“เธอใช่… คนรักที่ลุคจะพามาแนะนำให้รู้จักอย่างนั้นเหรอ?” ซูซานเอ่ยถามด้วยน้ำตา “ภูมิหลังครอบครัวเธอเป็นยังไงบ้างล่ะ? ถ้าในอนาคตเธอผิดหวังจากสามีหลังแต่งงาน ครอบครัวเธอจะเลี้ยงดูเธอไหวรึเปล่า?”
เบียงก้าไม่รู้ว่าจะต้องตอบเธอไปอย่างไร
ในตอนที่หลุยส์แนะนำตัวเอง เขาบอกว่าเขาเป็นน้องชายต่างแม่ของลุค และมีพ่อคนเดียวกัน
นั่นอาจจะเป็นไปได้ว่า หญิงวัยกลางคนที่สวมชุดกี่เพ้าของกุชชี่คนนี้จะมีสามีคนเดียวกันกับอลิสันซึ่งเป็นแม่ของลุค
ซูซานมองสมาชิกของครอบครัวอันใหญ่โตที่มารวมตัวกันและเดินไปหาเบียงก้าทั้งที่ตัวเองคลุ้งไปด้วยกลิ่นของแอลกอฮอล์
“ระวังค่ะ” เบียงก้ารีบวิ่งเข้าไปรับซูซานที่กำลังจะล้มลงอย่างรวดเร็ว
ซูซานพิงไปกับโซฟาโดยที่มีเบียงก้าพยุงอยู่ เธอขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่สบายใจ “ดูจากรูปร่างหน้าตา ฉันมองออกนะว่าครอบครัวเธอไม่ได้พิเศษอะไร ให้ฉันแนะนำอะไรสักหน่อยนะ อย่าแต่งงานกับคนของครอว์ฟอร์ดเลย”
“กลับขึ้นห้องตัวเองไปซะ!” ชายอาวุโสยืนขึ้นและตวาดใส่ลูกสะใภ้ของตัวเอง เขาโกรธเหลือเกิน!
“ไม่!” ซูซานหันไปมองชายอาวุโสด้วยแววตาที่ดุร้าย ทุกครั้งที่เธอเมา ก็มักจะพูดเรื่องเดิม ๆให้ทุกคนฟัง เธอย้ำมันเป็นครั้งที่ร้อย “คนที่ควรจะต้องไสหัวออกไปคือนางอลิสันต่างหาก ฉันเป็นภรรยาคนแรกของแซคคารี่นะ!”
นัยน์ตาของซูซานถูกความริษยาเข้าแผดเผา เธอชี้หน้าอลิสัน ซูซานต้องการทำให้เธออับอาย “นางแพศยา! แกกำลังพยายามแกล้งทำเป็นนิ่งเฉยเพื่อตบตาใครงั้นเหรอ? แกมันก็แค่ผู้หญิงที่เต้นระบำเปลื้องผ้าแล้วก็ขายตัวอยู่ในคลับเท่านั้นแหละ! ฉันล่ะสงสัยจริง ๆ ว่าก่อนที่แกจะแต่งเข้ามาในตระกูลครอว์ฟอร์ดนี่ แกผ่านมือผู้ชายมาแล้วกี่คน แกนี่มันโชคดีจริง ๆ เลยนะที่แซคคารี่มันตาบอดจนมองไม่เห็นว่าแกมันเป็นผู้หญิงประเภทไหน!”
เบียงก้าเหลือบมองลุคด้วยแววตาว่างเปล่า
ลุคยังนั่งอยู่บนโซฟาด้วยท่าทีสงบเงียบ แม้ว่าคิ้วของเขาจะขมวดด้วยความไม่พอใจก็ตาม เขาไม่แม้แต่พยายามจะหยุดกริยาอันไร้สาระของซูซานด้วยซ้ำ เขาทำเพียงแค่สูบบุหรี่หลับตาแล้วพ่นควันออกมา
ทันใดนั้นเบียงก้าก็นึกถึงสิ่งที่เขาพูดกับเธอในสายก่อนหน้านี้ได้
“อย่ากดดันตัวเองนักเลย อันที่จริงแล้วครอบครัวผมก็ไม่ได้ดีไปกว่าคุณหรอก ถ้าคุณมองดี ๆ ก็จะรู้ว่าเราน่ะเหมือนกัน”
“เธอแน่ใจเหรอว่าจะแต่งเข้ามาในครอบครัวครอว์ฟอร์ด?” ซูซานมองเบียงก้าและพยายามเกลี้ยกล่อมเธออย่างหมดหัวใจ “เด็กน้อยเอ๋ย ตระกูลครอว์ฟอร์ดน่ะเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงมากในเมืองนี้ โด่งดังเป็นอันดับต้น ๆ เชียวนะ และถ้าเธอเลือกที่จะแต่งเข้ามาในตระกูลนี้ก็จะไม่ต่างจากการขุดหลุมฝันตัวเอง สามีเธอจะไม่แยแสเธอ หรือแม้แต่ญาติของเธอก็จะไม่แยแสเธอเหมือนกัน”
“ประเด็นที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ผู้หญิงมากมายที่จ้องจะตะครุบสามีของเธอ ไม่ว่าผู้หญิงพวกนั้นจะต่ำต้อยหรือไร้ราคาขนาดไหน บางทีผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นพวกนักเต้นระบำเปลื้องผ้าในคลับที่ยอมให้ผู้ชายจับต้องอย่างง่าย ๆ ก็ได้ เขาจะยังเก็บผู้หญิงพวกนั้นไว้แล้วชุบเลี้ยงพวกเธอไว้ราวกับเป็นลูกตัวเองอีกด้วยนะ สำหรับภรรยาอย่างเราก็มีหน้าที่แค่ต้องซื่อสัตย์และจมอยู่กับบ้าน เราต้องให้ความเคารพสามีด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะมีเกย์สักคนไว้คบเล่น ๆ ข้างนอกนั่น และบางครั้งก็ต้องถามว่าเขาสนุกมากแค่ไหน” เมื่อจบสุนทรพจน์ของเธอแล้ว ซูซานก็จับมือน้อย ๆ ของเบียงก้าเอาไว้
“นี่มันจะไร้สาระกันไปใหญ่แล้ว!” ชายอาวุโสกระแทกไม้เท้าในมือลงพื้น
เขาเงยหน้าขึ้นมองเบียงก้าแล้วเอ่ยกับเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “หนูบี คุณป้าเขาดื่มมากเกินน่ะ อย่าไปเก็บสิ่งที่เธอพูดไปใส่ใจไว้เลยนะ”
เบียงก้ามองไปที่ชายอาวุโส
“อย่าทนงให้ความอาวุโสของตัวเองไปหน่อยเลยค่ะ คุณพ่อไม่รู้รึไงคะ? ว่ากำลังปล่อยให้นายหญิงของแซคคารี่ทำให้หลานสะใภ้ของคุณพ่อเสื่อมเสียชื่อเสียงน่ะ” ซูซานยืนขึ้นและตะโกน “ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง!”
“แม่ ถ้าแม่อยากจะสร้างปัญหา ก็ขอให้เป็นครั้งหน้านะครับ!” หลุยส์โกรธเหลือทน เขากอดแม่ด้วยแรงทั้งหมดและพยายามพาเธอไปที่บันได
สาวรับใช้ถูกเรียกให้มาช่วยเขา ทั้งสองคนทั้งช่วยกันลากและดึงซูซานจนกระทั่งเธอขึ้นบันไดไปในที่สุด
ขณะเดียวกันนั้น เบียงก้าที่ยืนอยู่ชั้นล่างก็ได้ยินเสียงข้างของถูกโยนอยู่ที่ชั้นบน
หลังจากที่หลุยส์ขึ้นไปที่ชั้นบนแล้ว เขาก็ไม่ได้กลับลงมาอีก อาจจะเพราะเขากลัวว่าแม่ของตัวเองจะอะไรบ้า ๆ อีกก็เป็นได้
โฮ! เสียงร้องของซูซานดังก้องไปทั่วคฤหาสน์
ลุคบอกใบ้ให้เบียงก้าพาลูก ๆ ของเขาออกไปเล่นข้างนอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก