หลังจากหายจากอาการไอที่รุนแรง เควินพูดต่อ “ลูกลาหยุดสักสองวันได้ไหม... ไปเยี่ยมบ้านหลังเก่าของปู่ที่มณฑลเจียงซีกัน? แม่ของมาลีเองน่าจะอยู่ที่นั่นด้วย…”
“ปู่เหรอคะ?” เบียงก้ารู้สึกประหลาดใจ
‘ปู่ไม่ได้ไปญี่ปุ่นกับป้าอย่างนั้นเหรอ? ปู่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?’
เควินกุมมือของลูกเขาเพราะเกรงว่าเธอจะโกรธ เขาไอและพูดกับเธออย่างเหนื่อยอ่อน หลังจากที่บอกทุกอย่างแก่ลูก แพทย์ก็เดินเข้ามาพอดี
แพทย์มาที่นี่เพื่อเฝ้าติดตามอาการและตรวจร่างกายแต่ละวัน
“พ่อคะ หนูไปก่อนนะคะ” เบียงก้ากล่าว
เควินพยักหน้ารับ
เบียงก้าจมอยู่กับความคิดของตัวเอง เธอพยายามแยกแยะเรื่องที่พ่อพูดเกี่ยวกับปู่ ในตอนที่เธอเดินออกจากโรงพยาบาล
ในวอร์ดผู้ป่วย เควินเหยียดแขนออกให้แพทย์เจาะเลือดในขณะที่มืออีกข้างกำลังรับโทรศัพท์
“สวัสดีครับ ผมเควิน” เควินใจจดใจจ่ออยู่กับเข็มที่ติดอยู่ที่แขนจึงไม่เห็นว่าใครเป็นคนโทรมา
น้ำเสียงของอลิสันแหบแห้งราวกับขาดน้ำมาหลายวัน “ลูกสาวคุณชื่ออะไร?”
“ทำไมคุณต้องถามด้วยล่ะ?” น้ำเสียงของเควินเปลี่ยนไป
ในตอนที่เธอเอ่ยถาม เควินรู้สึกโกรธขึ้นมาทันทีที่เขาตระหนักได้ว่าคนไร้มารยาทที่โทรมาคือ อลิสัน!
ตั้งแต่เล็กจนโต อลิสันที่เป็นแม่ไม่เคยถามชื่อของลูกตัวเองเลยสักครั้ง!
“หยุดไร้สาระแล้วตอบฉันมา!” อลิสันตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
“เบียงก้า เรย์นไง ชื่อเบียงก้าที่แปลว่าสีขาว เพราะฉันอยากให้ลูกสาวโตมาอย่างบริสุทธิ์ ขาวสะอาด ไม่เหมือนเธอ! เธอมันผู้หญิงสกปรกโสโครก!” หลังจากเควินด่าอลิสัน เขาก็อ้าปากค้างเพื่อหายใจ “ตอนนี้เธอมีแผนจะทำอะไรก็ว่ามา?!”
ณ คฤหาสน์ครอว์ฟอร์ด
โทรศัพท์ในมือของอลิสันร่วงลงจากมือที่จู่ ๆ ก็ไร้เรี่ยวแรงของเธอ
โทรศัพท์นั้นร่วงลงไปบนพื้น
‘เบียงก้า’
เควินบอกว่าชื่อของลูกสาวเขาคือเบียงก้า
ทั้งหมดนี่เป็นแผนการแก้แค้นแม่ตัวเองของเบียงก้ารึเปล่า?
‘เธอวางแผนการเยี่ยมไว้ล่วงหน้าหรือไม่?’
อลิสันหัวเราะออกมา ‘เบียงก้าอายุแค่ 24 ปี แต่ดูเหมือนว่าใบหน้าใสซื่อของเธอจะไม่ใช่สิ่งที่เธอเป็นสินะ! เธอกำลังหลอกเราทั้งคู่! ’
...
ลุคตื่นขึ้นในตอนที่ได้รับสายของเบียงก้าในตอนเช้าตรู่
“ขอโทษค่ะ แต่ฉันสัญญาว่าจะไปทำอาหารเช้าให้พวกคุณ ดูเหมือนฉันจะยุ่งนิดหน่อยและไปไม่ได้แล้ว คุณช่วยบอกลานี่กับเรนนี่แทนฉันทีได้ไหมคะ?” หลังจากที่เธอพูด เธอก็วางสายไป
หัวหน้าแผนกยังไม่มาที่ทำงาน ดังนั้น เบียงก้าจึงต้องโทรไปแจ้งเรื่องการลาหยุดของเธอ
เมื่อเธอนึกไปถึงปู่ที่เธอไม่ได้เจอหน้ามากว่าห้าปี มือของเธอก็สั่นเทาขึ้น น้ำตาไหลออกมาโดยไร้สัญญาณเตือน ชายชราวัย 70 เศษที่สุขภาพไม่ดีนักต้องอาศัยอยู่ที่บ้านนอกนั่นคนเดียว
ปู่ชุบเลี้ยงเธอมาตั้งแต่แบเบาะ
เขาเป็นคนที่ใกล้ชิดกับเธอที่สุด ใกล้ชิดเสียยิ่งกว่าพ่อของเธอด้วยซ้ำไป
ในทางกลับบ้านเช่า เธอโทรไปแจ้งสาเหตุการลาหยุดของตัวเองอยู่หลายครั้ง เธอแจ้งแก่หัวหน้าแผนกของตัวเองให้ทราบถึงเหตุผลเช่นเดียวกับที่บอกซูซึ่งเป็นหัวหน้าทีมของเธอให้ทราบเช่นกัน ในท้ายที่สุด เธอบอกนีน่าว่าเธอจะไม่กลับไปนอนที่บ้านในคืนนี้และจะไม่อยู่ไปอีกสองสามวันด้วย
ในตอนที่ลุคโทรหาเบียงก้า เธอกำลังติดสายอยู่กับคนอื่น
เบียงก้าซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูงผ่านโทรศัพท์มือถือของตัวเอง และเลือกซื้อตั๋วขบวนพิเศษ
เธอกุลีกุจอเก็บเสื้อผ้าและของใช้ประจำวัน ก่อนจะรีบออกจากบ้านไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก