ทันทีที่เบียงก้าพูดคำว่ามีนัดดูตัว เธอก็ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะได้เห็นคิวที่คิ้วขมวดอย่างไม่พอใจของชายผู้นั้นที่ดูน่ากลัวขึ้นเล็กน้อย
“ปล่อยฉันไปเถอะ มันไม่มีประโยชน์อะไรที่คุณจะรั้งฉันเอาไว้!”
ราวกับว่าเธอไม่ได้พูดกับลุค แต่เธอเพียงแค่พูดให้ตัวเองได้ยิน
ลุคเบิกตากว้างในทันที
เบียงก้าถูกกดลงบนขาของชายผู้นั้น เธอเม้มริมฝีปากแน่นในขณะที่เธอแทบจะขาดอากาศหายใจ
หลังจากนั้นไม่นาน มืออันใหญ่โตของชายผู้นั้นที่เอวของเธอก็หลุดออก ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งที่กำลังกุมข้อมือของเธอเอาไว้ก็คลายลง...
เธอถูกปล่อยแล้ว
ในที่สุด เบียงก้าก็เป็นอิสระ ใบหน้าของเธอว่างเปล่า
เธอลุกขึ้นและจัดระเบียบเสื้อผ้าของเธอ จากนั้นเธอก็หยิบกระเป๋าของเธอขึ้นมา
แต่เมื่อเธอเปิดประตูรถ ชายผู้นั้นก็โผงผางเข้ามาด้วยอารมณ์ที่หึงหวง เขาลากเธอกลับมา จากนั้น เขาก็โยนเธอลงบนที่นั่งบนรถอีกครั้ง
“ไปดูตัว แต่ทำไมถึงนุ่งน้อยห่มน้อยแบนนี้ล่ะ? นี่เป็นแผนการของคุณเพื่อการยั่วยวนผู้ชายอย่างนั้นเหรอ?” ลุคพูดจาข่มขู่เธอ
ดวงตาที่สับสนของชายผู้นั้นจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาที่ตื่นตระหนกของเธอ
เบียงก้าได้ยินคำพูดที่ขุ่นเคืองเหล่านั้น
เธอกำลังสวมใส่กางเกงขายาวและเสื้อเชิ้ตแขนยาว และก่อนที่เธอจะออกมา นีน่าก็ได้แนะนำเธอว่า ไม่ควรจะให้ความสำคัญกับการนัดดูตัวมากเกินไป และในตอนนี้เบียงก้าก็ดูราวกับสาวสูงวัยที่อยู่ในชุดอนุรักษ์นิยม
นับตั้งแต่ที่เธอได้รู้ว่าพ่อของเธอเป็นมะเร็งปอด เบียงก้าก็ไม่มีกระจิตกระใจทำอะไรเลย
และถ้าหากว่าชายที่เธอนัดพบสนใจเพียงแค่ภาพลักษณ์ของเธอ บางทีเขาผู้นั้น ก็อาจจะไม่ใช่คู่ที่เหมาะสมของเธอ
อย่างไรก็ตาม แม้แต่ในชุดดังกล่าว ลุคก็ยังมองว่าเธอกำลังใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น
หรืออีกในความหมายหนึ่ง เขากำลังบอกว่าเธอแต่งตัวเหมือนผู้หญิงอย่างว่า
“บางที คุณอาจจะต้องไปพบจิตแพทย์บ้างนะ คุณครอว์ฟอร์ด คุณจะคงไม่ได้เห็นใครที่แต่งตัวอนุรักษ์นิยมได้มากกว่าฉันอีกแล้ว ส่วนไหนของชุดนี้ที่แสดงถึงการยั่วยวนผู้ชายอย่างนั้นเหรอ?” เบียงก้าพูดอย่างเย้ยหยันและมองดูเขาด้วยอารมณ์ที่หดหู่
ท่าทีของลุคเต็มไปด้วยความโกรธ แต่ลึกลงไปภายในใจ เขายอมรับว่าเบียงก้าแต่งตัวได้เรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ได้แสดงเนื้อหนังของร่างกายของเธอออกมา แต่ความรู้สึกของเขานั้นกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาในตัวเธอ…
“ถ้าผู้ชายคนนั้นได้เห็นฉันแต่งตัวแบบนี้ แล้วเขายังหลงใหลในตัวฉันอยู่ ฉันเกรงว่านั่นคงจะไม่ใช่ปัญหาของฉันแล้ว” เบียงก้ายังคงเย้ยหยันกับความคิดของลุคมีที่บอกว่าเธอสวมใส่น้อยชิ้น
“แต่งตัวยังไงก็แล้วแต่เถอะ แต่ยังไงคุณก็ยังเป็นคนที่ใจไม่ซื่อเองอยู่ดี” ลุคตอบเธอหลังจากที่เขาได้ยินคำพูดที่เฉียบขาดของเธอเป็นครั้งแรก
จนทำให้เขาอยากจะลงโทษเธอ เขาจึงก้มหน้าลงและจูบเข้าที่ริมฝีปากของเธออีกครั้ง
“คุณ…” จูบนั้นรวดเร็วจนทำให้เธอตั้งตัวไม่ทัน
ปากของเธอแทบจะบวมไปกับการถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เธอไม่รู้เลยว่าการจูบระหว่างชายและหญิงของเขาจะรุนแรงได้ถึงเพียงนี้ ในช่วงเวลาอันสั้น เธอรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ดุร้ายที่ไม่เหมือนกับผู้ชายทั่วไป
กลิ่นเลือดจาง ๆ แทรกซึมออกมา แต่ลุคกลับรู้สึกว่ามันหวานและอร่อย
ชายคนนั้นใช้ลิ้นของเขาลิ้มรสเนื้ออันอ่อนนุ่มในปากของเธอ
บรรยากาศภายในรถร้อนระอุ เปลวไฟได้ปะทุขึ้นอีกครั้ง
เขาค่อย ๆ ปรับที่นั่งภายในรถที่เบียงก้านั่งลง เธอบิดตัวไปมาและพยายามขัดขืน
“คุณอยากให้ผมทำมากกว่านี้ไหม?… มันยังตื่นเต้นไม่พอสำหรับคุณใช่ไหม?…คุณต้องการให้ผมแสดงความเร่าร้อนออกมาให้มากกว่านี้รึเปล่า?” ลุคหายใจหอบอย่างรุนแรง เขาเกรงว่าการต่อต้านของเธอจะทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้และทำทุกอย่างที่เขาต้องการภายในรถ
เบียงก้าเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่เป็นประกายของเธอเต็มไปด้วยความกังวล เห็นได้ชัดว่าเธอกลัวแค่ไหน
เธอกลัวว่าเธอจะทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้
เวลาของการนัดดูตัวใกล้เข้ามาแล้ว
เธอไม่ต้องการเกินเวลานัดไป สำหรับการนัดดูตัวที่พ่อของเธอแนะนำ
เพื่อให้พ่อของเธอยอมเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ดังนั้น เธอจึงเต็มใจทำทุกอย่าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก