พวงแก้มของเบียงก้าเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ
“ฉันสบายดีค่ะ”
คิ้วของเธอขมวดเล็กน้อยอีกทั้งยังพยายามจะหนีออกจากอ้อมแขนของเขา เขาดูร้อนแรงขึ้นอีกจนเธอเริ่มกลัวว่าเขาจะหมดความอดทนและสูญเสียการควบคุมอีก แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็อ่อนแอเกินกว่าจะหนีเขาพ้น ร่างของเธอถูกกดทับที่ปลายเตียง
ชายหนุ่มเลื่อนมือต่ำลงไป
เธอมองเขาด้วยแววตาแห่งความหวาดกลัว เพราะเธอไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรกันแน่
เบียงก้ารู้สึกถึงลมที่หว่างขา
เขากระชากบางอย่างไปจากเธอ
เธอมองเข้าไปในดวงตาดำขลับอันล้ำลึกของเขาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ริมฝีปากของเธอถูกเขาบดขยี้อีกครั้ง ชายหนุ่มกดร่างของเขาลงมา ก่อนจะเริ่มดูดกลืนอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เบียงก้ากลัวว่าความเจ็บปวดที่เธอคุ้นเคยนั้นจะกลับมาอีก เธอจึงพยายามที่จะหยุดยั้งเขาตามสัญชาตญาณ
ปฏิกิริยาของลุคทำให้เลือดเห่อขึ้นบนหน้าของเบียงก้า
เขาสำรวจร่างกายของเธอ
เบียงก้าไม่ได้รับบาดเจ็บจากกิจกรรมก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย ในตอนนั้น มันเพียงแค่รู้สึกเจ็บปวดนิดหน่อย แต่ความเจ็บปวดเหล่านั้นได้หายไปแล้ว
“อย่า...อย่ามองค่ะ…” เธอไม่สามารถหลีกหนีจากเขา จึงทำได้เพียงดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเองไว้เพราะไม่อยากให้ร่างกายของตนถูกเปิดเผยต่อหน้าเขาเสียจนหมดสิ้น
ลุคยังคงสำรวจร่างกายของเธออย่างละเอียด
เขารู้สึกโล่งใจที่เธอไม่ได้รับบาดเจ็บ เพราะถ้าไม่เป็นเช่นนั้นเขาคงรู้สึกผิดไม่น้อย
มืออันใหญ่โตของเขาลูบไล้ขาอันขาวนวลของเธอ เบียงก้าสั่นสะท้านไปทั้งทรวง เธอครางออกมาอีกครั้งเมื่อถูกเขาจูบเข้าที่ริมฝีปากอย่างเร่าร้อน...
เธอรู้สึกอับอายและขวยเขินไปทั่วทุกอณูรูขุมขน
เบียงก้ากำลังจะแหลกสลาย
“เรามาทำอย่างอื่นกันเถอะ รับรองว่าคุณจะต้องสนุกแน่” ลุคทั้งแก่กว่าและเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเธอ โดยเฉพาะเรื่องอย่างว่า เขาเป็นผู้ใหญ่แบบที่ไม่ต้องมีใครมาสอนเลยด้วยซ้ำ
ดวงตาของเบียงก้าเบิกกว้างเพราะการเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิดของมือเขา วินาทีต่อจากนั้นเธอได้แต่กัดริมฝีปากและหลับตาลง ร่างทั้งร่างสั่นเทาและตื่นตัว
มือทั้งสองข้างของเธอจับเข้าที่แขนผ่านชุดสูทของเขา
เบียงก้าได้แต่ขดนิ้วเท้าขาวดุจหิมะของตัวเองด้วยความอับอาย ผ้าปูที่นอนเองก็ยับย่นเพราะแรงกดพวกนั้น
ร่างอันสูงโปร่งของลุคนอนตะแคงข้างอยู่บนเตียง เขายังคงสวมสูทและรองเท้าหนังอยู่ นั่นทำให้เขายังคงดูเหมือนสุภาพบุรุษอย่างที่เขาเป็นในเวลากลางวัน ร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อกว่าครึ่งหนึ่งกดทับเธอเอาไว้ในขณะที่ริมฝีปากแตะกับเธอ
“อืม… ฮืม…”
ไม่นานนัก เบียงก้าก็เกือบจะสูญเสียความเป็นตัวเองไป มือของเขาทำให้วิญญาณของเธอหลุดลอยไป
ร่างกายของเธอทุกส่วนถูกเขาสัมผัสจนทั่วในขณะที่นิ้วเท้าเล็ก ๆ ของเธอนั้นทำให้ผ้าปูที่นอนยิ่งยุ่งเหยิง
ร่างทั้งร่างของเธอเกิดอาการเกร็ง
“พอเถอะค่ะ อ๊า…”
เบียงก้ารู้สึกอายใจเหลือเกินที่ร่างกายของเธอตอบสนองกับเขา
เพียงครู่หนึ่ง เบียงก้าก็ไม่อาจทนได้อีก ใบหน้าเธอบิดเบี้ยวในขณะที่หน้าผากเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เบียงก้าครวญครางอย่างสุดจะกลั้น ในตอนที่เธอดิ้นรน ส่วนล่างของเธอก็ถูไถไปกับผ้าไหม
“คุณเสร็จแล้วเหรอ? หื้ม?” เสียงที่ขึ้นจมูกของลุคนั่นทำให้มันฟังดูเย้ายวนและเร้าอารมณ์
ร่างกายของเบียงก้าสั่นเทิ้มอีกครั้ง
เบียงก้าเริ่มที่จะสิ้นสติและจมดิ่งไปอีกครั้ง ราวกับว่าเธอสิ้นสติและไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ร่างกายของเธออ่อนไหวจนเธอต้องมาในตอนที่เขาสัมผัส...
หลังจากสิ้นสุดการจูบที่ไม่รู้ว่านานเพียงใด ร่างของเบียงก้าก็นอนลงอย่างนุ่มนวล
ชายหนุ่มเดินไปยังห้องน้ำ เสียงน้ำไหลดังออกมาทันทีที่เขาเปิดก๊อก
ลุคล้างมือของตัวเอง นิ้วของเขาทั้งเรียวยาวและงดงาม นิ้วที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งนั้นประกอบไปด้วยข้อต่อที่ชัดเจน เขาหยิบสบู่ออกมาก่อนจะล้างทีละนิ้ว
ลุคมองไปที่นิ้วชี้และนิ้วกลางข้างซ้ายที่เพิ่งเข้าไปในตัวเธอด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าที่ยังคงลุกโชนอยู่ภายในแววตา จดจำในทุกสิ่งที่ตัวเองได้ทำ แล้วจึงเช็ดมือด้วยทิชชู่เปียก
อันที่จริงแล้วเขาไม่ได้ต้องการที่จะทำความสะอาดเลยสักนิด
ลุคกลับมายังห้องนอน เขาเดินไปที่เตียงแล้วกอดเธอไว้ ก่อนจะสวมเสื้อผ้ากลับคืนให้เธอและยังไม่พลาดที่คิดจะแอบอิงไปกับเธอและมอบจุมพิตแบบฝรั่งเศสอันเร่าร้อนไปให้
หลังจากจูบนั้นผ่านไป เขาถอนริมฝีปากออกจากปากเธอ
หยดน้ำเหลวใสยืดออกจากปากของคนทั้งคู่หลังจากจุมพิตอันดูดดื่มและเร่าร้อน
...
เบียงก้าไม่รู้ว่าเธอมาอยู่ในรถของเขาได้อย่างไร
เธอยืนกรานที่จะไม่อยู่ในห้องนั้นและจะไม่ค้างคืนในที่ที่พวกเขาทำเรื่องอย่างว่ากันตั้งแต่ครั้งแรกด้วย เพราะนีน่าจะหัวเราะเยาะใส่เธอ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะเธอหัวเราะไปเสียแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก