เบียงก้าคาดไม่ถึงว่าลุคจะพาเด็กน้อยสองคนไปดูภาพยนตร์แนวอวกาศเอเลี่ยนอย่างเรื่องไลฟ์
ถึงแม้ว่าแม่ไม่เคยดู แต่เคยเห็นเพื่อนร่วมงานและอดีตเพื่อนร่วมชั้นหลายคนโพสต์เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยบอกว่าฉากบางส่วนในภาพยนตร์เรื่องนี้ น่ากลัวและนองเลือดมากมายขนาดไหน บางคนถึงกับบอกว่าเป็นภาพยนตร์น่าขนลุกมากกว่าเสียอีก
เบียงก้าเหลือบมองที่ลุคและไม่พูดอะไร เธออุ้มเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขนและเดินก้มศีรษะเข้าไปในคฤหาสน์
เรนนี่แอบอิงบนไหล่ของน้าบี แต่ดูเหมือนเธอจะรู้สึกความรู้สึกบางอย่างได้เมื่อเดินผ่านพ่อของเธอ เธอเงยหน้าขึ้นและแลบลิ้นใส่หน้าผู้เป็นพ่ออย่างจัง
ลุค "..."
อลิสันยืนอยู่บนระเบียงบนชั้นสอง และมองไปยังทางเข้าหลักชั้นล่างด้วยท่าทางที่รังเกียจ
'ฉันบอกให้เธออยู่ห่างจากลุคไม่ใช่รึไง? ทำไมยังเสนอหน้ามาที่นี่อยู่อีก? ความละอายแก่ใจเคยสลักในสมองบ้างไหม?
'ยังกล้าทำตัวเหมือนแบบครอบครัวสุขสันต์สามคนพ่อแม่ลูกอยู่เลย!'
หลังจากที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ อลิสันปรับสีหน้าของเธอและลงไปข้างล่าง
ชายชราสองคนในสวนก็เห็นเหตุการณ์ที่ประตูเช่นกัน
ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดหัวเราะและถอนหายใจด้วยความโล่งอก "ฉันรอคอยวันนี้มาเกือบห้าปีแล้วนะ"
“คนหัวหงอกอย่างเรา ๆ ใช้ชีวิตไปมันก็เป็นเรื่องยากนัก แต่พอได้เห็นความสุขของคนรุ่นหลังก็นับได้ว่าดีนักนะ” พ่อเฒ่าเรย์นย้ายหมากตัวสุดท้ายไปรุกฆาตหมากตัวสีขาวของผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ด
แม้ว่าผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดพ่ายแพ้ในเกมนี้ แต่เขาก็ยังดูมีความสุข
เหตุการณ์ตรงทางเข้าก็มีความสุขไม่แพ้กัน
ก่อนที่บีจะเข้าประตู เธออุ้มเจ้าหญิงน้อยเอาไว้ในอ้อมแขน และเจ้าหญิงน้อยก็เกาะติดกับเธอแน่น ราวกับลูกเพิ่งพบแม่ที่เพิ่งกลับมาหลังจากเดินทางมานาน
สำหรับลุค เจ้าหลานชายใจด้านชา เขายืนด้วยความสง่างามอยู่มุมหนึ่ง เขาค่อย ๆ ละทิ้งบทบาทการเป็นผู้นำตระกูลไปอย่างช้า ๆ โดยไม่รู้ตัว และกลายเป็นสามีที่ไม่รู้ว่าจะยอมรับความผิดพลาดของตนกับภรรยาและลูก ๆ อย่างไร
“บีมาเหรอ?” อลิสันลงไปชั้นล่างและทักทายเบียงก้าด้วยรอยยิ้มอันเป็นมิตร
เบียงก้านิ่งงัน
อลิสันมองดูชายชราสองคนที่ยังคงยิ้มและพูดว่า “บี มากับฉันหน่อยสิ ฉันมีอะไรจะให้ด้วย
ครั้งที่แล้วที่เจอกัน ฉันรีบร้อนเลยไม่มีเวลาให้ของขวัญต้อนรับเธอ"
หลังจากได้ยินเช่นนั้น จนแล้วจนรอด เบียงก้าก็เงยหน้าขึ้นและมองที่อลิสัน
'ของขวัญต้อนรับงั้นเหรอ?'
เธอกลัวว่านั่นคงเป็นเพียงข้ออ้างที่จะลากเธอไปคุยเป็นการส่วนตัวเสียมากกว่า
“คุณผู้หญิงครับ เรื่องของขวัญต้อนรับอะไรนั้นไม่เป็นไรหรอก!” พ่อเฒ่าเรย์นไม่ต้องการให้หลานสาวแสนน่ารักรับของมีค่าใด ๆ จากตระกูลครอว์ฟอร์ดเลย เขาคิดว่าสิ่งเหล่านั้นควรจะเป็นหลังจากที่ทั้งสองตบแต่งกันเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่า อนึ่ง ทั้งสองยังไม่ได้หมั้นหมายกันด้วยซ้ำ
“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องหยุดความตั้งใจของเธอก็ได้!” ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดโบกมือให้อลิสันลูกสะใภ้ของตน และโบกมือเพื่อให้เธอเพิกเฉยต่อสิ่งที่พ่อเฒ่าเรย์นกล่าว เขาตั้งใจจะขอให้เธอพาบีขึ้นไป เพราะอย่างไร ก็ต้องให้ของขวัญต้อนรับแก่เธออยู่ดี
เมื่อผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดมองย้อนกลับไป เขาก็พูดกับชายชราเรย์นว่า “เราถือว่าบีเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ในนามของทุกคนในครอบครัวครอว์ฟอร์ด ฉันยอมรับหนูบีนะ คุณเป็นปู่นะ ดังนั้นอย่าเข้าไปยุ่งกับเรื่องของแม่สามีกับลูกสะใภ้เลยเถอะ”
เมื่อผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดเอ่ยเช่นนี้ เรื่องนี้ก็ฟังดูจริงจังมากขึ้นเนื่องจากเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้
พ่อเฒ่าเรย์นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาคิดว่ามันสมเหตุสมผลแล้วที่เขาไม่ปะทะคารมเข้ากับเขา
เรนนี่ต้องปล่อยมือจากน้าบีไปเล่นชิงช้ากับพี่ชายของตน
ณ ห้องชั้นบน
อลิสันหยิบกล่องเครื่องประดับที่มีสร้อยคอประดับเพชรออกมา
เธอเปิดกล่องและยื่นให้เบียงก้าดู “ฉันได้สร้อยคอนี้จากการเข้าร่วมงานการกุศลในนามของลุค ฉันประมูลมาได้ในราคาหกล้านน่ะ ตอนนี้ฉันจะให้สร้อยคอนี้แก่เธอนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก