พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 72

พวงแก้มของเบียงก้าเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ

“ฉันสบายดีค่ะ”

คิ้วของเธอขมวดเล็กน้อยอีกทั้งยังพยายามจะหนีออกจากอ้อมแขนของเขา เขาดูร้อนแรงขึ้นอีกจนเธอเริ่มกลัวว่าเขาจะหมดความอดทนและสูญเสียการควบคุมอีก แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็อ่อนแอเกินกว่าจะหนีเขาพ้น ร่างของเธอถูกกดทับที่ปลายเตียง

ชายหนุ่มเลื่อนมือต่ำลงไป

เธอมองเขาด้วยแววตาแห่งความหวาดกลัว เพราะเธอไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรกันแน่

เบียงก้ารู้สึกถึงลมที่หว่างขา

เขากระชากบางอย่างไปจากเธอ

เธอมองเข้าไปในดวงตาดำขลับอันล้ำลึกของเขาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ริมฝีปากของเธอถูกเขาบดขยี้อีกครั้ง ชายหนุ่มกดร่างของเขาลงมา ก่อนจะเริ่มดูดกลืนอย่างค่อยเป็นค่อยไป

เบียงก้ากลัวว่าความเจ็บปวดที่เธอคุ้นเคยนั้นจะกลับมาอีก เธอจึงพยายามที่จะหยุดยั้งเขาตามสัญชาตญาณ

ปฏิกิริยาของลุคทำให้เลือดเห่อขึ้นบนหน้าของเบียงก้า

เขาสำรวจร่างกายของเธอ

เบียงก้าไม่ได้รับบาดเจ็บจากกิจกรรมก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย ในตอนนั้น มันเพียงแค่รู้สึกเจ็บปวดนิดหน่อย แต่ความเจ็บปวดเหล่านั้นได้หายไปแล้ว

“อย่า...อย่ามองค่ะ…” เธอไม่สามารถหลีกหนีจากเขา จึงทำได้เพียงดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเองไว้เพราะไม่อยากให้ร่างกายของตนถูกเปิดเผยต่อหน้าเขาเสียจนหมดสิ้น

ลุคยังคงสำรวจร่างกายของเธออย่างละเอียด

เขารู้สึกโล่งใจที่เธอไม่ได้รับบาดเจ็บ เพราะถ้าไม่เป็นเช่นนั้นเขาคงรู้สึกผิดไม่น้อย

มืออันใหญ่โตของเขาลูบไล้ขาอันขาวนวลของเธอ เบียงก้าสั่นสะท้านไปทั้งทรวง เธอครางออกมาอีกครั้งเมื่อถูกเขาจูบเข้าที่ริมฝีปากอย่างเร่าร้อน...

เธอรู้สึกอับอายและขวยเขินไปทั่วทุกอณูรูขุมขน

เบียงก้ากำลังจะแหลกสลาย

“เรามาทำอย่างอื่นกันเถอะ รับรองว่าคุณจะต้องสนุกแน่” ลุคทั้งแก่กว่าและเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเธอ โดยเฉพาะเรื่องอย่างว่า เขาเป็นผู้ใหญ่แบบที่ไม่ต้องมีใครมาสอนเลยด้วยซ้ำ

ดวงตาของเบียงก้าเบิกกว้างเพราะการเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิดของมือเขา วินาทีต่อจากนั้นเธอได้แต่กัดริมฝีปากและหลับตาลง ร่างทั้งร่างสั่นเทาและตื่นตัว

มือทั้งสองข้างของเธอจับเข้าที่แขนผ่านชุดสูทของเขา

เบียงก้าได้แต่ขดนิ้วเท้าขาวดุจหิมะของตัวเองด้วยความอับอาย ผ้าปูที่นอนเองก็ยับย่นเพราะแรงกดพวกนั้น

ร่างอันสูงโปร่งของลุคนอนตะแคงข้างอยู่บนเตียง เขายังคงสวมสูทและรองเท้าหนังอยู่ นั่นทำให้เขายังคงดูเหมือนสุภาพบุรุษอย่างที่เขาเป็นในเวลากลางวัน ร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อกว่าครึ่งหนึ่งกดทับเธอเอาไว้ในขณะที่ริมฝีปากแตะกับเธอ

“อืม… ฮืม…”

ไม่นานนัก เบียงก้าก็เกือบจะสูญเสียความเป็นตัวเองไป มือของเขาทำให้วิญญาณของเธอหลุดลอยไป

ร่างกายของเธอทุกส่วนถูกเขาสัมผัสจนทั่วในขณะที่นิ้วเท้าเล็ก ๆ ของเธอนั้นทำให้ผ้าปูที่นอนยิ่งยุ่งเหยิง

ร่างทั้งร่างของเธอเกิดอาการเกร็ง

“พอเถอะค่ะ อ๊า…”

เบียงก้ารู้สึกอายใจเหลือเกินที่ร่างกายของเธอตอบสนองกับเขา

เพียงครู่หนึ่ง เบียงก้าก็ไม่อาจทนได้อีก ใบหน้าเธอบิดเบี้ยวในขณะที่หน้าผากเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เบียงก้าครวญครางอย่างสุดจะกลั้น ในตอนที่เธอดิ้นรน ส่วนล่างของเธอก็ถูไถไปกับผ้าไหม

“คุณเสร็จแล้วเหรอ? หื้ม?” เสียงที่ขึ้นจมูกของลุคนั่นทำให้มันฟังดูเย้ายวนและเร้าอารมณ์

ร่างกายของเบียงก้าสั่นเทิ้มอีกครั้ง

เบียงก้าเริ่มที่จะสิ้นสติและจมดิ่งไปอีกครั้ง ราวกับว่าเธอสิ้นสติและไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ร่างกายของเธออ่อนไหวจนเธอต้องมาในตอนที่เขาสัมผัส...

หลังจากสิ้นสุดการจูบที่ไม่รู้ว่านานเพียงใด ร่างของเบียงก้าก็นอนลงอย่างนุ่มนวล

ชายหนุ่มเดินไปยังห้องน้ำ เสียงน้ำไหลดังออกมาทันทีที่เขาเปิดก๊อก

ลุคล้างมือของตัวเอง นิ้วของเขาทั้งเรียวยาวและงดงาม นิ้วที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งนั้นประกอบไปด้วยข้อต่อที่ชัดเจน เขาหยิบสบู่ออกมาก่อนจะล้างทีละนิ้ว

ลุคมองไปที่นิ้วชี้และนิ้วกลางข้างซ้ายที่เพิ่งเข้าไปในตัวเธอด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าที่ยังคงลุกโชนอยู่ภายในแววตา จดจำในทุกสิ่งที่ตัวเองได้ทำ แล้วจึงเช็ดมือด้วยทิชชู่เปียก

อันที่จริงแล้วเขาไม่ได้ต้องการที่จะทำความสะอาดเลยสักนิด

ลุคกลับมายังห้องนอน เขาเดินไปที่เตียงแล้วกอดเธอไว้ ก่อนจะสวมเสื้อผ้ากลับคืนให้เธอและยังไม่พลาดที่คิดจะแอบอิงไปกับเธอและมอบจุมพิตแบบฝรั่งเศสอันเร่าร้อนไปให้

หลังจากจูบนั้นผ่านไป เขาถอนริมฝีปากออกจากปากเธอ

หยดน้ำเหลวใสยืดออกจากปากของคนทั้งคู่หลังจากจุมพิตอันดูดดื่มและเร่าร้อน

...

เบียงก้าไม่รู้ว่าเธอมาอยู่ในรถของเขาได้อย่างไร

เธอยืนกรานที่จะไม่อยู่ในห้องนั้นและจะไม่ค้างคืนในที่ที่พวกเขาทำเรื่องอย่างว่ากันตั้งแต่ครั้งแรกด้วย เพราะนีน่าจะหัวเราะเยาะใส่เธอ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะเธอหัวเราะไปเสียแล้ว

มันเป็นเพราะเขาน่าดึงดูดหรือมีเสน่ห์เกินไปรึเปล่า? หรืออาจจะเพราะว่าเธอทั้งโดดเดี่ยวและสิ้นหวังเกินไปด้วย?

รถแลนด์ โรเวอร์สีดำจอดอยู่ที่ข้างถนน ลุคลงมาจากรถและตรงไปที่ร้านสะดวกซื้อที่เปิดยี่สิบสี่ชั่วโมง เขาเดินตรงเข้าไปที่แผนกของใช้สำหรับผู้หญิง ก่อนจะคว้ากล่องสำหรับชุดชั้นในมาหนึ่งกล่อง

พนักงานที่อยู่ในหน้าที่จ้องมองชายร่างสูงที่เพิ่งเข้ามาและเธอตกใจมากจนลืมทักทายเขา

ในเมืองเอ ผู้ชายหน้าตาดีมากมาย และใครหลายคนก็แวะเวียนมาที่ร้านสะดวกซื้อนี้ทั้งวันทั้งคืน แม้ว่าพนักงานนั้นจะเคยเห็นพวกเขาหลายต่อหลายคน แต่เธอก็ยังจับจ้องชายร่างสูงผู้มีใบหน้าที่ได้รูปและมีองค์ประกอบชัดเจน ไม่มีดาราชายคนไหนที่ดูเหมือนเขาสักคน

ลุควางกล้องชุดชั้นในลงบนเคาน์เตอร์

เขาหยิบกระเป๋าตังค์ออกมาแล้วเอ่ยถาม “ราคาเท่าไหร่?”

เมื่อพนักงานขายได้ยินเสียงอันทุ้มต่ำและน่าดึงดูดของเขา เธอนั้นก็แทบจะไร้เรี่ยวแรง เธอแอบชำเลืองมองเขาเล็กน้อยก่อนตอบ “85 หยวนค่ะ…”

ลุควางเงิน 100 หยวนแล้วเดินทางจากไป

พนักงานรับเงินด้วยมือทั้งสองข้าง ในขณะที่ดวงตายังคงจ้องมองไปที่แผ่นหลังของชายหนุ่ม เขาทั้งสูงและมีกลิ่นอายของความเยือกเย็นแต่ว่าเขา...ซื้อชุดชั้นใน...ของผู้หญิง...

ชุดชั้นใน...

รังสีแห่งความสันโดษ และอุปนิสัยของเขาที่แสดงออกมาทำให้ผู้คนคลั่งไคล้

เมื่อเขากลับมาที่รถ ลุคส่งกล่องนั้นมาให้เบียงก้า

“อะไรคะ?” เบียงก้ารู้สึกว่าร่างกายของเธออ่อนยวบลงเพราะความอ่อนแอ หลังจากเอ่ยถาม เบียงก้ายื่นมือไปรับกล่องนั้นมา

ระหว่างที่เขาทั้งสองสื่อสารกัน เบียงก้าไม่ได้มองเขาตรง ๆ เลยสักครั้ง

ไม่เข้าใจนักว่าทำไมเธอถึงได้เอียงอายเช่นนี้ ในเมื่อพวกเขาไม่ได้ทำอย่างนั้นกันเสียหน่อย เขาเพียงแค่ช่วยเธอด้วยนิ้วให้ก็เท่านั้น

เขายังรอคอยวันที่เธอจะเต็มใจให้เขาเติมเต็มเธอ

เบียงก้าก้มหน้าลงมองของในกล่องด้วยสายตาทีเล่นทีจริง ในกล่องนี้มีชุดชั้นในอยู่ถึงสามชิ้น ซึ่งเธอชอบสีและรูปแบบของมันมาก ดูเหมือนว่าเขาจะจำมันได้

ขณะที่เธอนั่งอยู่ในรถของลุค เบียงก้ารู้สึกอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ชุดของเธอถูกเขาฉีกเสียจนไม่เหลือชิ้นดีที่โรงแรมนั่น และตอนนี้เธอไม่ได้ใส่อะไรแม้แต่ชิ้นเดียว...

...

นีน่ารู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเบียงก้ากลับมา

“เธอทำงานล่วงเวลาเสร็จแล้วเหรอ? ฉันหลงคิดไปว่าเธอจะถูกเจ้านายลักพาตัวไปทำอะไรมิดีมิร้าย อะไรทำนองนั้นแล้วเสียอีก” นีน่าพูด ในขณะที่ช่วยรับกระเป๋าและแล็ปท็อปของเบียงก้าไป

“ฉันขอไปอาบน้ำก่อนนะ” เบียงก้ากล่าว ก่อนจะรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำ

นีน่าฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ขณะที่เธอมาสก์หน้าในตอนที่ดูทีวี

เบียงก้าเหนื่อยล้าและปวดเมื่อยไปทั้งตัว เมื่อนึกย้อนไปถึงเรื่องน่าอับอายที่ตัวเองทำ เธอก็ได้แต่รู้สึกอนาถใจ

หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอก็ผล็อยหลับไปบนเตียงของตัวเอง

ในตอนที่เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น เบียงก้ารู้สึกราวกับพึ่งได้หลับตาลงไปครู่เดียวเท่านั้น ในตอนที่เธอตื่นขึ้นนั้นเป็นเวลาตีสามเข้าไปแล้ว

เมื่อแบบร่างของเบียงก้ายังไม่เสร็จ ดังนั้นเธอจึงต้องตื่นตอนตีสามเพื่อทำงานชิ้นนี้ให้เสร็จ ไม่เช่นนั้นเช้านี้เธอจะไม่มีงานส่ง เบียงก้าเปิดแล็ปท็อปของตัวเองก่อนจะเห็นกล่องแจ้งเตือนปรากฏขึ้นที่มุมล่างขวา

มันเป็นอีเมลที่เพิ่งเข้ามาใหม่

เบียงก้าเปิดดูก่อนจะพบว่ามันเป็นอีเมลนิรนาม

หลังจากอ่านหัวข้อของอีเมลแล้ว เบียงก้าได้แต่อึ้งไป ลุคส่งงานที่เสร็จสมบูรณ์แล้วมาให้เธอ เขายังช่วยเธอจนจบงานให้ด้วย...

เบียงก้าพยายามจะพิมพ์บางอย่างแต่ก็นึกลังเล

หลังจากที่เธอร่างอีเมลจนจบ ใบหน้าของเธอแดงและลบมันไป

ในท้ายที่สุด เธอเพียงแค่ส่งคำขอบคุณเพียงสองสามพยางค์เท่านั้น

‘ขอบคุณค่ะ...’

และเพราะว่าเธอไม่ต้องทำงานล่วงเวลาอีกแล้ว เบียงก้าจึงกลับไปนอนต่ออีกสองชั่วโมง

เธอตั้งนาฬิกาปลุกเพื่อที่จะตื่นในเวลาตีห้าและตั้งใจว่าจะไปโรงพยาบาลเพื่อดูอาการของพ่อก่อนไปทำงาน

เธอออกไปก่อนนีน่า

ในช่วงเวลานี้บนถนนไม่มีผู้คนพลุกพล่านนัก มีเพียงร้านสะดวกซื้อและร้านยาที่เปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงเท่านั้นที่ยังคงทำการอยู่ เบียงก้าเดินไปที่สถานีรถไฟใต้ดินก่อนจะมุ่งไปที่ร้านขายยาตรงหน้าเธอแล้วเดินเข้าไป

“ขอยาคุมกำเนิดหนึ่งกล่องค่ะ” เธอบอกกับแคชเชียร์บอกอย่างอาย ๆ

เมื่อคืน เธอถูกลุคลูบไล้อยู่ระหว่างขาของตัวเองตลอด

จนของเหลวสีขาวขุ่นทำให้ผิวเธอมอดไหม้

เธอกลัวว่าอาจตั้งท้องโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ

หลังจากที่ซื้อยาคุมกำเนิดแล้วเบียงก้าเก็บลงในกระเป๋า เธอยืนอยู่อย่างนั้นไม่ยอมออกไปเพราะต้องการซื้อยาอีกชนิด ยาชนิดที่ใช้ลดอาการบวมในบริเวณนั้น

แต่ถึงอย่างนั้นเบียงก้าก็กลัวเกินกว่าที่จะเอ่ยปากออกไปเธอเดินคอตกออกจากร้านขายยา เธอไม่กล้าพอที่จะซื้อยานั่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก