พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 62

เบียงก้าเงยหน้าขึ้นและมองลุคตาไม่กะพริบ

หลังจากช่วงเวลาอันยาวนานผ่านไป ตอนนี้มันรู้สึกราวกับว่านาฬิกาได้หยุดหมุน เธอแทบจะกลับมาเป็นปกติอย่างที่เคยไม่ได้เลย และอารมณ์ที่เกินบรรยายยังคงปลุกเร้าเธออย่างถึงที่สุด

ภายใต้ขนตายาวและสั่นเทาของเธอ ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยน้ำตา

ลุค ครอว์ฟอร์ดคือรุ่นพี่ครอว์ฟอร์ดคนนั้น

ความสงสัยในใจของเธอเมื่อในอดีตแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากภาพที่ประจักษ์ตรงหน้าเธอ

ผู้ชายคนนี้เปลี่ยนไปมากตลอดหลายปีที่ผ่านมา และเธอเองก็เช่นกัน…

โชคดีที่หลายปีผ่านไป จากสนามของโรงเรียนจนไปสู่สังคมการทำงาน ชุดนักเรียนที่กว้างและหละหลวมไปจนถึงชุดทำงานมืออาชีพ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอยังคงได้พบกับชายผู้ครอบครองหัวใจดวงน้อย ๆ ของเธออยู่เสมอ

น่าเศร้าใจเหลือเกิน ตอนที่เธอออกจากโรงเรียนมัธยมไป ชีวิตเธอไม่ได้ราบรื่นอย่างที่ควรและเธอก็ชักนำตนเองเข้าไปสู่คำว่ามลทินอีกด้วย

เมื่อทั้งสองเผชิญหน้ากัน เบียงก้าก็จำจุมพิตอันร้อนแรงที่พวกเขาทำร่วมกันในรถเมื่อไม่นานได้ ทันใดนั้น อารมณ์รุนแรงและเร่าร้อนผุดขึ้นในใจเธอ แต่กลับไม่กล้าแสดงออกมา

เธอไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้

ดูเหมือนว่าเวลาจะหมุนย้อนกลับอยู่ในสมัยที่ทั้งสองยังเรียนมัธยมกันอยู่

“นี่ รุ่นพี่ครอว์ฟอร์ดจำเบียงก้าได้ยังไงคะเนี้ย!” สาวร่างสูง 1.7 เมตรยืนอยู่ข้างหน้าพวกเขาอย่างสง่างามจ้องมองลุคลงอย่างเย้ายวน

แต่สายตาของชายคนนั้นจับจ้องเบียงก้าเพียงเท่านั้น

แต่แล้ว เพื่อนร่วมชั้นสาวเหลี่ยมจัดหน้าแตกละเอียด เธอเม้มปากและเหลือบมองเบียงก้าที่แต่งตัวเหมือนสาวบ้านนา

ลุคไม่ค่อยพูดอะไร แต่คราวนี้เขามองไปที่เบียงก้าแล้วเอ่ยขึ้น “พี่จำเธอได้สิ พี่จำฤดูร้อนนั้นตอนที่เราเล่นเกมบาสเกตบอลกับโรงเรียนมัธยมอีกแห่งหนึ่งในเขตนั้นได้ นักเรียนหลายคนมาดูการแข่งขันนั้น ช่วงแต้มสุดท้ายของเกม พี่ได้ยินสาว ๆ เชียร์อยู่ข้างหลังเต็มไปหมด พอพี่หันหลังกลับ พี่ก็เห็นว่าเธอเป็นคนที่เชียร์เสียงดังที่สุดเลย"

ใบหน้าของเบียงก้าเปลี่ยนเป็นสีแดงสดใสทันที

‘มันไม่ใช่แบบนั้นนะ’

'มันไม่ใช่แบบนั้นแน่ ๆ'

เธอมักจะถูกเพื่อนร่วมชั้นแกล้งอยู่เสมอและหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเธอจะไปดูเพื่อนร่วมชั้นชายแข่งขันบาสเกตบอล สิ่งที่เป็นไปได้ที่สุดที่เธอทำ คือยืนขอบสนามและไม่เชียร์อยู่ข้างหน้าแน่นอน

คำพูดของลุคทำให้เบียงก้ากลายเป็นจุดสนใจของเพื่อนร่วมชั้นทั้งหมด

“ไม่…ไม่ใช่ฉันแน่ ๆ นะ...” เบียงก้าเหลือบมองเพื่อนร่วมชั้นเก่าของเธออย่างเขินอาย เธอกังวลว่าเธอจะสร้างศัตรูขึ้นมา

...

แพทย์เฉพาะทางที่ได้รับเชิญมาจากต่างประเทศตรวจดูขาของคุณครูคลินตันเป็นที่เรียบร้อย

หลังจากที่แพทย์เฉพาะทางกลับไปจนหมด คุณครูคลินตันสวมหมวกวันเกิดและเข็นรถไปตรงเค้กวันเกิดก้อนยักษ์

คลอเดียอยู่กับแม่ของตนขณะที่เธออธิษฐานพร้อมกับเป่าเทียนและตัดเค้ก

เมื่อเธอส่งต่อเค้กชิ้นนี้ให้ทุกคน นักเรียนทุกคนอวยพรคุณครูคลินตันและแนะนำตัวอีกครั้ง

นี่เป็นครั้งแรกที่เบียงก้าได้พบคุณครูคลินตันตั้งแต่เธอจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมปลาย เธอตื่นเต้นเล็กน้อยเพราะตลอดเวลาที่เติบโตมา เธอไม่เคยมีแม่ เนื่องจากเธอไม่มีรูปของแม่เลย ความห่วงใยที่เธอได้รับจากคุณครูคนนี้จึงเป็นความรักที่ใกล้เคียงคำว่าแม่ที่สุดแล้ว

พูดตามตรง เธอไม่เคยรู้เลยว่าการสัมผัสความรักที่แท้จริงของแม่เป็นเช่นไร

คลอเดียเข็นรถคุณครูคลินตันออกมาและนั่งตรงโต๊ะชั้นหนึ่งของคฤหาสน์

ทุกคนต่างพากันสนุกสนานกันถ้วนหน้า

“บี ครูดีใจนะที่ชีวิตหนูไปได้ดี” คุณคลินตันจับมือเล็ก ๆ ของเบียงก้าและตบเบา ๆ “หลายปีมานี้ หนูได้พยายามตามหาแม่บ้างไหม?”

หลังจากเบียงก้าได้ยินสิ่งที่คุณครูพูด มือของเธอก็สั่นไหว

"เปล่าค่ะ หนูยังไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ" เบียงก้าฝืนยิ้มและมองไปยังคุณครูของตน “แต่หนูคิดว่าแม่คงจะต้องสบายดี และคงไม่อยากให้หนูไปรบกวน”

แต่ความจริงก็คือ เบียงก้าพยายามตามหาเธอตลอด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก