พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 65

ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดยืนถือไม้เท้าอยู่ในสนามหน้าบ้านพลางกวาดสายตามองจากระยะไกล

เมื่อหลานชายของเขากลับมาพร้อมกับใบหน้าที่ดูแปลกพิกล ชายชราก็รู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น ในที่สุดหนุ่มหล่อพราวเสน่ห์แสนบ้าบิ่นก็มีคู่ครองเสียที!

เรนนี่ปีนป่ายขึ้นบนหลังของพ่อเธอ เธอยืนเขย่งปลายเท้าและเอียงคอมองดู เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานว่า "พ่อคะ หนูไม่รู้มาก่อนว่าพ่อใช้วีแชทด้วย"

เรนนี่รู้ว่าคุณปู่ทวด คุณย่า คุณย่าซูซาน และอาหลุยส์มีวีแชททุกคนยกเว้นพ่อ และเธอไม่เคยเห็นเขาใช้วีแชทมาก่อนเลย

ลุคนั่งบนโซฟาพร้อมกับขมวดคิ้วขณะจ้องหน้าจอโทรศัพท์อย่างจดจ่อและกังวล

เขาไม่ได้รับคำตอบจากเบียงก้า

'หรือคำตอบนั่นคือไม่?'

ในขณะนั้นเอง หลุยส์ก็ลงมาชั้นล่าง เมื่อเขาได้ยินว่าลุคมีวีแชทแล้ว เขาเดินเข้าไปหาพี่ชายด้วยความประหลาดใจและเหลือบมองจากด้านข้าง "นี่นายยังไม่ตั้งรูปภาพโปรไฟล์ด้วยซ้ำ"

ลุคปิดหน้าจอที่แสดงการแชทของเขากับเบียงก้าลงและทำหน้าบูดบึ้ง

'ทำไมเธอไม่ตอบล่ะ?'

“คุยกับผู้หญิงงั้นเหรอ?” หลุยส์นั่งอีกฝั่งของโซฟา เขาดูเหมือนเด็กรวยที่ยกเท้าพาดบนโต๊ะขณะที่สายตาจับจ้องไปยังพี่ชายหน้าเย็นชาที่อยู่อีกฟากหนึ่ง “รูปโปรไฟล์ของเธอเป็นตัวการ์ตูนอวาตาร์ยอดนิยมที่สาว ๆ ชอบใช้ ทำไมนายถึงดูไม่ค่อยพอใจนักเวลาที่คุยกับเธอ?”

ชายชราแอบฟังก็พลันขมวดคิ้ว

หลุยส์ใช้การวิเคราะห์จากประสบการณ์ที่ผ่านศึกมานับครั้งมิถ้วนและเอ่ยถาม “นายกำลังจีบเธออยู่รึเปล่า? แต่เธอไม่ชอบนายงั้นเหรอ? ว้าว…ผู้หญิงคนนี้เธออยู่ในระดับไหนกันนะ ถึงดูถูกหนุ่มโสดพราวเสน่ห์อย่างนายได้เนี้ย? อย่าบอกนะว่าเธอเล่นตัว? เธอก็เลยใช้ความรู้สึกที่นายมีให้มาเป็นเครื่องยกสถานะตัวเองเหรอ?”

เขารู้ว่าพี่ชายของเขาเป็นนักพรตและเย็นชาอยู่เสมอ ยิ่งกว่านั้นเขาไม่เคยชอบผู้หญิงที่เข้าใกล้เขาเลย

ตอนนี้เมื่อพี่ชายของเขาตกหลุมรักผู้หญิงบางคนอย่างบ้าคลั่ง หลุยส์ก็กลัวว่าพี่ชายที่มีอำนาจทั้งหมดของเขาจะถูกทำลายด้วยน้ำมือของผู้หญิงคนนั้น

หลุยส์เข้าใจว่าผู้หญิงกระทำต่อผู้ชายที่ร่ำรวยอย่างไร เป้าหมายแรกของพวกเธอคือการแต่งงานเข้ามาในครอบครัวที่มั่งคั่ง หากไม่สามารถบรรลุเป้าหมายแรกได้ พวกเขาก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเป้าหมายที่สองซึ่งก็คือการหาเงินจากพวกเขา

ผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตของเขาก็เป็นแบบเดียวกันหมด

ลุควางโทรศัพท์มือถือเมื่อเห็นว่าไม่ได้รับข้อความใหม่ เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า "แค่ฆ่าเวลา"

“ก็ใช่แหละ แต่เดี๋ยวนี้นายแทบจะหาผู้หญิงมาฆ่าเวลานิ ลุค มองมาที่น้องชายคนนี้นี่ พักนี้ฉันเองก็ยังไม่เคยเจอผู้หญิงอย่างว่าเลย ตอนนี้ฉันแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้วนะ ว่าก็ว่าไม่ว่าผู้หญิงหน้าไหน ๆ ก็แค่อยากจะคบกับผู้ชายแบบผิวเผินกันทั้งนั้นนั่นแหละ” หลุยส์คิดว่าพี่ชายของเขากำลังจะหันหลังกลับ

"นายก็คิดว่าฉันแค่คบเล่น ๆ จริง ๆ สินะ" รูม่านตาของลุคเป็นสีดำเหมือนหมึก

"..."

หลุยส์ชะงักก่อนจุดบุหรี่จนติด!

ดูเหมือนว่าพี่ชายของเขาจะถูกจิ้งจอกสะกดไว้และลืมตัวตนของสมาชิกในครอบครัวของตัวเองไปแล้วสิ้น!

...

"เอาคืนมานะนีน่า…"

ที่บ้านของเบียงก้า โทรศัพท์ของเธอถูกนีน่ายึดไป

นีน่าสังเกตว่าตอนที่ตนแย่งโทรศัพท์มาจากมือเพื่อนสาว เบียงก้ากลับร้องโวยวายเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง เธอก้มลงข้อความในโทรศัพท์และเห็นสิ่งที่ทำให้เธอตกตะลึงตาเบิกโพลง “บี นี่เธอต้องโดนของมาแน่ ๆ เลยเนี้ย?! ผู้ชายคนนี้มันน่าหลงใหลอะไรกันนักกันหนา? ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแค่เจอกันแค่ครั้งเดียว เธอก็หลงเจ้าบ้านี้จนหัวปักหัวปำขนาดนี้! ดูซะสิว่าตัวเองแดงเป็นตูดลิงเลยเนี้ย”

ในที่สุด เบียงก้าก็เห็นข้อความจากลุค

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตราบใดที่ตอบตกลง ผมพร้อมจะเป็นผู้ชายที่อยู่ข้างกายคุณไปตลอดชีวิตนะ”

ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามและหอมหวาน

เมื่อผู้ชายให้คำมั่นสัญญาแบบนั้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียว มันไม่ควรที่จะปักใจเชื่อตั้งแต่แวบเดียวที่เห็นเพราะนั่นอาจเป็นเพียงการหยอดคำหวานใส่ก็เป็นได้

แต่ถึงอย่างนั้น เบียงก้าก็เชื่อว่าคำสัญญาของลุคนั้นมาจากหัวใจของเขาจริง ๆ

เบียงก้าเงยหน้าขึ้นและจ้องมองนีน่า

เธอไม่อยากซ่อนความสัมพันธ์ที่กำลังพัฒนาไปนี้จากเพื่อนสนิทของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนที่อาศัยอยู่ร่วมห้องกับเธอตอนนี้ด้วยแล้ว

ไม่ช้าก็เร็ว เดี๋ยวเธอก็จะต้องรู้อยู่ดี

เบียงก้ามองนีน่า และพูดอย่างประหม่า "ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนที่ฉันไปนัดบอดด้วยหรอก แถมนัดบอดยังพังเป็นท่าเลยด้วย"

นีน่าตกตะลึง...

'ถ้าชายคนนั้นไม่ใช่คนที่ไปนัดบอด แล้วเขาเป็นใคร?'

“พี่ชายฉันทำผิดก็จริง แต่เธอเพิ่งเลิกกับเขาไม่นานมานี้เองนะ...” นีน่าเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “มีคนตามจีบเธอในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหลังจากที่เธอเลิกกับพี่ฉันใช่ไหม? แถม... เธอก็ชอบเขาเหมือนกันไหม?"

เบียงก้าพยักหน้า “อื้ม”

นีน่ากล่าวว่า “เธอแน่ใจแล้วเหรอว่าไม่อยากรอดูท่าทีเข้าไปก่อนน่ะ? เขาอาจเป็นพวกไม่เอาไหนก็ได้นะเพื่อน”

เบียงก้าคิดว่ามันฟังดูเลอะเทอะไปกันใหญ่ เธอก็เลยบอกทุกอย่างกับนีน่า

นีน่าอึ้งและพูดอะไรไม่ออก!

หลังจากที่เบียงก้าเริ่มต้นปากเล่าทุกอย่าง นีน่าใช้เวลาครู่หนึ่งกว่าจะทำความเข้าใจเรื่องราวได้ว่านี่เป็นข่าวใหญ่ไซต์ยักษ์!

นีน่าส่งยิ้มให้อย่างมึนงงและตกตะลึงอย่างยิ่ง "ฉันไม่อยากเชื่อเลย! ครอ...คุณครอว์ฟอร์ด? เจ้านายของเราคนเนี้ยน่ะเหรอ?"

เบียงก้าขดตัวอยู่บนโซฟาและนิ่งเงียบ

“บี! บอกฉันอีกทีสิ! นั่นเจ้านายเรานะเธอ! ท่านประธานบริษัทที คอร์ปอเรชั่น หนูตกถังข้าวสารแล้วเว้ย! ไม่ ไม่ ไม่สิ นั่นฟังดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นี่ฉันกำลังพูดถึงอะไรกันอยู่เนี้ย? ถังข้าวสารงั้นเหรอ? กิ้งก่าได้... เอ่อ เอ่อ เอ่อ เอ่อ ฉันจะใช้สำนวนไหนมาแทนดีเนี้ย? โว้ย! นี่มันเรื่องอะไรเนี้ย!?" นีน่ากำลังจะสติแตกไปพร้อมกับสายตาที่มองเบียงก้าอย่างชื่นชม

“รีบตอบเขาเดี๋ยวนี้ เจ้านายเราอาจรอข้อความจากเธออยู่ก็ได้นะ” นีน่าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากโซฟาแล้วยัดใส่มือให้กับเบียงก้า "ฉันผิดเองแหละเพื่อนรัก ฉันไม่น่าขโมยโทรศัพท์เธอมาแบบนี้เลย"

เมื่อเบียงก้าตอบข้อความ เธออดไม่ได้ที่นึกถึงสิ่งที่ฌองพูดกับเธอตอนที่ขอแต่งงาน

“เบียงก้า เธอต้องเข้าใจแน่ ๆ ไม่มีใครในโลกรักเธอได้นานกว่าพี่ และเชื่อมั่นมากกว่าพี่อีกแล้ว…” นั่นคือคำพูดที่ฌองพูดกับเธอในวันที่เขาขอแต่งงาน

ตอนนี้ เบียงก้ารู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นผิด

มีชายอีกคนหนึ่งในโลกนี้ที่ตกหลุมรักเธอได้นานกว่าที่เขาเคย นับตั้งแต่ที่เธอยังคงไร้เดียงสาและไม่รู้ว่าความรักระหว่างชายและหญิงเป็นเช่นไร

...

ณ คฤหาสน์ครอว์ฟอร์ด

ลุคนอนลงแต่กลับข่มตานอนไม่ได้เลย เขาพลิกตัวไปมาก่อนจะลุกขึ้นไปดื่มน้ำครึ่งแก้ว ครั้งที่สองที่เขาตื่นขึ้น เขาไปห้องน้ำ และครั้งที่สาม เขาลุกขึ้นและเดินไปสูบบุหรี่ที่ระเบียง

ทั้งสามครั้งที่ลืมตาตื่น สายตาของเขาจับจ้องไปยังโทรศัพท์บนโต๊ะข้างเตียง

แต่แล้ว ก็พบว่าไม่มีข้อความใหม่เข้ามาเลย

เมื่อสะดุ้งตื่นขึ้นมาเป็นครั้งที่สี่ ลุคยืนอยู่บนระเบียงพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างไม่สบายใจ เขาหยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวนจากในซองและใช้ริมฝีปากคีบเอาไว้ เมื่อจุดไฟแช็กเพื่อจุดบุหรี่ เขาคิดกับตัวเองว่า ‘เขาเร่งรีบเกินไปรึเปล่า?’

วลี "ความรักนั้นไม่ใช่สิ่งที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยัดเยียดให้หรอก" ลอยมาในความคิดเขา

ภายในริมฝีปากบางของชายหนุ่มเต็มไปด้วยกลิ่นบุหรี่ ด้วยบุหรี่ที่ไหม้ระหว่างนิ้วของเขาและอยู่ภายใต้ผลของนิโคติน เขาได้ตัดสินใจทำจิตใจให้เย็นชากับเธอมากขึ้น เขาสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำร้ายเสียเธอมากเกินไปและไม่ปฏิบัติต่อเธอดีจนเกินไป

ถ้าเธอส่งข้อความหาเขา เขาสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ตอบกลับในทันที

"อืดด…”

โทรศัพท์มือถือของเขาสั่น

ลุคมองกลับไปด้านหลัง และทันใดนั้น ก็เห็นแสงวูบวาบมาทางโต๊ะข้างเตียงในห้องนอนอันมืดมิด

ชายคนนั้นกลับไปที่ห้องนอนโดยไม่ลังเล เขาขยับตัวอย่างซุ่มซ่ามเหลือเกิน และต้นขาภายใต้ชุดคลุมสีน้ำตาลก็กระแทกเข้ากับมุมของเตียงแข็ง ๆ อย่างแรง เขาขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

"ตกลงค่ะ" เบียงก้าส่งข้อความเสียงแทนการพิมพ์ตอบ

ลุคไม่สามารถควบคุมตัวเองไว้ได้ เขาเพิ่งจะปฏิญาณกับตนเองว่าจะเย็นชากับเธอ แต่เขากลับคงกดปุ่มข้อความเสียงค้างไว้ทันที เสียงของเขาแหบแห้งหลังจากสูบบุหรี่ “พรุ่งนี้มาดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกันนะ”

"ได้ค่ะ..."

คำพูดที่นุ่มนวลของเธอทำให้ท่าทีเย็นชาในตอนแรกของชายคนนั้นอ่อนลง

...

ลุคนอนไม่หลับหลังจากได้ลิ้มรสสัมผัสแห่งรักครั้งแรกของตน

ทันทีที่ลืมตาตื่นตอนตีสาม เขาหยิบกุญแจรถแล้วพุ่งตัวออกไปอย่างเร็ว

หลุยส์เพิ่งกลับมาจากไนต์คลับ เขาหาวและเห็นพี่ชายหวีผมอย่างพิถีพิถันในชุดสูทและรองเท้าหนัง เขาคิดว่าเขาเห็นผีเข้าแล้ว "นายจะไปไหนตอนกลางดึกแบบนี้เนี้ย?"

ลุคเพิกเฉยต่อทุกสิ่งรอบตัวเขา เขาขึ้นรถและจากไป

หลุยส์มองดูรถสปอร์ตที่แล่นออกไปจากคฤหาสน์ แล้วส่ายหน้า “ชิ สงสัยจะเป็นสาวจริง ๆ แหละ เอารถสปอร์ตออกไปตอนตีสามเลยเหรอ? เขาจะไปทำอะไรได้อีก? ออกกำลังกายเหรอ?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก