“คุณพูดว่าอะไรนะ?”
เบียงก้าตัวแข็งทื่อ
อลิสันจะต้องล้อเล่นกับเธอแน่ ๆ
บางที ผู้หญิงที่ร่ำรวยคนนี้อาจจะเกลียดเธอเข้าไส้และต้องการแยกลุคออกจากเธอ แต่คำโกหกของเธอก็ไม่ฟังไม่ขึ้นสักนิด
“ฉันบอกว่าเธอเป็นลูกสาวของฉัน ชัดพอยัง?” หลังจากที่พูดจบ อลิสันก็หยิบถ้วยกาแฟขึ้นมา เธอจิบแล้วเงยหน้าขึ้นด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ “ดังนั้น เธอจึงคบหากับลุคไม่ได้”
เบียงก้าจ้องมองใบหน้าของอลิสัน มือของเธอจับถ้วยกาแฟอย่างสั่นเทาจนเกิดเหงื่อที่เย็นยะเยือกบนฝ่ามือมากขึ้น
เธอไม่เคยเล่าให้อลิสันฟังว่าเธอสูญเสียมารดาผู้ให้กำเนิดไปตั้งแต่เด็ก 'อลิสันรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร? เป็นไปได้ไหมว่าลุคจะบอกเธอ?’
เบียงก้านิ่งเงียบด้วยความประหลาดใจ
เธอจำได้ว่า อลิสันเป็นคนที่ทำให้ซูซานกับแซคคารี่ พ่อของลุคต้องแยกจากกัน หลังจากนั้น อลิสันก็ประสบความสำเร็จจนเธอได้รับตำแหน่งของซูซานในตระกูลไป
ตั้งแต่ตอนที่เบียงก้ายังเด็ก เธอมักจะเคยได้ยินเพื่อนบ้านพูดถึงแม่ผู้ให้กำเนิดที่หนีตามผู้ชายรวยไปมาโดยตลอด
พวกเขาพูดว่าเศรษฐีคนนั้นสามารถให้แม่ของเธอมีชีวิตที่ดีขึ้นได้
จากคำพูดเหล่านั้น ดูเหมือนจะมีความเป็นไปได้บ้างเล็กน้อย
แล้วถ้าหากว่ามันเป็นความจริงล่ะ?
มีผู้หญิงเห็นแก่ตัวมากมายที่หนีครอบครัวไปหาผู้ชายที่ร่ำรวยจนได้กลายเป็นนายหญิงบนโลกใบนี้ เธอจะเป็นแม่แท้ ๆ ของเบียงก้าได้อย่างไร?
เบียงก้าส่ายหน้าและทำใจยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ เธอไม่เชื่อ!
อลิสันจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเบียงก้าและโจมตีจุดอ่อนของเธออีกครั้ง “บี ฉันไม่เคยถามชื่อเธอจากพ่อของเธอเลยนะ จนเธอบอกฉันว่า นามสกุลของเธอคือ เรย์น ตั้งแต่นั้นมา ฉันก็เกิดความสงสัยและกังวลมากว่าเธอจะมีความเกี่ยวข้องกับเควิน เรย์น”
“เพราะว่าลุคอยู่ที่นั่นด้วย ฉันจึงไม่อยากถามเธอต่อหน้า ฉันเคยคิดว่าเป็นเพราะเธอรู้จากเควินว่าเธอเป็นลูกสาวฉัน ดังนั้น เธอจึงจงใจเข้าหาลุคและหลอกล่อเขาเพราะว่าเธอต้องการเข้าหาฉัน ผู้หญิงที่ทอดทิ้งพ่อและเธอไป...”
เมื่อพูดจบ ใบหน้าของอลิสันก็มืดมนลง
“แต่ดูเหมือนเธอจะไม่รู้ว่าเธอเป็นลูกสาวฉัน และเธอก็ไม่ได้เข้าหาลุคเพื่อแก้แค้นฉันด้วย” ใบหน้าของอลิสันสงบนิ่งลง
เบียงก้าไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ เช่นเดียวกับตอนที่เธอไม่สามารถยอมรับความจริงเรื่องพ่อของเธอที่กำลังป่วยเป็นมะเร็งตับได้ เธอส่ายหน้าและไม่ยอมรับ “คุณอย่าพยายามโกหกฉันจะดีกว่า คำโกหกของคุณนั้นไร้สาระเกินไป เก็บเอาไว้หลอกเด็ก ๆ เถอะค่ะ”
“เรื่องโกหกไร้สาระเหรอ? เธอคิดว่าฉันกลายเป็นภรรยาของอดีตประธานบริษัทที คอร์ปอเรชั่นด้วยการพูดเรื่องไร้สาระและเรื่องโกหกอย่างนั้นเหรอ?” อลิสันเลิกคิ้วและต่อว่าเธอ
เบียงก้าจ้องมองอลิสันและสับสนเล็กน้อย
ไม่เพียงแต่อลิสันจะสามารถเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของพ่อของลุคได้ แต่เธอยังจบลงด้วยการเป็นคุณนายครอว์ฟอร์ดและได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไปอีกด้วย
แล้วผู้หญิงเจ้าเล่ห์เช่นนี้จะไม่ฉลาดได้อย่างไร?
และผู้หญิงที่ฉลาดจะไม่สร้างเรื่องไร้สาระขึ้นมาเพื่อหลอกลวงผู้อื่น
ถึงแม้ว่าเธอจะโง่ในสายตาอลิสัน แต่ว่าลุคก็เป็นคนที่ฉลาดอยู่เสมอ
ดังนั้น ถ้าหากว่าอลิสันโกหกเธอจริง ๆ เรื่องนี้ก็จะต้องถูกเปิดเผยในไม่ช้าอย่างแน่นอน
หลังจากที่เบียงก้าครุ่นคิด เธอก็หลับตาลง จากนั้นร่างกายของเธอก็เย็นเยียบอย่างน่ากลัว
นี่หมายความว่า อลิสันเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดของเธอจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?
เธอนั่งนิ่งและสงบสติอารมณ์อยู่นานกว่าสิบนาที แต่แล้วไม่นาน เบียงก้าก็ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอหยิบกระเป๋าและลุกขึ้น จากนั้นเธอก็หันหลังเดินออกจากร้านไป
"หยุดก่อน!" อลิสันเอ่ยเรียกเธอ
เบียงก้าหยุดเดิน
อลิสันหยิบกระเป๋าของเธอขึ้นมา จากนั้นเธอก็หยิบเงินสดออกมาและวางเอาไว้บนโต๊ะ เธอเดินไปหาเบียงก้าอย่างสง่าและพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจและอยู่ในที่ของเธอ เธอควรจะจัดการเรื่องนี้อย่างมีเหตุผลนะ และที่สำคัญ เธอควรจะรู้ว่าต้องทำยังไงกับลุคนะ ถ้าไม่งั้น เธอได้ทำร้ายชีวิตเขาแน่!”
เบียงก้าเงยหน้าขึ้นและมองหญิงวัยกลางคน
ในขณะที่เธอรู้สึกลำบากใจและเกือบจะครองสติไม่อยู่ ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ากลับสงบนิ่งด้วยแววตาที่ไร้อารมณ์ราวกับว่าเธอกำลังพูดถึงเรื่องทั่วไปที่ไม่มีความสำคัญ
นี่คือแม่ผู้ให้กำเนิดเธอจริง ๆ เหรอ?
เบียงก้าควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเรื่องราวเป็นไปตามนี้จริงหรือไม่
ถ้านี่คือแม่ของเธอจริง ๆ แต่ทำไมเธอถึงได้ดูเย็นชาเมื่อต้องเผชิญหน้ากับลูกสาวของเธอเช่นนี้? ไม่มีอารมณ์ใด ๆ ในสายตาของเธอเลย เธอดูไร้ความรู้สึกโดยสิ้นเชิง!
เบียงก้าปาดน้ำตาและก้มหน้าลง อันที่จริงมันก็ถูกต้องแล้ว ทำไมเธอจะต้องคาดหวังว่าแม่ที่ทอดทิ้งเธอไปจะยังมีความรู้สึกใด ๆ ให้เธอด้วย? ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยกลับมาหาเธอเลยตั้งแต่ที่คลอดเบียงก้าออกมา
เพราะถ้าหากว่าเธอไม่เลือดเย็นเช่นนี้ เธอก็คงจะไม่ใจร้ายขนาดนี้
ความรู้สึกอันน่าสมเพชยังคงแผ่ซ่านอยู่ภายในใจในขณะที่เบียงก้าเดินลงไปยังชั้นล่าง
อลิสันยังคงเดินตามเธอลงมา
เบียงก้าเรียกรถแท็กซี่และขึ้นรถไป เธอยังคงร้องไห้ในขณะที่พูดกับคนขับรถว่า "ไปโรงพยาบาลพาราเมาท์ค่ะ"
คนขับรถมองเธอด้วยความประหลาดใจแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร จากนั้น เขาก็กดมิเตอร์และขับรถออกไป
ที่ด้านหลัง อลิสันเรียกรถแท็กซี่เช่นกัน
เธอไม่ได้ขับรถไปเองเพราะเธอกลัวว่าจะมีคนจำรถของเธอได้ ดังนั้นเธอจึงนั่งแท็กซี่และบอกคนขับรถให้ขับตามรถแท็กซี่ของเบียงก้าไป
น้ำตาของเบียงก้าไหลออกมาราวกับลูกปัดที่หลุดออกมาจากสร้อยคอที่ขาดจนไม่สามารถควบคุมมันได้
'เป็นไปได้อย่างไร?'
เธอกำลังรู้สึกสับสน
ลุคกลับมาที่เมืองเล็ก ๆ เพื่อเข้าเรียนชั้นมัธยมปลาย เขามีรูปร่างที่สูงและหล่อเหลา เขาเป็นที่หมายตาของเด็กหญิงในโรงเรียน
เมื่อลุคได้ให้สัมภาษณ์พนักงานในวันนั้น เธอก็ถูกตั้งคำถามส่วนตัวที่แปลกประหลาด
ลุคกอดจูบเธอในขณะที่เขาสารภาพกับเธอว่าเขาชอบเธอมานานแล้ว และในที่สุด เขาก็เป็นอิสระ เขาเป็นอิสระจากการตัดสินใจของผู้ใหญ่ในครอบครัวของเขา และในที่สุด เขาก็สามารถเปิดใจและรักเธอได้อย่างเปิดเผย
ลุคทำบางอย่างกับเธอที่ในห้องสูทของโรงแรม…
เหตุการณ์เหล่านั้น
เบียงก้าทรุดตัวลง เธอรู้สึกเหมือนกำลังขาดอากาศหายใจ เธอจับคอที่รู้สึกเจ็บแสบด้วยมือทั้งสองข้างและส่ายหน้าอย่างต่อเนื่อง จากนั้นเธอก็สะอื้นไห้ออกมา
“คุณผู้หญิง คุณเป็นอะไรรึเปล่าครับ?” คนขับรถแท็กซี่ถามด้วยความเป็นกังวล
'เธอต้องทุกข์ทรมานมากขนาดไหน ถึงได้เสียใจมากเช่นนี้?'
ในที่สุด เบียงก้าก็ร้องไห้ออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
คนขับรถแท็กซี่จ้องมองเธอด้วยความเป็นกังวลในขณะที่เขายังคงขับรถต่อไป เขาครุ่นคิดกับตัวเองว่า ‘หรืออาจจะเป็นเพราะว่าคนในครอบครัวของเธอเสียชีวิต เธอจึงร้องไห้อย่างหนักและยังไปโรงพยาบาลอีกด้วย ถ้าไม่เช่นนั้นเธอจะเสียใจมากขนาดนั้นได้ยังไง?’
ณ ทางเข้าโรงพยาบาลพาราเมาท์
เบียงก้าเดินลงมาจากรถแท็กซี่ ในขณะที่อลิสันเองก็มาถึงแล้วเช่นกัน
"เข้าไปด้วยกัน" อลิสันพูดในขณะที่เธอเอื้อมมือไปคว้าแขนเบียงก้าไว้
เบียงก้ากัดฟันแน่น เธอสะบัดมือออกจากอลิสันในขณะที่เธอจ้องมองผู้หญิงที่ทำให้เธอเจ็บปวดอย่างดุเดือด…
“ฉันรู้ว่าพ่อของเธออยู่ที่นี่ และถ้าเธอไม่อยากให้เขาต้องตายเพราะความโกรธ เธอก็ควรจะระงับอารมณ์ของเธอและคิดหาข้อแก้ตัวให้ดี จากนั้น เธอจะพิสูจน์ดูก็ได้ว่าฉันเป็นแม่แท้ ๆ ของเธอจริงรึเปล่า” อลิสันกล่าวอย่างมีเหตุผล
ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของเบียงก้าก็ดังขึ้น
เธอเป็นเหมือนกระต่ายตัวน้อยที่ได้รับบาดเจ็บ ในขณะที่กำลังพยายามป้องตัวเองจากมนุษย์ใจร้าย
เมื่อเธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเธอก็เห็นชื่อของลุค แต่เธอก็ไม่ได้รับสาย เธอก้มหน้าลงและกำโทรศัพท์แน่น ริมฝีปากของเธอสั่นสะท้าน จากนั้นน้ำตาในดวงตาก็หลั่งไหลลงมาอย่างควบคุมไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก