พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 60

สิบนาทีต่อมา…

“ฉัน ฉันทำไม่ได้” เบียงก้ากล่าวด้วยท่าทางที่ตกใจและดวงตาที่เบิกกว้าง

ลุคกดร่างกายของเขาเข้ากับเธอ ริมฝีปากอันเย้ายวนของเขากดลงบนริมฝีปากที่บอบบางและอ่อนโยนของเธอเล็กน้อย ริมฝีปากของเขาแตะกับเธอเบา ๆ ร่างกายของเธอสั่นเทาในขณะที่เขารอการตอบสนองจากเธอ

“ฉัน…ฉัน…” เธอหลับตาแล้วพูดขึ้นว่า “ฉัน ฉันทำไม่ได้...คุณอย่า...”

ลุคมองดูหน้าอกที่สั่นเทาของเธอ จากนั้น เขาก็ลุกขึ้นนั่งในที่นั่งคนขับของเขา

ชายผู้นั้นเลื่อนกระจกรถลงและจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ ราวกับว่าเขาทำมาเป็นพันครั้งแล้ว เขาเหลือบมองออกไปภายนอกและพ่นควันบุหรี่ เขายกนิ้วอันเรียวงามของเขาขึ้นมาและกดเข้าที่ขมับที่เจ็บปวดของเขา

ลุคยินดีรอจนกว่าที่เธอจะพร้อมจูบเขา

หลังจากเติบโตมาได้ยี่สิบเก้าปี เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ที่เขาเคยได้รับ ก็มากกว่าจำนวนโรงแรมที่เธอเคยได้นอนเสียอีกอย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยปล่อยให้เรื่องนี้รบกวนจิตใจของเขาและทำตามใจชอบเหมือนที่ผู้ชายคนอื่น ๆ ที่คงจะได้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการไปแล้ว

เช่นเดียวกับที่เธอเคยพูด ทั้งหมดที่เขาทำคือทำให้ผู้หญิงวิ่งเข้าหาเขาโดยที่เขาไม่จำเป็นต้องกระดิกนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงอวบหรือหุ่นดีก็จะต้องกระโจนเข้าหาโอกาสที่จะได้รับจากเขา

แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาจึงรู้สึกเกลียดผู้หญิงประเภทนั้น

ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง หรือหญิงสาวที่มาจากครอบครัวที่มั่งคั่ง ก็ไม่มีใครเทียบเทียมกับผู้หญิงที่ซ่อนอยู่ภายในหัวใจของเขาได้

ในช่วงชีวิตของลุค เขามีความสุขอย่างยิ่งและเต็มใจที่จะแขวนคอตัวเองเอาไว้บนต้นไม้ของเธอ

เบียงก้าลุกขึ้นนั่งและปรับที่นั่งของเธอ

เธอนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสารด้วยท่าทางกระวนกระวาย

หลังจากที่ลุคสูบบุหรี่ไปครึ่งมวนแล้ว เขาก็หันมามองไปทางด้านข้างของเธอ

สายตาที่ร้อนรุ่มของเขาดูเหมือนจะแผดเผาเธอ เธอสั่นเล็กน้อยในขณะที่กัดริมฝีปากที่อ่อนโยนของตัวเอง เธอไม่แน่ใจว่าเธอจะต้องทำเช่นไร...

'เธอต้องเข้าหาเขาและแค่ต้องจูบเขาเท่านั้น...'

“มา ฉันจะสอนให้” ลุคยื่นมือออกมา

เธอนั่งนิ่งอยู่เป็นเวลานาน เขาจึงไม่พอใจในความไม่เต็มใจของเธอ เขาขมวดคิ้วและพูดว่า “ความอดทนของผมมีขีดจำกัด คุณก็รู้ว่าผมจะห้ามคุณไม่ให้คุณไปนัดดูตัวก็ได้ และคุณก็จะไม่สามารถหยุดผมได้ด้วย”

หรืออาจจะเข้าใจได้ว่า ถ้าเธอทำให้เขารำคาญ เขาจะไม่สนใจว่าพ่อของเธอจะอยู่หรือตาย

เธอโน้มตัวไปข้างหน้าอย่างเชื่อฟัง จากนั้น ลุคก็ล่อลวงให้เธอนั่งลงบนตักของเขาเพื่อที่เขาจะได้จูบเธอง่ายขึ้น

ประตูรถเปิดอยู่ พวกเขาถูกห้อมล้อมไปด้วยป่าภายในรัศมีหนึ่งเมตรที่มีสายลมพัดผ่าน เบียงก้าอยู่บนตักของเขาโดยที่หลังของเธอกำลังพิงอยู่บนพวงมาลัยของรถ

“คุณยังอยากให้ผมค่อย ๆ สอนคุณอยู่รึเปล่า?” ลุคมองดูใบหน้าที่สวยงามและไร้เดียงสาของเธออย่างระมัดระวัง

แก้มของเธอแดงระเรื่อในขณะที่เธอกลืนน้ำลาย ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่ริมฝีปากของเขา

เธอค่อย ๆ กดริมฝีปากของเธอลงกับของเขา

อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังไม่กล้าขยับริมฝีปากของเธอหลังจากที่เธอกดลงไปแล้ว

ร่างกายที่ร้อนรุ่มของเขากำลังจะแผดเผาเธอให้ตาย

ความแตกต่างระหว่างการถูกบังคับให้จูบ กับการที่เธอเป็นคนริเริ่มเอง มันเหมือนดั่งสวรรค์และนรก

ความร้อนจากริมฝีปากบาง ๆ ของชายผู้นั้น ร้อนจนเธอแทบจะทนไม่ไหว เธอกำลังสั่นเทา ดังนั้น ริมฝีปากของเธอจึงกลายเป็นคลื่นในขณะที่เธอสัมผัสที่ริมฝีปากของเขา

“เริ่มเลยสิ ทำเหมือนที่ผมทำ” เขามองมาที่เธอ แล้วก็หลับตาลง เธอแตะที่ริมฝีปากบาง ๆ ของเขาอีกครั้ง เธอยกมือของเธอขึ้นโดยที่เธอไม่รู้ว่าเธอจะวางมันไว้ตรงไหน เธอจึงยกมือขึ้นโอบเข้าที่รอบคอของเขา

เบียงก้าก้มหน้าลงในขณะที่เธอจับที่เสื้อของเขา เธอเอียงศีรษะเล็กน้อย และบรรจงจูบลงที่ริมฝีปากที่ร้อนรุ่มของเขาลิ้นของเธอเกร็งด้วยความตื่นตระหนก

ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็ยืดปลายลิ้นและสัมผัสกับลิ้นของเขา

เธอมองดูริมฝีปากที่โค้งงอเล็กน้อยของชายคนนั้นและแนวริมฝีปากที่สวยงามของเขา เมื่อเธอจ้องมองลงไป เธอก็เห็นคอหอยที่เย้ายวนของเขา ร่างกายที่โลภมากของเขาถูกซ่อนเอาไว้ภายใต้เสื้อผ้าของเขา...

เธอตระหนักได้ว่าเธอยังทำได้ไม่ดี เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะจูบผู้ชายอย่างไร

เบียงก้ารู้สึกเขินอายกับการที่เธอจะต้องนั่งอยู่บนตักของเขา เธอกลัวว่าเธอจะทำให้สิ่งนั้นของเขาเจ็บถ้าหากว่าเธอขยับไปมามากเกินไป

“คุณบริสุทธิ์เกินไป” ลุคเห็นใบหน้าที่วิตกกังวลของเธอ เขายังไม่สามารถคิดหาวิธีที่จะทำให้เธอจูบเขาอย่างเป็นธรรมชาติได้ ดังนั้น เขาจึงยอมแพ้

เบียงก้ารู้สึกได้ถึงมือคู่ใหญ่ที่กำลังลุกเป็นไฟได้ถูเข้าที่หลังของเธอ ชายผู้นั้นยังคงจูบปากเล็ก ๆ ของเธอซึ่งไม่ขยับเขยื้อนเลย...

ความกังวลของเธอถูกเขากลืนกินในขณะที่เขาจูบเธอลึกลงเรื่อย ๆ

มืออันใหญ่โตทั้งสองข้างของชายผู้นั้นกดลงที่เอวของเธอ ในขณะที่มือของเธอกำลังโอบที่รอบคอของเขาอยู่ ร่างกายของเธอสั่นสะท้าน ริมฝีปากและลิ้นของเธอก็ร้อนรุ่มขึ้น

ในขณะที่เขากัดริมฝีปากของเธออย่างแรง เธอจึงกระซิบเบา ๆ ว่า "อย่า...อย่ากัด..."

เธอกังวลว่าเธออาจจะได้รับบาดแผลที่ริมฝีปากหลังจากการจูบกับลุคในครั้งนี้

“สัญญากับผมนะว่าคุณจะไม่มองผู้ชายที่คุณนัดดูตัวมากเกินไป” มือใหญ่ของลุคกดลงที่เอวของเธอและค่อย ๆ เลื่อนไปที่ข้อมือ เขาจับที่มือเล็ก ๆ เอาไว้

เขาทำให้เบียงก้าเสียสติไปเล็กน้อย

'แล้วนี่อะไร? ฉันควรจะต้องยอมจำนนต่อการคุกคามของเขาอย่างนั้นเหรอ?'

...

เมื่อมาถึงจุดนัดดูตัว

เบียงก้าเดินไปเข้าห้องน้ำ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในรถกับลุคทำให้เธอสับสน

เธอรู้ว่ามันไม่สำคัญว่าชายผู้นั้นจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรหรือว่าเขาจะดีแค่ไหน เธอรู้เพียงแค่ว่า เธอไม่คู่ควรกับเขา เพราะผู้หญิงแบบไหนกันที่จะอยู่กับผู้ชายคนอื่นก่อนมานัดดูตัว?

หลังจากที่เธอแต่งหน้าและจัดทรงผมใหม่อีกครั้ง เธอก็ออกจากห้องน้ำไป

ลุคขับรถเร็วแต่ด้วยทักษะที่ดี เขาไม่ได้ฝ่ากฎจราจรใด ๆ ตลอดการขับรถมาที่นี่และมาถึงที่นัดหมายได้ตรงเวลา

เบียงก้านั่งอยู่ในร้านกาแฟอย่างประหม่า

“คุณผู้หญิง จะรับเครื่องดื่มก่อนไหมคะ?” พนักงานเสิร์ฟเอ่ยถามเธอ

“ฉันรออีกคนหนึ่งอยู่ค่ะ เดี๋ยวค่อยสั่งพร้อมกันก็ได้” เธอตอบอย่างสุภาพ

พนักงานเสิร์ฟยิ้มและพยักหน้า

สองนาทีต่อมา รถสปอร์ตมาเซราติสีขาวก็ขับเข้ามาที่ทางเข้าของร้านกาแฟ ผู้ชายที่ลงมาจากรถสวมชุดลำลองและหมวกเบสบอลคล้ายกับสไตล์ของดาราฮอลลีวูด

"สวัสดีครับ!" ชายคนนั้นเดินเข้ามาและทักทายเบียงก้า

"...สวัสดีค่ะ" เบียงก้าตกใจในขณะที่เธอยืนขึ้นทักทายเขา

จากนั้น ชายคนนั้นก็นั่งลง

เบียงก้ายังคงงุนงง เธอเอ่ยถามเขาว่า "คุณใช่...ลีออน ลาครัวซ์รึเปล่าคะ?"

"ครับผม" ชายต่างชาติพูดด้วยสำเนียงจีนที่ไม่คล่องแคล่ว เขาพยักหน้าและเรียกพนักงานเสิร์ฟมาเพื่อสั่งกาแฟ เบียงก้ายังคงงุนงง ชายคนนั้นถามเธอว่า "คุณเป็นดื่มอะไรครับ?"

“อ่อไม่ใช่สิ...หมายถึงคุณอยากดื่มอะไรครับ?”

ชายผู้นั้นพูดภาษาจีนได้ผิดแปลก

เบียงก้าผงะเล็กน้อยและตอบว่า "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจว่าคุณต้องการจะสื่ออะไร ฉันดื่มคาปูชิโน่ค่ะ"

หลังจากที่พวกเขาสั่งเครื่องดื่มเสร็จ ลีออนก็แนะนำตัวเองอย่างกระตือรือร้น

เบียงก้ารู้สึกสับสน ถึงแม้ว่าเธอจะเคยเรียนที่ต่างประเทศมาหลายปี แต่เธอก็ไม่เคยคิดที่จะแต่งงานกับชายชาวต่างชาติเลย

ผู้ชายดูเป็นสุภาพบุรุษและมีความสุภาพมาก เบียงก้ามองดูเวลาและคิดว่า เธอควรจะนั่งอย่างน้อยอีกสิบนาทีก่อนที่เธอจะหาข้ออ้างออกไปให้ไว

'พ่อไปรู้จักกับคนประเภทนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพ่อจะรู้จักกับชายต่างชาติและแนะนำเขาให้รู้จักกับลูกสาวของเขาแบบนี้'

หลังจากที่เบียงก้าเหลือบมองดูรถมาเซราติภายนอกร้าน เธอก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจว่าพ่อของเธอจะรู้จักใครที่มาจากครอบครัวเช่นนี้ได้อย่างไร

เบียงก้าและชายผู้นั้นนั่งอยู่ที่ริมหน้าต่าง หน้าต่างของร้านกาแฟเป็นหน้าต่างบานใหญ่ที่สูงจากพื้นจรดเพดาน โปร่งแสงจนทำให้สามารถมองดูวิวกลางคืนได้โดยไม่มีสิ่งกีดขวาง

เป็นเวลา 10 นาทีที่แล้ว รถแลนด์โรเวอร์สีดำจอดอยู่ภายนอกที่สามารถมองเห็นได้จากหน้าต่าง

ในขณะนั้นเอง ประตูของแลนด์โรเวอร์ก็ถูกเปิดออก ชายผู้ที่มีความเป็นผู้ใหญ่ก็เดินออกมาจากรถคันนั้น เขาดูสุขุมนุ่มลึกในขณะที่เขาถือแก้วกาแฟที่เขาสั่งจากร้านกาแฟก่อนหน้านี้

เบียงก้ามองตามลุคอย่างเงียบ ๆ เพราะไม่รู้ว่าเขากำลังจะไปไหน

"เบียงก้า คุณกำลังมองหาใครเหรอครับ?" ลีออนเลิกคิ้วถาม

ในขณะนั้น เบียงก้าก็ได้เห็นลุคเดินเข้ามาจากทางเข้าร้านกาแฟ ร่างสูงและขาที่ยาวของเขากำลังเดินตรงเข้ามาหาเธอพนักงานเสิร์ฟพาเขาไปที่โต๊ะ เขานั่งลงที่โต๊ะด้านซ้ายของเบียงก้าและลีออน

ลุคนั่งอย่างผ่อนคลายอยู่ข้าง ๆ พวกเขา จนทำให้บรรยากาศดูหนาวยิ่งกว่าแอร์ภายในร้านกาแฟเสียอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก