พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 75

“อา…”

ฌองปิดประตูห้องน้ำที่ทำจากกระจกด้วยหลังมือเพื่อให้ได้เพลิดเพลินกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างสบายใจ เขามองลงไปที่ต้นขาที่ขาวซีดและได้สัดส่วนของมาลี พร้อมกับนิ้วเท้าที่กลมกลึงและอ่อนนุ่มของเธอ

มาลีเขย่งปลายเท้าแล้วโน้มตัวไปด้านหน้า ร่างกายของเธอกดทับไปยังตัวเขาจนไร้ช่องว่าง

“อืม เร็วเข้า…”

ฌองจับด้านหลังของศีรษะมาลีก่อนจะดันให้มันขยับมาด้านหน้า

เขากระตุ้นเธอโดยปราศจากความอ่อนโยน “เร่งมือเข้า อ๊า….เธอนี่มันซนจริง ๆ…”

เบียงก้าลงจากแท็กซี่แล้วเดินเข้าไปแถวละแวกบ้าน

มันเป็นย่านที่เก่าแก่มาก ๆ ในเมืองเอ เมื่อหลายปีก่อน พ่อของเธอซื้อบ้านที่อยู่ในละแวกนี้มันมีเพียงสองห้องนอนและหนึ่งห้องนั่งเล่น

บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยความทรงจำของเบียงก้ามากมาย ซึ่งส่วนใหญ่นั้นเป็นความทรงจำอันเลวร้าย

เมื่อเบี่ยงก้าเดินเข้าไป ที่ทางเดินเก่าที่เธอไม่เดินผ่านมันมากกว่าห้าปี เธอยังจำได้ว่าเธอย้ายเข้ามาอาศัยอยู่กับมาลีก่อนที่เธอจะเรียนจบมัธยมต้นเสียอีก

ในตอนนั้น พ่อพูดกับเธอว่า “นี่คือพี่สาวของลูก เธอแก่กว่าลูกสองปี หวังว่าลูกสองคนจะเข้ากันได้ดีนะ เข้าใจไหม?”

ในตอนนั้นเบียงก้าผู้แสนอ่อนต่อโลกยิ้มและกล่าวว่า “ตกลงค่ะ!”

มาลีเองก็กล่าว “ไม่ต้องห่วงคะพ่อ หนูจะดูแลน้องเอง”

สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนแรกที่พร้อมได้นอนด้วยกัน ผ้าห่มของเธอถูกแย่งไปในกลางดึก และก่อนที่เธอจะขอผ้าห่มคืน พี่สาวของเธอซึ่งก็ยังไม่คุ้นเคยกันนักมักอารมณ์เสียแล้วเตะเธอจนตกพื้น มันกลายเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันว่าพี่สาวของเธอกำลังหลับอยู่รึเปล่าในตอนที่ทำแบบนั้น

ศีรษะของเบียงก้ากระแทกลงบนตู้ข้างเตียง เธอมีเลือดซิบออกมาแต่ก็ทนความเจ็บปวดเอาไว้และไม่ร้องไห้

เช้าวันต่อมาพ่อของเธอสังเกตเห็นแผลแล้วถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น

คนที่ถูกเรียกว่าพี่สาวรีบวิ่งมาข้างหน้าด้วยท่าทางใจดี เธอมองลงไปเห็นใบหน้าของเบียงก้าแล้วกล่าวอย่างไม่สบายใจว่า “บี ทำไมถึงได้มีแผลที่หัวได้ล่ะ? เธอลุกจากเตียงเพื่อไปหาน้ำดื่มแล้วไม่รู้ว่าไฟอยู่ที่ไหนใช่ไหม? ต่อไปปลุกฉันสิ ฉันจะเอาน้ำมาให้เธอ”

ในตอนนั้นเธอยังเด็ก จึงไม่รู้ว่าเธอต้องทำอย่างไรหลังจากที่พี่สาวพูดแบบนั้น ถ้าคิดว่าบางทีพี่สาวของเธออาจจะหลับไม่สนิทและบังเอิญเตะเธอออกจากเตียงก็เป็นได้

บ้านเป็นของพ่อเธอ แต่นายหญิงของบ้านกลับเป็นเจนนิเฟอร์ ดังนั้น เธอจึงต้องพยายามทำตัวให้ดีเข้าไว้หากอยากมีที่ซุกหัวนอน

ไหนจะเรื่องที่พี่สาวของเธอแอบสูบบุหรี่และดื่มเหล้าในห้องนอนตอนกลางคืนอย่างที่สาว ๆ นิยม

แม้ว่าเจนนิเฟอร์จะรู้ว่าบุหรี่และแอลกอฮอล์พวกนั้นเป็นของมาลี แต่เธอเลือกที่จะตบเบียงก้าและสาปส่งเธอ “แกกล้าดียังไงจึงทำนิสัยเสียทั้งที่อายุแค่นี้?! ช่างเป็นเด็กที่ไร้การศึกษาเสียจริง! แกไม่รู้ว่าควรจะทำตัวให้ดีกว่านี้รึไง?! คิดว่าสูบบุหรี่กินเหล้านี่มันเท่มากใช่ไหม? ฉันจะกำจัดนิสัยแย่ ๆ ออกจากแกเอง!”

เพื่อปิดบังนิสัยแย่ ๆของลูกสาวเธอ เจนนิเฟอร์จึงตบหน้าเบียงก้าจนบวม

เมื่อพ่อของเธอกลับมาจากต่างประเทศ เบียงก้าเอาแต่ร้องไห้และพูดว่าเธออยากจะกลับไปอยู่กับปู่ของตัวเอง ชีวิตที่บ้านนอกนั่นน่าจะไม่ดีนัก แต่ก็คงจะดีกว่าที่นี่

ในที่สุด เธอก็ได้เข้าใจว่าแม่เลี้ยงของเธอนั้นน่ากลัวและแย่ขนาดไหน...

เบียงก้าสูดหายใจเข้าลึก ๆ และยืนอยู่ที่หน้าประตูบ้าน เมื่อเธอกดกริ่งที่ประตู เธอจึงตระหนักได้ว่ากริ่งประตูนั้นเสียและประตูก็ถูกแง้มเอาไว้ด้วย

เป็นไปได้ว่ามาลีอาจจะรู้ว่าเธอกำลังมาและเปิดไว้ให้เธอ?

เบียงก้าผลักประตูให้เปิดออกแล้วเดินเข้าไป

“อ๊ะ... เธอนี่มันร้ายจริง ๆ!”

“อือ… อือ…”

เบียงก้าไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะต้องได้ยินเสียงของผู้ชายที่มาพร้อมกับเสียงครวญครางด้วยความพอใจในขณะที่พวกเขาพูดจาลามกใส่กัน

เสียงอันน่ารักน่าชังของมาลีเอ่ยถามขึ้น “บอกก่อนสิว่าใครสวยกว่ากัน? ฉันหรือเบียงก้า? ถ้าคุณไม่บอก ฉันจะไม่ให้คุณเสร็จ…”

“เธอไง… ต้องเป็นเธอมาเสมอแหละ… ดูดเร็วสิ... อย่าหยุด…” ปากของฌองถูกสมองควบคุม สมองที่ถูกครอบงำไปด้วยความปรารถนา รู้สึกราวกับว่าร่างทั้งร่างกำลังลอยอยู่กลางอากาศ

“แล้วทำไมตอนอยู่ที่อังกฤษคุณถึงไม่เลือกฉันแต่เป็นเลือกเธอแทนล่ะ? ในเมื่อคุณบอกว่าฉันสวยกว่าเบียงก้า... ทำไมคนถึงไม่เลือกคนที่สวยกว่าล่ะ…” มาลีเอ่ยถามด้วยความเอียงอาย

ถึงจุดนี้ ฌองได้แต่รู้สึกรำคาญ เขารีบร้อนและอยากจะกดศีรษะของมาลีให้เข้ามาลึกขึ้นอีก

มาลีเองเต็มที่ใจที่ทำเช่นนั้น

สิ่งเดียวที่เหลือให้ฌองคิดคือความคิดที่สื่อผ่านคำพูดของเขาออกไป “มันเป็นเพราะว่าเธอสวยเกินไปสำหรับฉันยังไงล่ะ ฉันกลัวว่าฉันจะไม่อยู่ในสายตาของเธอ เพราะอย่างนั้นถึงไม่ไล่ตามเธอ ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องตามเบียงก้าแทน เธอน่ะงดงามราวกับเทพธิดา งดงามเกินไปสำหรับฉัน…”

คำพูดน่าขยะแขยงนี้ไม่ได้ทำให้เบียงก้าอับอายหรือโกรธเคืองแต่อย่างใด ตรงกันข้าม เธอทั้งสงบและไม่สะทกสะท้านไปกับคำเหล่านั้น

พ่อของเบียงก้าบอกกับแพทย์ว่าบัตรประชาชนของเขาอยู่ในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งของเจนนิเฟอร์ในห้องนอนของพวกเขา ชัดเจนว่าลิ้นชักนี้มีไว้สำหรับเก็บเอกสารสำคัญต่าง ๆ เอาไว้

เบียงก้าเดาว่ามาลีรู้ว่าเธอกำลังจะมา เธอถึงได้ยั่วยวนฌองเพื่อให้เขาพูดคำไร้ค่าเหล่านั้นเพื่อหวังจะยั่วยุเบียงก้า

หลังจากที่เธอเจอบัตรประชาชนที่เพิ่งต่ออายุของพ่อ เธอก็ตรวจดูอยู่นิดหน่อย

พ่อทำบัตรประชาชนหายสองครั้งในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้นำบัตรประชาชนใบใหม่นี้ติดตัวไปอีกเลย

เบียงก้านำบัตรประชาชนนั้นใส่ไว้ในกระเป๋า แล้วออกจากห้องนอนไป

มาลีรู้ว่าเบียงก้าเข้ามาด้านในแล้ว เพราะมองเห็นเธอผ่านประตูกระจกฝ้า เธอจึงแกล้งครางออกมาราวกับสุขสมอารมณ์หมายเสียเหลือเกิน...

เบียงก้าได้ยินเสียงครวญครางและหยุดเดินในทันที

เธอหันกลับไปมองสองร่างที่ทับซ้อนกันในห้องน้ำ แล้วเอ่ยปากพูดอย่างที่ไตร่ตรองไว้ก่อน “ฉันได้บัตรประชาชนมาแล้ว และกำลังจะออกไป ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะปิดประตูให้พวกคุณสองคนด้วย”

ปัง!

ประตูกระจกฝ้าสั่นเล็กน้อย เพราะฌองกระแทกหลังตัวเองลงไป

หลังจากนั้นเสียงแปลก ๆ ก็ดังออกมาจากปากของผู้หญิงคนนั้น

คิ้วของมาลีขมวดมุ่น เธอมองไปที่ฌองที่อยู่ ๆ ก็ถอยออกไป เธอโกรธเพราะกังวลว่าฌองอาจจะมีปฏิกิริยาจากการปรากฏตัวของเบียงก้า ถ้าเป็นแบบนั้นแผนการที่เธอหวังจะทำให้เบียงก้าโกรธก็จะล้มเหลว!

ฌองใส่กางเกงของเขาทันที เสียงที่เขาพยายามจะใส่หัวเข็มขัดนั้นดังท่ามกลางห้องที่เงียบ เขารู้สึกหงุดหงิดมากที่ต้องใช้เวลานานเลยในการคาดเข็มขัด

ฌองผลักประตูให้เปิดออกแล้วเดินออกไปอย่างไม่สนใจมาลีที่กำลังคุกเข่าอย่างน่าสมเพชหลังจากที่ช่วยให้เขาจนเสร็จกิจเรียบร้อย คิ้วของเขาขมวดมุ่น ในขณะที่มองไปยังเบียงก้า น้ำเสียงที่ฟังดูเจ็บปวดเอ่ยขึ้น “บี…”

เบียงก้ายังจำได้ว่ามาลีแช่งให้พ่อของเธอตายผ่านทางโทรศัพท์ เธอยังอดไม่ได้ที่จะต้องเหลือบไปมองฌองที่บัดนี้ตรงนั้นของเขาอ่อนยวบลงไปหมดแล้ว เธอยิ้ม “ทำไมไม่แข็งแล้วล่ะ อายุอานามยังไม่เลยเลข 20 ไปด้วยซ้ำ ฉันลงกลัวใจจริง ๆ ว่ากว่าภรรยาในอนาคตของคุณจะเสร็จกิจคงเป็นเรื่องยากหน่อยนะ…”

“หุบปากไปซะ นางตัวดี!”

มาลีหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันตัวเองไว้

“กล้าดียังไงไม่พูดกับฉันแบบนี้! กำพืดเดียวกันไม่ใช่เหรอ? ตีหน้าซื่อแต่เหลวแหลกกับคนอื่น! ฉันได้ยินว่าแกกับผู้ชายของแกเคยมีช่วงเวลาที่สุดแสนจะน่าประทับใจกันด้วยนิ แถมแฟนเก่าของแกก็ยังได้ยินจากปากคนนอกด้วยนะ! น่าสนใจจริง ๆ นะว่าทำไมถึงมีคนที่ไร้ยางอายอย่างพวกแกคนอยู่ด้วย!”

“แต่อย่างน้อยผู้ชายที่อยู่ในห้องฉันคืนนั้น ก็ไม่ได้อ่อนปวกเปียกเพราะได้ยินเสียงใครบางคนนอกห้องแบบนี้หรอกนะ…” เบียงก้ากล่าว

ฌองได้แต่กำหมัดและกัดฟันเมื่อนึกย้อนไปถึงเสียงครวญครางที่เขาได้ยินผ่านประตูบานนั้น

มาลีเหลือบมองฌองอย่างผิดหวัง ที่สิ่งนั้นของเขาอ่อนยวบลงทันทีเมื่อได้ยินเสียงของเบียงก้า สาปแช่งด้วยความโกรธเคือง “สกปรก!”

...

หลังจากที่เธอกลับจากระแวกนั้น เบียงก้าเรียกแท็กซี่

คำพูดของฌองที่พูดกับมาลีนั้นยังก้องอยู่ในหูของเธอ

ความรู้สึกของผู้ชายอย่างฌองนั้นช่างไร้ค่าและบอบบาง ไม่ต่างไปจากใบปลิวที่ว่อนอยู่บนถนน หากมีใครสักคนอยากได้ พวกเขาก็สามารถทำสำเนาให้ได้อย่างฟรี ๆ

เบียงก้าเอนกายลงกับเบาะของแท็กซี่อย่างเหนื่อยอ่อนจนเกือบจะหลับไป

เสียงโทรเข้าของลุคปลุกให้เธอตื่น

เธอตอบกลับไป

“พอเลิกงานแล้ว คุณมาทานอาหารที่บ้านผมไหม? ผมอยากให้คุณมาเจอกับคุณปู่คุณแม่แล้วก็คนอื่นในครอบครัวของผมด้วยน่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก