แต่แล้ว เบียงก้าก็ฟื้นคืนสติหลังจากได้ยินคำพูดของชายผู้นั้น เธอผลักและดันเพื่อออกจากร่างกายเขาขณะที่เขากำลังสนใจสิ่งอื่นอยู่
ดวงตาลึกของลุคเป็นสีแดงเข้ม ส่วนหนึ่งของร่างกายของเขากำลังร้อนรุ่มจัด ร่างกายทั้งหมดของเขาก้าวไปข้างหน้าอย่างเย็นชาและดึงเธอกลับมาอีกครั้ง เขากอดเธอไว้ และหันหน้าเข้าหากันโดยเอาแขนโอบหลังเธอ หลังจากเดินโซเซไปสองก้าว เขาก็กดเธอลงบนเก้าอี้นวมสีแดงเข้ม
“ไม่อยากแล้วเหรอ?” เสียงที่มีเสน่ห์ของเขา ทำให้หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น และใบหน้าของเธอแดงก่ำเมื่อความรักอันไร้ขอบเขตที่เขามีต่อเธอแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
เบียงก้ายอมรับกับตัวเองว่าเธอแอบชอบผู้ชายคนนี้ตั้งแต่เริ่มต้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจำเป็นต้องทำสิ่งเหล่านั้นในเวลานี้
“อืม…”
ริมฝีปากที่พยายามจะปฏิเสธถูกปิดผนึกลงอีกครั้งโดยริมฝีปากของชายผู้นั้น โคนของลิ้นของเธอเริ่มเจ็บปวดจากการดูดนั้น
ภายในห้องนั้น เสียงที่ดังอยู่ ณ ตอนนั้นคือเสียงความรักระหว่างชายและหญิง เมื่อแสงสลัวส่องทั้งสอง ชายคนนั้นก็มีรังสีที่เร้าอารมณ์มากสำหรับเขา
เบียงก้าจมดิ่งลงไปในกลิ่นของนิโคตินจากร่างกายของเขา ฟีโรโมนใกล้จะระเบิดออกแล้ว
“ฉัน… อืม... ยังมีงานต้องทำอีก… อ่า...” เมื่อเธอเอาเรื่องงานเข้ามาอ้าง มันก็ทำให้ชายหนุ่มคนนั้นเริ่มรำคาญ ก่อนที่เธอจะพูดอะไรอีก เธอถูกแขนที่แข็งแรงของเขาดึงขึ้นจากเก้าอี้นวม
เธอก็ผลักร่างหญิงสาวเข้ากับเครื่องทำความเย็นซึ่งมีความกว้างเพียงหนึ่งเมตรโดยไม่มีมีเวลาให้เธอได้หายใจหายคอเลย
ไอน้ำจากเครื่องทำความเย็นซึมซาบผ่านเสื้อผ้าของเธอและสุดท้ายก็เกาะบนแผ่นหลังอันอ่อนนุ่มของเธอ
ลุคยึดติดกับร่างกายที่บอบบางนั้นและไม่ปล่อยให้มีช่องว่างระหว่างพวกเขาทั้งสอง ทำให้เธอแทบหายใจไม่ออก
มือที่แห้งและหยาบเล็กน้อยของเขาลูบไปทุกส่วนบนร่างกายของเธอเท่าที่มือจะผ่านเสื้อผ้าของเธอได้
เมื่อเขาไปถึงส่วนนั้นของเธอ ลุคไม่สนใจว่าเขาจะกดและลูบแรงแค่ไหน
ออกซิเจนทั้งหมดในหน้าอกของเธอกำลังจะหมดลง และเบียงก้าก็คร่ำครวญเร็วขึ้น
ชุดสีดำรัดรูปบนร่างกายของเธอก็ถูกชายผู้นั้นถอดด้วยมืออันใหญ่โตของเขา
ลุคสุดจะอดกลั้นได้แล้ว ความปรารถนาของเขาที่มีต่อเธอซึ่งถูกเก็บซ่อนไว้ไปหลายปีกำลังจะปะทุขึ้น ในที่สุด เขาก็พบคนที่ถูกสร้างมาเพื่อให้เขาทุ่มทุกอย่างที่มาออกมา และเธอก็อ่อนโยนมากเสีย...
“อย่ากลัวไปเลยนะ อย่าซ่อนอีกเลย... คนดีของผม..." เสียงที่เคร่งขรึมของเขาเต็มไปด้วยความหื่นกระหายขณะที่เขากดทับเธออย่างแรงเพื่อป้องกันไม่ให้เธอหลบได้
เธอรู้สึกถึงบางอย่างที่ต้นขาของเธอ การที่สิ่งนั้นกระแทกเข้ากับต้นขาเธออย่างแรงทำให้เธอสั่นกลัวไม่ใช่น้อยเลย
เธอหายใจหอบและก้มศีรษะลง และมองดูการเคลื่อนไหวของลุคอย่างเหลือเชื่อ
ขณะที่เขาจับด้านหลังศีรษะของเธอและจูบเธอ เขาปลดเข็มขัดโลหะรอบเอวออก
สิ่งนั้นสัมผัสท้องส่วนล่างของเธออย่างน่าตกใจ
"ไม่นะ นี่... นี่มันเร็วเกินไปนะคะ..." เบียงก้ารู้ว่าเธอไม่ใช่คนหวงตัวเพราะเธอเคยมอบร่างของเธอให้ชายอื่นเมื่อห้าปีก่อนมากกว่าหนึ่งครั้ง
ถึงอย่างนั้น พวกเขาเพิ่งเริ่มต้นความสัมพันธ์นี้ พวกเขาคบหากันแค่เพียงวันเดียว ทั้งหมดนี้สมควรแล้วอย่างนั้นเหรอ?
ลุคบอกเธอแล้วว่าเขาจะแต่งงานกับเธอและขอให้เขาได้เสร็จสมอารมณ์หมายในครั้งต่อไป เขาเล้าโลมติ่งหูที่ดูขี้อายของเธอไว้ในปากแล้วกัดเบา ๆ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เริ่มบ้าคลั่งจนเขากัดลงไปแรงขึ้นเรื่อย ๆ
มันสั่นสะท้านไปทั่วร่างกายของเธอ
ตอนนี้ เบียงก้าอ่อนระทวยไปหมด ผู้ชายคนนั้นก็พลิกร่างของเธอทันที
ใบหน้าของเธอกำลังเผชิญหน้ากับเขา
เธอพิงเครื่องทำความเย็น ก่อนที่เขาจะให้เธอหันหลัง เธอเห็นคิ้วที่ขมวดคิ้วและกระดูกไหปลาร้าสีแดงของเขาด้วยอารมณ์ที่เตลิดไป
เธอสัมผัสถึงพลังที่น่าหวาดเกรงจากด้านหลังของชายคนนั้น
ความร้อนจากฝ่ามือของลุคสูงกว่าอุณหภูมิร่างกายของมนุษย์ปกติราวกับว่าสัตว์ร้ายในร่างกายของเขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้น เธอเหมือนเนื้อบนเขียงที่ถูกลิขิตมาให้ถูกเขาลิ้มลองและกลืนกินลงไป
“ใจเย็นนะ เดี๋ยวคุณจะชอบไปเองแหละ...” ลุคพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ขณะที่เขาจูบคอสีขาวกระจ่างของเธอจากด้านหลัง มันทำให้เธอเสียสมาธิจากความกลัวของเธอ มือใหญ่ของเขาที่แห้งและร้อนกดไปตรงสะดือของเธอ
ความรู้สึกตื่นตระหนกและหวาดกลัวทำให้เธอรู้สึกเหมือนกระต่ายตัวน้อยที่ได้รับบาดเจ็บขณะที่เธอคร่ำครวญอยู่บนเครื่องทำความเย็นด้วยความมึนงง ร่างกายของเธอสั่นสะท้าน และสมองของเธอก็ต้องการรับออกซิเจนมากขึ้น...
ความละอายอย่างแรงกล้าโจมตีจิตวิญญาณที่เปราะบางของเธอ
ริมฝีปากของลุคลูบไล้ไปกับซอกคอสีขาวกระจ่างและหูสีแดงของเธอ
เขาถลำลึกอยู่กับการจูบอันดูดดื่มนี้มาก
ในขณะนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงหอบและคร่ำครวญของตัวเองอย่างชัดเจน
"ไม่นะคะ…"
เธอไม่สามารถทนกับสิ่งที่แข็งแกร่งของเขาได้
เหมือนกับตอนที่เขาจูบเธออย่างแรง สัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่งจู่โจมเธอ
“ไม่… อ่า… เอาออกไป…”
เธอรู้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ภายในตัวเธอไม่สามารถรับมือกับสิ่งนั้นของเขาได้ทั้งหมด
เส้นเลือดที่หน้าผากของลุคโผล่ออกมา เบียงก้าหันหลังให้เขา ดังนั้นเธอจึงมองไม่เห็นใบหน้าของเขา แต่เมื่อเธอก้มศีรษะลง เธอก็มองเห็นเส้นเลือดที่ขยายใหญ่ขึ้นที่แขนของเขา
“มันเจ็บนะ… อ่า… หยุด…”
เธอส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งขณะที่เธอพิงกับเครื่องทำความเย็น เธอมองไปทางซ้ายของเธอในหมอกควันและเห็นเส้นเลือดของผู้ชายโผล่ออกมาทุกครั้งที่เขาผลักไปข้างหน้า
คอของลุคตึงแน่น และเสียงของเขาก็แหบแห้ง ทั้งที่ใจก็อยากและไม่สามารถอดกลั้นไว้ได้อีก เสียงครวญครางเพราะความเจ็บปวดของเธอยังดังก้องอยู่ในหูเขา เขาอยากถอยหนีแต่จะหยุดตอนนี้ก็ใช่เรื่อง...
เขาพลิกร่างของเธอและจูบที่ริมฝีปากในขณะที่เขาลูบไล้มือเธอเพื่อเป็นการปลอบโยนร่างกาย
ถึงอย่างนั้น ตรงนั้นของเธอก็เริ่มแน่นยิ่งขึ้น
เธอคงไม่สามารถเข้ากับสิ่งนั้นของเขาได้พอดี
เบียงก้ารู้สึกทุกข์ทรมานมากเสียจนช่องว่างภายในร่างกายกำลังเรียกร้องสิ่งนั้นอย่างมาก
เมื่อเธอลืมตาที่เปียกไปด้วยน้ำตาคู่นั้นขึ้น เธอเห็นชายที่สุขุมตรงหน้าซึ่งแข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้า มือใหญ่ของเขาที่ลูบหลังคอของเธอนั้นร้อนราวกับเหล็กเผาไฟ ไม่ว่าจะสัมผัสไปตรงไหนก็ร้อนรุ่มเหลือเกิน
ไม่มีผู้หญิงคนใดสามารถยับยั้งตัวเองจากสิ่งล่อตาล่อใจเช่นนี้ไปได้
ความรู้สึกที่อยากให้เขาช่วยเข้ามาเติมเต็มให้แรงกล้ายิ่งขึ้น
เขาพยายามอย่างหนักและขมวดคิ้วอย่างลึกล้ำ
เธอจับหลังของเขาด้วยมือทั้งสองขณะที่นิ้วของเธอเลื่อนไปตามรอยของกระดูกสันหลังอันแข็งแกร่ง เธอกัดฟันอย่างเจ็บปวดและตัวสั่นเทา
เมื่อถึงจุดนั้น เธอไม่อยากถอยอีกแล้ว แต่ก็ไม่อยากจะไปต่อเช่นกัน
สุดท้าย เธอออกมาด้วยความเจ็บปวด
เล็บที่ตัดอย่างประณีตของเธอเกือบจะฝังเข้าไปในผิวหนังบริเวณหลังของชายคนนี้ ในขณะนั้น เบียงก้าทำอะไรไม่ถูกและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเธอ
ไม่ใช่ว่าเธอไม่ต้องการยอมให้เขา
ลุคบังคับตัวเองให้หยุดไฟแห่งราคะที่กำลังแผดเผาทั้งคู่ เขาจูบที่หน้าผากของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า น้ำเสียงของเขาแหบแห้งด้วยความทุกข์ใจ “ผมขอโทษ ผมใจร้อนเกินไป ผมจะค่อยเป็นค่อยไป แล้วคุณจะค่อย ๆ ชินไปเอง”
เธอเงยหน้าขึ้นและน้ำตาไหลอาบแก้มสีจางของเธอ
ลุคจุมพิตน้ำตาที่เค็มนั้น ความคิดครอบงำและเห็นแก่ตัวผุดขึ้นมาในหัวของเขา เขารู้ว่าไม่ว่าสภาพการณ์ในชีวิตนี้ และชาติหน้าจะเป็นอย่างไร หรือแม้แต่หลังจากนั้น เขาจะไม่ยอมปล่อยผู้หญิงคนนี้ไป ไม่มีวัน เขาจะอยู่กับเธอตลอดไป
“เจ็บมากไหม? ไปโรงพยาบาลดีไหม? หรือควรโทรเรียกหมอดี?” ลุคถามด้วยความสงสารในขณะที่เขาใส่เสื้อคลุมและจัดชุดให้เธอ จากนั้นก็ก้มมองเธอ
เบียงก้าส่ายหัว
ลุคง่วนอยู่กับผมที่ยุ่งเหยิงของเธอและทัดปอยผมไว้ข้างหลังใบหูของเธอ เขาจิกริมฝีปากสีชมพูของเธอแล้วพูดว่า "ไปพักก่อนดีกว่าไหม?"
“ฉันยังทำงานไม่เสร็จค่ะ” เบียงก้าก้มหน้าลงและพูดด้วยน้ำเสียงที่อู้อี้ เธอหลีกเลี่ยงสายตาที่เร่าร้อนของเขาซึ่งดูเหมือนไม่ละอายใด ๆ เลย
งานคืองาน เงินเดือนมา งานไป เธอไม่ต้องการให้งานนี้เสร็จล่าช้าเพราะหัวหน้าแผนกต้องการแบบร่างในเช้าวันรุ่งขึ้น
ดูเหมือนลุคจะเข้าใจความดื้อรั้นของเธออยู่บ้าง ดังนั้นเขาจึงหันกลับมาและเดินไปที่ห้องทำงานของเธอ เขารีบเก็บสมุดบันทึกของเธอและถือไว้ในมือข้างหนึ่ง
แก้มของเบียงก้าแดงระเรื่อขณะที่อีกมือของเขาดึงมือเธอให้ตามเขาไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก