พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 61

"มานัดบอดนี้ ฉันก็คงจะไม่ได้มองหาอะไรเป็นพิเศษหรอกค่ะ"

เธอแค่อยากจะออกจากสถานนี้ให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็เท่านั้น

เธอรู้สึกเครียดมากขึ้นเมื่อลุคนั่งอยู่อีกฝั่งเหมือนเทวดาผู้พิทักษ์

“คุณไม่มีผู้ชายในแบบนี้ที่คุณชอบเลยใช่ไหมครับ? ถ้างั้น ผมขอเล่าประวัติของผมให้คุณฟังก็แล้วกัน” ในขณะนั้น โทรศัพท์มือถือของลีออนข้างถ้วยกาแฟก็ดังขึ้น

“ขอโทษนะครับ แต่ผมต้องรับสายนี้”

หลังจากที่ลีออนพูดเช่นนั้น เขาก็ลุกขึ้นยืน

เบียงก้าถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ถึงกระนั้น เธอก็ไม่กล้าพอที่จะขยับเขยื้อนใด ๆ เพราะกลัวว่าจะเผลอกันไปเจอสบตากับชายหนุ่มโต๊ะข้าง ๆ

ลุคเองก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนอะไรมากมายเช่นกัน เขาเพียงแค่อ่านหนังสือพิมพ์และจิบกาแฟรสขมเป็นครั้งคราว

หมายเลขนั้นแสดงชื่อ "ป้าอลิสัน"

ลีออนรับสาย

“ลีโอ นัดบอดเป็นยังไงบ้าง หลานป้า?” อลิสันถามอย่างกังวลใจและต้องการทราบผลการนัดดูตัวครั้งนี้โดยเร็วที่สุด

ลีออนเหลือบมองเบียงก้าซึ่งนั่งอยู่คนเดียวห่างออกไป และพูดอย่างเหลือทน “ป้าอลิสัน ผู้หญิงคนนี้สวยเหลือเกินครับ แต่ผมไม่อยากทำร้ายจิตใจเธอเลย”

เมื่ออลิสันได้ยินว่าเขาพูดเช่นนั้น เธอเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมา “ทำร้ายจิตใจเธอ หลานหมายความว่าอะไร!”

“ก็ผมเป็นเกย์น่ะสิครับ จะให้ผมมีความชีวิตรักแบบปกติหรือแม้แต่เรื่องความสัมพันธ์ฉันท์ชายหญิง มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกครับ ขืนเราแต่งงานกันไป พ่อแม่ก็จะบังคับให้ผมมีลูกกับเธอ และผมไม่ทำเรื่องอย่างว่ากับเธอแน่…เธอสวย สุขุมและสุภาพก็จริง แต่ผมทำใจทำเรื่องอย่างว่าไม่ได้จริง ๆ ครับ…” ลีออนบอกอลิสันเป็นภาษาอังกฤษ

“เป็นเกย์รึเปล่าไม่สำคัญหรอก! ถ้าอยากอยู่กับแฟนหนุ่มของแก ก็ไปทำให้พ่อกับแม่ของแกอารมณ์เย็นก่อนนู้น พ่อแม่ของเธออยากได้หลาน! หลังจากที่แต่งงานกันไป เธอก็สามารถพาผู้หญิงคนนั้นไปต่างประเทศและให้เธอทำเด็กหลอดแก้วก็ได้ แค่นี้ แกจะไม่ต้องแตะต้องตัวเธอ ที่ฉันทำทุกอย่างไปเนี้ยเพราะเป็นห่วงแกทั้งนั้น แกเคยใช้สมองคิดเองบ้างไหม?”

อลิสันขู่เสียงดัง “ลีโอ มันไม่ใช่ว่าผู้หญิงคนนั้นเธออยากจะแต่งงานกันแกเพราะความเต็มใจเสียหน่อยนะ แกน่ะโชคดีแค่ไหนแล้วและรู้ไว้ด้วยว่ามีเจ้าหน้าโง่ที่ไหนไม่รู้กำลังรอเวลามาขโมยผู้หญิงคนนั้นไปจากแกนะ แกไม่คิดบ้างรึไงว่าแกควรคว้าโอกาสนี้ไว้? แล้วก็อย่าลืมเรื่องสำคัญที่สุดด้วยนะ แฟนหนุ่มของแกทำธุรกิจผิดกฎหมาย คนที่จะเป็นคนชี้เป็นชี้ตายว่ามันจะเข้าไปนอนในลูกกรงรึเปล่า ก็คือฉันคนนี้!”

ลีออนคุยโทรศัพท์นานเกือบสิบนาที

เมื่อเขากลับมาเผชิญกับชะตากรรมของตน เบียงก้ากำลังจะหาข้ออ้างเพื่อปลีกตัวออกไป

แต่เมื่อลีออนนั่งลง เขาก็พูดว่า "คุณบี ผมดีใจที่ได้พบคุณครับ การตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอนี่มันรู้สึกมหัศจรรย์มากเลยครับ ผมสงสัยว่าคุณตกหลุมรักตั้งแต่แรกที่เห็นผมด้วยรึเปล่า?"

เบียงก้า “…”

'รักแรกพบหรอ? ฟังแล้วขนลุก'

เบียงก้าไม่คิดจริง ๆ ว่าจะมีใครที่บอกกับเธอว่าเข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็นเช่นนี้

“คุณเห็นความสูงและรูปร่างหน้าตาของผมแล้ว คุณรู้สถานะทางการเงินของครอบครัวผม หลังจากที่เราแต่งงาน เราจะไปอยู่ต่างประเทศกัน ผมสัญญาว่าคุณจะไม่มีอะไรต้องกังวลไปตลอดชีวิตเลยครับ” ลีออนพยายามพูดถึงส่วนที่ดีของเขา

“พรวด!”

เบียงก้าแทบสำลักกาแฟ!

ลุคจ้องเขม็งไปยังชายต่างชาติ

“ฉันขอโทษนะคะ คุณลาครัวซ์” เบียงก้าเช็ดมุมปากด้วยความตื่นตระหนก เธอเงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “ฉันไม่คิดว่าเราเข้ากันได้ดีนะคะ เดี๋ยวฉันจ่ายค่ากาแฟให้เองนะคะ แล้วก็ลาก่อนค่ะ”

หลังจากที่เธอกล่าวคำอำลา เธอหยิบกระเป๋าถือขึ้นและพยักหน้าให้ลีออนอย่างสุภาพ

เธอจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

เธอออกจากร้านกาแฟ จากนั้นเบียงก้าก็โบกแท็กซี่

เบียงก้ายื่นโทรศัพท์ให้คนขับแท็กซี่ดู หน้าจอโทรศัพท์แสดงให้เห็นสถานที่ที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเสียงว่าเป็นย่านที่มั่งคั่งที่สุดในเมือง

คนขับแท็กซี่เริ่มกดมิเตอร์และรถเริ่มเคลื่อนตัวไปตามเส้นทางของกระแสการจราจร

เบียงก้ามองย้อนกลับไปที่รถแลนด์โรเวอร์สีดำนำเข้าซึ่งจอดอยู่นอกร้าน รถคันนั้นไม่ได้ตามเธอมา และในที่สุดเธอก็รู้สึกโล่งใจ

ลุคไม่ได้ตามเธอมา 'ฉันคิดว่าเขาไม่น่าจะใช่รุ่นพี่ครอว์ฟอร์ดที่ฉันเคยรู้จัก...'

เธอไม่เคยรู้เลยว่ารุ่นพี่ผู้ร่าเริงที่เธอรู้จักจะกลายมาเป็นยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจที่เลือดเย็นและโหดเหี้ยมอย่างเขาเฉกเช่นทุกวันนี้ได้

ระหว่างทางไปที่นั่น เบียงก้าได้รับโทรศัพท์จากคลอเดีย

คลอเดียขอให้เธอรีบมา

เมื่อเวลาสามทุ่มครึ่ง ในที่สุดแท็กซี่ก็มาถึงในย่านที่มั่งคั่ง

คลอเดียออกมารับเบียงก้า

เบียงก้ามองไปที่ประตูคฤหาสน์ที่สวยงาม เธอถึงกลับอ้าปากค้าง “ที่นี่มัน...”

“มันดูคุ้น ๆ ใช่ไหม? ดาราดังเคยจัดงานวันเกิดที่นี่มาก่อนนี่ไง! ในโลกของอินเทอร์เน็ตทุกคนรู้เรื่องนี้และเห็นได้ชัดว่าไอ้เรื่องจับผู้ชายหล่อรวยมาไว้กับตัวก็เป็นแค่ข่าวลือเรียกร้องความสนใจนั้นแหละ!” คลอเดียถอนหายใจเมื่อเธอพาเบียงก้าเข้ามา “รุ่นพี่ครอว์ฟอร์ดไม่เหมือนพวกเราหรอกนะ ฉันหมายถึงคนธรรมดาน่ะ เนื่องจากครั้งนี้เขาออกตัวว่าจะเป็นคนจัดงานให้ เราจึงได้รับเกียรติเข้ามาเยี่ยมชมสถานที่ที่มีให้เห็นแค่ในรายการทีวีธุรกิจแบบนี้ได้”

'ถ้างั้น สถานที่แห่งนี้เป็นของรุ่นพี่ครอว์ฟอร์ดงั้นเหรอ?'

ในบรรดาคนรวยในเมืองเอทั้งหมด เบียงก้ารู้ว่ามีเพียงครอบครัวครอว์ฟอร์ดที่เป็นเจ้าของบริษัทที คอร์ปอเรชั่น

“เธอเคยเห็นรุ่นพี่ครอว์ฟอร์ดรึยัง?” เบียงก้าเอ่ยถามอย่างประหม่า

“ฉันยังไม่เห็นเขาด้วยตาคู่นี้เลย ก็แน่แหละเธอ เขามีเรื่องให้ทำต้องเยอะต้องแยะ เขาก็เขามาสายน่ะ” คลอเดียพูดต่อและส่งสัญญาณด้วยริมฝีปากของเธอ “ชิ! ดูพวกหล่อนตรงนั้นสิ พอได้ยินว่ารุ่นพี่ครอว์ฟอร์ดมาร่วมงานครั้งนี้ ก็พากันแต่งตัวจัดเต็มมางานกันเลย”

คฤหาสน์นั้นใหญ่มากและรายล้อมไปด้วยหญิงสาวที่งดงามและชายหนุ่มที่หล่อเหลา และแน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่สวยเป็นพิเศษ ยังมีคนหน้าตาธรรมดาอย่างเบียงก้ากับคลอเดีย และบางคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะขณะดื่มเครื่องดื่มด้วยท่าทีเขินอายอยู่ด้วย

“นี่คือเบียงก้า พวกเธอยังจำได้ไหม?” คลอเดียพาเบียงก้าไปหาเพื่อนร่วมชั้นของพวกเธอ

ชายใส่แว่นยืนขึ้นและพยักหน้า “แน่นอนสิ ผมจำเธอได้ เธอเป็นหนึ่งในสามเด็กเรียนประจำห้อง ที่นั่งแถวสองของห้องเรียนไง!”

คนอื่น ๆ ที่กำลังนั่งอยู่ก็ยืนขึ้นเช่นกัน เพื่อนร่วมชั้นชายจับมือเบียงก้าขณะที่เพื่อนร่วมชั้นหญิงส่งยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร

หลังการแนะนำตัวของคลอเดีย เบียงก้าก็คุ้นเคยกับเพื่อนร่วมชั้นเก่าของเธออย่างรวดเร็ว ทุกคนพูดถึงงานของตนและไม่มีใครหยิบยกเรื่องที่โรงเรียนมาพูดเลย

ทุกคนล้วนเข้าใจดีว่าอดีตและสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงเรียนไม่ใช่ความทรงจำที่ดีสำหรับเบียงก้า

หลังจากพูดคุยกันครู่หนึ่ง ทุกคนก็แลกเปลี่ยนวีแชทของกันและกัน

มีบางคนถามว่า "นี่คลาวส์ คุณครูอยู่ที่ไหนล่ะ?"

“อ๋อ แม่อยู่ข้างใน รุ่นพี่ครอว์ฟอร์ดพาหมอเฉพาะทางจากต่างประเทศกลับมาด้วย จำได้ไหมว่าขาแม่ฉันถูกตัดไปน่ะ? ตอนนี้บริเวณนั้นยังไม่หายแถมยังอักเสบอยู่ตลอดเวลาอีก ทุกโรงพยาบาลที่พาแม่ไปเหมือนจะหาสาเหตุไม่เจอ” คลอเดียพูดออกมาสิ้นหวัง

ทุกคนที่อยู่เคียงข้างพูดคุยกันอย่างเงียบ ๆ แต่อีกด้านหนึ่งกลับต่างออกไป ผู้หญิงที่แต่งตัวยั่วยวนหลายคนยืนอยู่ข้างสระน้ำ หัวเราะเฮฮาและพูดจาติดตลก ปฏิเสธไม่ได้เลยที่จะคิดว่าพวกเขากำลังเปรียบเทียบกระเป๋าถือแบรนด์เนมและสีลิปสติกสีแจ่มซึ่งหายากมากกันอยู่!

ทันใดนั้นเอง เสียงรถจากประตูคฤหาสน์ดังขึ้น

ทุกอย่างเงียบลงทันที

ไม่เว้นแม้แต่หญิงสาวร่ำรวย ที่เสียงดังเพราะกำลังยุ่งอยู่กับการชิงดีชิงเด่นก็เงียบปาก

ทุกคนราวกับถูกสะกดเมื่อรถแลนด์โรเวอร์สีดำจากต่างประเทศขับเข้ามา เบียงก้าดูแตกต่างจากคนอื่น ๆ ทุกคนต่างแสดงสีหน้าที่แตกต่างกันออกไป บางคนดูตื่นเต้น บางคนดูเจียมเนื้อเจียมตัว และบางคนดูเขินอาย

แต่กลับไม่มีอารมณ์ใด ๆ เลยบนใบหน้าของเบียงก้า

รถแลนด์โรเวอร์คันนั้นหยุดเคลื่อนตัวพร้อมกับหมายเลขทะเบียนรถที่สะดุดตา เมื่อประตูเปิดออก ชายคนหนึ่งที่ดูเรืองอำนาจเทียบเท่ากับคฤหาสน์ก็ลงจากรถ

รัศมีอันทรงพลังที่แผ่ออกมาจากร่างของชายคนนั้นให้ความรู้สึกราวกับว่าลักษณะเด่นสามประการของชายชาตรีที่บรรดาหญิงสาวต่างหมายปองถูกสลักไว้บนร่างกายเขาอย่างชัดเจน นั่นคือ ความเร้าใจ การมีอำนาจเบ็ดเสร็จ และความรับผิดชอบ

“หล่อจัง...” เพื่อนร่วมชั้นสาวอดไม่ได้ที่จะพูด เมื่อรู้สึกตัวว่าเผลอพูดคำนั้นออกไปเธอเอามือปิดปากและเบาเสียงลงทันที

ถึงกระนั้น ทุกคนยังคงได้ยินอยู่ดี

ชายคนนั้นเดินไปพร้อมกับกางเกงขายาวสีดำเรียบง่ายและเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมสองเม็ดตรงปกเสื้อ แขนเสื้อที่บอบบางม้วนขึ้นอย่างเหมาะสมราวกับร้องว่า 'อย่ากล้าแม้แต่จะมองที่ฉันนะ'

เบียงก้าตกตะลึงเมื่อมองดูชายผู้นั้นเดินเข้ามาใกล้

“เบียงก้า เธอเองก็มาด้วยนิ” ลุคยิ้มให้เธอทันที ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าอันเย็นชาและใบหน้าที่น่ากลัว มันก็ทรงอำนาจเพียงพอแล้วที่จะครอบงำใครสักคน

เสียงของชายผู้นั้นช่างน่าดึงดูดและเคร่งขรึม เมื่อเขาพูดเช่นนั้น มันฟังดูเหมือนว่าเขามาที่นี่ในคืนนี้ก็เพราะเธอเพียงคนเดียว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก