พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 67

ระหว่างทางไปบ้านของลุงลุค ลุค ลานี่ และเรนนี่ ครอบครัวสามคน รวมทั้งเบียงก้ารับประทานอาหารเช้า ณ ร้านแห่งหนึ่ง

เบียงก้าเขินอายอย่างมากเพราะเธอรู้สึกว่าลุคกับเธอดูไม่เหมาะสมกันเลย

โชคดีที่เธอสวมชุดทำงานในวันนั้น เธอกังวลว่าพอถึงเวลาทำงานหลังจากดูพระอาทิตย์ขึ้น เธอจะไม่มีเวลากลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

เธอหวังเพียงว่า หากมีใครเผลอมองมา ก็ขอให้พวกเขาคิดว่าเธอเป็นเลขาสาวของลุคก็พอ

เบียงก้าสังเกตว่าลานี่และเรนนี่ดูเหมือนกลัวพ่อของพวกเขามาก

เมื่อพ่อไปเข้าห้องน้ำ เรนนี่กินแยมสตรอว์เบอร์รีเต็มปากแล้วบ่นว่า “น้าบีคะ พ่อทำเหมือนเด็กยังไม่โตเลยอะ พ่อน่ะทำให้หนูร้องไห้ตลอดเลย”

“พี่ชายเก่งกว่าหนูตั้งเยอะ พี่เข้มแข็งกว่าหนู พี่ก็เลยไม่เคยร้องไห้เพราะพ่อเลยสักครั้ง”

ลานี่พยักหน้าเห็นด้วย “พ่ออารมณ์ไม่ดีและไม่ชอบพูดคุยกับคนอื่น เราแค่อยากดูแลปัญหาจิตใจของพ่อจริง ๆ แต่ดูเหมือนพ่อจะไม่เคยยอมรับว่าพ่อป่วยเลย”

เบียงก้าหัวเราะและเช็ดปากของเรนนี่ที่ติดมีแยมไปทั่ว

เมื่อลุคกลับมาจากห้องน้ำและเห็นบรรยากาศที่เป็นกันเองในโต๊ะอาหาร เขาจึงเอ่ยถามด้วยความอิจฉา "คุยอะไรกันอยู่น่ะ? ทั้งสามคนดูมีความสุขกันมากเลยนะ"

“เฮ้อ พอพ่อกลับมา ความสุขของเราได้หายไปแล้ว…” ฉับ~ เรนนี่เฉือนขนมปังชิ้นหนึ่งด้วยช้อน “หนูบอกน้าบีว่าพ่อทำหนูร้องไห้ไปกี่ครั้งแล้ว”

“น้าบีคะ อย่าเป็นแฟนของพ่อเลยนะ ถ้าน้าบีแต่งงานกับพ่อไป หนูรับรองว่าน้าบีต้องร้องไห้แง ๆ เพราะพ่อนับครั้งไม่ถ้วนแน่เลย” เรนนี่แสดงท่าทีมั่นใจและเกลี้ยกล่อมเธออย่างเศร้าสร้อย

เบียงก้าพยักหน้าอย่างว่าง่าย “จ้ะ”

ลุคจิบนมร้อน อุณหภูมิอุ่นกำลังพอดี พนักงานเสิร์ฟนำนมร้อนมาเสิร์ฟให้เบียงก้าลุคเอื้อมมือไปสลับแก้วแล้วเอ่ยว่า "ดื่มถ้วยของผมสิ มันไม่ร้อนเกินไป"

เบียงก้า "..."

ลานี่และเรนนี่มองหน้ากัน

'พ่อกำลังดูแลน้าบีอยู่เหรอ?'

'นี่หมายความว่าเขาเป็นห่วงเป็นใยคนอื่นจริง ๆ น่ะสิ?'

ในบางครั้ง มันให้รู้สึกราวกับว่าพ่อของเด็กน้อยทั้งสองถูกผีเข้าอย่างไรอย่างนั้น เขาสามารถดูมีความสุขพร้อมกับโกรธไปด้วยได้ คนละขั้วเลย

...

ครึ่งชั่วโมงให้หลัง พวกเขาก็รับประทานอาหารเช้าเสร็จ

เด็กน้อยสองคนเดินนำหน้าไปก่อนพร้อมถือกระเป๋านักเรียนใบเล็ก ๆ ไปด้วย เรนนี่พิงพี่ชายของเธอพร้อมกระซิบที่หูของเขา

ลุคโอบเอวเบียงก้าจากด้านหลัง มันไม่ได้สนิทสนมจนเกินงามแต่คนนอกอาจมองว่าเขาเป็นแฟนหนุ่มของเธอก็ได้

เบียงก้ารู้สึกอึดอัด

"อย่าทำแบบนี้สิคะ" เธอพยายามออกห่างจากตัวจากเขาเพราะเธอกังวลว่าจะมีคนเห็น

เธอไม่ได้หมายความตามนั้นจริง ๆ แต่สำหรับลุคแล้ว นี่อาจเป็นเรื่องที่สังคมยากที่จะยอมรับก็ได้

มีสายตานับล้านจับตามองทุกย่างก้าวของลุคอยู่ พวกนักข่าวตาดีไม่ได้สนใจเขามากนักเพราะเขาใสสะอาดอยู่เสมอและดูแลภาพลักษณ์ของเขาได้ดี แม้ว่าพวกเขาจะติดตามเขามาหลายปี แต่พวกเขาก็อาจไม่ได้ภาพสำหรับทำข่าวหนังสือพิมพ์เลย

แต่อย่างไรก็ดี จากนี้ไปทุกอย่างจะเปลี่ยนไป

เบียงก้ากังวลว่าเธอจะกลายเป็นตัวปัญหาของเขาเมื่ออยู่ต่อหน้าสาธารณชน

“อย่าทำแบบนี้เหรอ?” ลุคเดินไปกับเธอ ห่างจากเด็ก ๆ สองเมตร เขาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ถ้าคุณนอนกับผมเมื่อไหร่ คุณค่อยพูดแบบนี้ก็แล้วกันนะ”

เบียงก้า "..."

ที่จอดรถอยู่ห่างจากร้านอาหารพอสมควร

เบียงก้าไม่ต้องการให้เขาหยอกล้อเธอ เธอพูดอย่างจริงจังว่า “รู้ตัวไหมว่าคุณทำให้เรนนี่กลัวมากเลยนะ? เรนนี่เป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ถ้าคุณยังขืนทำตัวน่ากลัวแบบนี้กับเรนนี่อีก พอโตไป เธออาจมีปัญหาร้ายแรงก็ได้นะ”

“เจ้าตัวเล็กก็พูดจากตามประสาเด็กนั่นแหละ” ใบหน้าของลุคบอกว่าเขาไม่เคยทำให้ลูกสาวกลัวเลย

'ก็ได้ เบียงก้ารู้เรื่องนี้แล้ว'

โดยปกติ ผู้ชายมักจะดูเย็นชาเว้นเสียแต่ว่าเขาจะหัวเราะออก แต่สำหรับชายคนนี้คงเป็นเรื่องยากน่าดูชม

ลุคจำสิ่งที่ลูกสาวของเขาพูดกับเบียงก้าได้ในตอนนี้ว่า “น้าบีคะ อย่าเป็นแฟนของพ่อเลยนะ ถ้าน้าบีแต่งงานกับพ่อไป หนูรับรองว่าน้าบีต้องร้องไห้แง ๆ เพราะพ่อนับครั้งไม่ถ้วนแน่เลย”

“อย่าฟังเรื่องไร้สาระของเรนนี่เลยนะ ผมจะไม่ทำให้คุณร้องไห้ แต่ถ้าอยู่บนเตียง นั่นไม่นับนะ” ลุคหยอกล้อ

“เอิ่ม ฉันจะไปช่วยเรนนี่ถือกระเป๋านักเรียน...”

เบียงก้าเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพราะเธอรู้สึกสบายใจกว่าและเข้ากับเด็กสองคนได้ง่ายกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ใหญ่อย่างลุค

เธอเป็นผู้ใหญ่อายุยี่สิบสี่ปี และแน่นอน เธอเข้าใจว่าการที่เขาจะทำให้เธอร้องไห้บนเตียงหมายความว่าอะไร...

ลุงของลุคอาศัยอยู่ห่างไกล

ก่อนที่เขาจะส่งเด็กสองคนออกไป ลุคได้รับโทรศัพท์จากลุงของเขา

เมื่อเขามาถึง ลุงและป้าของเขาก็รออยู่ที่สนามหน้าบ้านแล้ว

คฤหาสน์ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองที่มีสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ

“คุณปู่...” เรนนี่เดินเข้าไปหาเขา และเห็นได้ชัดว่าเธอสนิทกับเขามาก

ลานี่ทำตัวเหมือนผู้ชายตัวเล็ก ๆ ขณะที่เขายืนอยู่ข้างๆ จับมือน้องสาวอยู่ เนื่องจากเป็นวันที่อากาศร้อน เขาจึงไม่อยากกอดคุณปู่หรือคุณย่า

“แม่หนูนี่คือ…” คุณย่าเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ข้างลุค

เบียงก้าทักทายรีบทักทายพวกเขาในทันที "สวัสดีค่ะ"

"เอ่อ สวัสดี" คุณปู่จ้องมองเบียงก้าสักครู่ และดูตกตะลึงเล็กน้อย

ลุคมองลุงของตนที่จ้องมองเบียงก้า ใบหน้าของเบียงก้านั้นไม่มีอะไรแปลกเลย สิ่งเดียวที่โดดเด่นคือรูปลักษณ์ที่บริสุทธิ์ ไม่มีพิษมีภัย สดใส และสวยงามของเธอ

เบียงก้าทักทายลุงและป้าของลุคอย่างสุภาพ

ลุคแปลกใจกับสายตาของลุงที่ดูแปลก ๆ ไปและเอ่ยถามว่า “มีอะไรรึเปล่าครับ คุณลุง?”

“แม่หนูนี่…” ดวงตาของลุงย้ายออกจากเบียงก้าและเอ่ยถามหลานชายของเขาที่แต่งกายเรียบร้อย

"อ๋อ...ฉันเป็นเลขาของท่านประธานน่ะค่ะ" เบียงก้ากล่าว

ถ้าลุคพูดก่อน เขาคงแนะนำเธอว่าเป็นแฟนเขา เธอยังไม่พร้อมที่จะเรียกพวกเขาว่าคุณป้าและคุณลุง

ถ้าบรรดาผู้ใหญ่ฝ่ายลุคไม่ยอมรับคนที่มีสถานะธรรมดาแบบเธอ และคิดว่าเธอไม่คู่ควรกับลุค เธอรู้ว่านั่นหมายความว่าเธอจะกลายเป็นตัวปัญหาไปแน่

ลุคคำนึงถึงความรู้สึกของเธอจึงไม่ได้แก้ไขคำพูดของเธอ

ลุงพยักหน้าและพูดด้วยความสงสัย “เลขาอย่างนั้นเหรอ?

...

ในไม่ช้า ลุคก็พาเบียงก้าไปกับเขาด้วย

ใกล้ถึงเวลาทำงานแล้ว

หลังจากที่เบียงก้าขึ้นรถ เธอรัดเข็มขัดนิรภัย “ฉันบอกพ่อว่าจะไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลวันนี้ ฉันขอลางานไว้แล้วและจะกลับไปที่ทำงานตอนบ่ายนะ ตอนที่เข้าไปในเมือง คุณช่วยไปส่งฉันหน่อยนะ”

“ผมจะไปกับคุณด้วย” ลุคพูดขณะสตาร์ทรถ

“ไม่นะ คือพ่อ...” เธออยากจะบอกเขาว่าพ่อยังไม่รู้ถึงตัวตนของเขา

ถ้าพ่อของเธอจะรับคนรวยเป็นลูกเขยในอนาคต ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรเพื่อเกลี้ยกล่อมเขา

ลุคเข้าใจและเอื้อมมือไปแตะด้านหลังศีรษะของเธอพลางปลอบโยนเธอ "ผมเข้าใจดี ผมจะพิสูจน์ให้พ่อของคุณเห็นว่าคนรวยไม่ได้เป็นเหมือนกันทุกคน"

เบียงก้าพยักหน้า

...

ณ คฤหาสน์เดี่ยว

เรนนี่และลานี่กำลังเล่นกับแมวสีส้มอ่อนสองตัวที่สนามหน้าบ้าน...

คุณปู่มองเด็กสองคนที่สนามหน้าบ้านพลางขมวดคิ้วขณะครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง เขาพูดกับภรรยาของตนว่า "ผู้หญิงที่อยู่กับลุคเมื่อกี้ดูคุ้น ๆ อยู่นะ"

“คุณจะเคยเห็นเธอมาก่อนได้ยังไง? เธอก็แค่เลขาไง แต่ว่าก็ว่าเถอะ แม่หนูนั่นสวยไม่เบาเลยนะ ถ้าลุคชอบเธอขึ้นมา ก็ปล่อยไปตามเรื่องตามราวเถอะนะ เราจะไปบังคับขืนใจให้เขาคบหากับใครมันก็ใช่เรื่องนะ” คุณย่ารดน้ำดอกไม้และพึมพำ

คุณปู่ส่ายหัว “ฉันไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น ฉันตั้งใจจะพูดว่า หน้าตาแม่หนูนั่นเหมือน... ลองคิดดูสิ คุณคิดว่าเธอเหมือนใครตอนเด็ก ๆ หน้าตาแม่หนูนั่นคลับคล้ายคลับคลาแปลก ๆ…”

คุณย่าถอนหายใจและพูดไม่ออก “ในประเทศนี้มีคนเดินไปเดินมานับล้าน ๆ เถอะพ่อคุณ คนที่หน้าตาเหมือนกันก็มีเป็นโหล ๆ ดาราหนังดังอย่าง มินดี้ ยัง ดูเหมือนอีวอนน์ ลูกสาวของคาเรน มากกว่าน้องสาวของเธอเองอีก!”

คุณปู่หันกลับมาเพราะเขาไม่อยากต่อความยาวสายความยืด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก