์ปอเรชั่น อลิสันได้แต่งงานเข้ามาอยู่ในตระกูลที่ร่ำรวยหลังจากนั้น เธอก็มักจะปรากฏให้เห็นในหนังสือพิมพ์กับสามีของเธออยู่เสมอ

เควินยังจำครั้งแรกที่เขาได้เห็นรูปภาพของภรรยาเก่าของเขาและชายผู้นั้นในหนังสือพิมพ์ได้

ในวันนั้น เขาอยู่ในสถานที่ก่อสร้าง เขาจ้องมองไปที่หนังสือพิมพ์โดยไม่คาดคิดว่าอันตรายกำลังจะเกิดขึ้นกับเขา คนงานหลายคนตะโกนให้เขาถอยออกไป แต่ดวงตาของเขายังคงจับจ้องไปที่หนังสือพิมพ์อย่างไม่ลดละ แต่มันก็สายเกินไปที่เขาจะหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุในครั้งนั้น จนทำให้หูซ้ายของเขาเกือบจะขาด

เควินยังคงลืมอลิสันไม่ได้ เพราะเธอเป็นรักแรกที่สวยงามของเขาและเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาแต่งงานด้วย

บ้านเกิดของเขาเป็นอาคารสองชั้นที่อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ ดังนั้น ผู้พัฒนาจึงเสนอเงินจ่ายค่าชดเชยก่อนที่พวกเขาจะทำการรื้อถอน

ดังนั้น เจ้าของบ้านจะต้องเซ็นเอกสารเพื่อรับค่าชดเชย

ในตอนที่พวกเขาแต่งงานกันเมื่อ 25 ปีที่แล้ว ชื่อของอลิสันก็ได้ถูกเพิ่มเข้าไปในสิทธิ์ของบ้านหลังนั้น แต่อลิสันไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เมื่อพวกเขาหย่าร้าง และพวกเขาก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องส่วนแบ่งเกี่ยวกับบ้านหลังนั้นเลย

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาจะต้องเซ็นเอกสารที่ได้รับจากนักพัฒนา เควินก็คงจะไม่มีโอกาสได้พบกับอลิสันง่าย ๆ

อลิสันเหลือบมองดูเควินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม จากนั้นเธอก็หันหน้ากลับอย่างรวดเร็ว ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาทั้งสองคนได้พบกันก็มากกว่าหนึ่งปีแล้ว

“ฉันแทบจะจำบ้านเกิดของคุณไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ”

อลิสันเปิดริมฝีปากสีแดงของเธอและพูดต่อว่า “ค่าชดเชยที่จะได้รับต่อตารางเมตรสำหรับการหรือถอนในเมืองเล็ก ๆเช่นนั้น จะได้สักเท่าไหร่กันเชียว? สถานที่แห่งนั้นไม่เจริญด้วยซ้ำ แล้วนักพัฒนาจะจ่ายเงินชดเชยให้คุณได้ถึงสองหรือสามพันต่อตารางเมตรรึเปล่าล่ะ? แล้วฉันจะได้รับเงินจำนวนหลักพันหลังจากที่ฉันเซ็นเอกสารแล้วรึเปล่าล่ะ? หรือว่าฉันจะตีราคาสูงเกินไป?”

เควินได้คำนวณเอาไว้แล้วว่าอลิสันจะได้รับเงินราว ๆ สองแสน

อลิสันมองดูเขาอย่างเย้ยหยัน แต่เธอกลับรู้สึกเห็นอกเห็นใจในเวลาเดียวกัน เธอจึงพูดออกมาว่า “ฉันไม่ต้องการเงินชดเชยนั่น ฉันจะรีบเซ็นเอกสารสัญญาให้คุณ เพราะค่าชดเชยนั่น มันไม่เพียงพอที่จะซื้อกระเป๋าหนังรุ่นลิมิเต็ดอีดีชั่นได้ด้วยซ้ำ เก็บเงินนั่นไว้ให้ภรรยาของคุณเถอะ”

เควินครุ่นคิดและนำสัญญาที่เขาเตรียมมาออกมา จากนั้น เขาก็ยื่นมันให้กับอลิสันพร้อมกับปากกา

อลิสันหยิบปากกาขึ้นมาและเซ็นชื่อในเอกสารอย่างรวดเร็ว เธอต้องการทำให้เรื่องจบโดยเร็วที่สุด เพราะเธอไม่ต้องการที่จะติดต่อกับชายคนนี้อีก

“เรียบร้อย” จากนั้น อลิสันก็วางปากกาลงบนสัญญาและผลักคืนให้เขา เธอหยิบกระเป๋าและเตรียมตัวที่จะออกไป

ในขณะที่เธอกำลังจะเดินออกไป เควินก็ยืนขึ้นและหยุดเธอเอาไว้ “แอลลี่ ส่วนเรื่องบี…ผมไม่ได้ติดต่อเธอมาสักพักหนึ่งแล้ว อย่างที่คุณบอกผมตอนที่เราเจอกันครั้งสุดท้ายว่า คุณอยากให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้น”

เมื่ออลิสันได้ยินเช่นนั้น เธอจึงถามกลับว่า “กลับมาแล้วเหรอ?”

เควินพยักหน้าตอบ

“ถ้าอย่างนั้น ก็ทำตามที่ฉันบอก มันไม่สำคัญว่าเธอจะมีแฟนแล้วรึเปล่า แต่ฉันจะแนะนำใครบางคนให้เธอรู้จัก และคุณก็ไม่ต้องกังวล เพราะลูกเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของฉัน ฉันจะไม่ทำร้ายลูกหรอก” หลังจากที่พูดเช่นนั้น อลิสันก็เดินออกจากร้านอาหารไปด้วยท่าทางที่กระอักกระอวน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก