พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 94

ฌองเดินออกจากห้องไปรับประทานอาหาร

นีน่าก็ออกไปกับเขาด้วย เธอบอกเขาว่าเธอขอล้างมือในห้องน้ำก่อน หลังจากที่แน่ใจว่าพี่ชายนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว เธอก็แอบเข้าไปในห้องพี่ชายอีกครั้ง

เธอหยิบกระเป๋าแล็ปท็อปขึ้นมา และหมุนไปหมุนมาอยู่ครู่หนึ่ง กระนั้น เธอจึงเข้าใจได้จากนั้นว่าเธอจำเป็นที่จะใช้รหัสผ่านเพื่อเปิดกระเป๋าใบนี้

วัสดุของกระเป๋าคอมพิวเตอร์เป็นแบบพิเศษ ซึ่งไม่ได้ทำมาจากผ้าธรรมดา หากใช้กรรไกรตัดก็คงจะไม่ขาดเป็นแน่

“ไอ้พี่กะล่อน อย่าให้จับได้นะว่าทำเรื่องอะไรเลว ๆ อยู่น่ะ” นีน่าโกรธมากจนอยากจะทุบแล็ปท็อปของเขาเป็นเสี่ยง ๆ

...

เวลากลางคืนล่วงเลยไป

เรนจ์โรเวอร์สีดำค่อย ๆ ขับไปตามถนนที่มีการจราจรหนาแน่น

ลุคขับรถอย่างตั้งใจ เขาสวมชุดสูทสีดำและเสื้อเชิ้ตสีขาวซึ่งดูเหมือนว่านั้นจะทำให้ท่าทางที่เอาจริงเอาจังและยากที่จะเข้าถึงยิ่งดูเย็นชายิ่งขึ้นไปอีก

ความเย็นชาตามวิสัยคือภาพจำแรกที่ชายคนนี้มีให้ผู้คนรอบข้าง

เบียงก้านั่งเงียบ ๆ ในที่นั่งผู้โดยสาร

“จะว่าอะไรไหมถ้าจะขอสูบบุหรี่หน่อย?” ลุคขออนุญาตเธออย่างสุภาพบุรุษ

เนื่องจากเขาเอ่ยถามอย่างสุภาพอย่างไม่เคยเป็น เบียงก้าจึงอยู่ในท่าทีอึดอัดโดยไม่มีเหตุผล เธอเพียงตอบกลับสั้น ๆ "จะทำอะไรก็ทำ คุณครอว์ฟอร์ด"

ทั้งสองคนที่เคยสนิทสนมกันก็ดูห่างเหินกันไปในทันใด

สีหน้าของลุคดูไม่ค่อยดีตลอดทั้งคืน เมื่อพวกเขาก็จอดรถตรงไฟแดง ลุคก็จุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ

หลังจากรถหยุด เบียงก้ารู้สึกถูกสะกดด้วยอะไรบางอย่าง

เขาสูบบุหรี่ได้ครึ่งมวน ไฟสีแดงก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว ลุคจับพวงมาลัย พร้อมกับพูดขึ้นว่า "มีอะไรจะพูดกับผมไหม?"

เบียงก้ารู้สึกหนาวชาไปทั้งตัว ราวกับว่าเธอต้องพูดอะไรบางอย่างแล้วในตอนนี้

สิ่งเดียวที่เธอพูดคือ "คุณรับคุณปู่ของฉันไปที่คฤหาสน์ครอว์ฟอร์ดใช่ไหมคะ? แล้วคุณจะส่งท่านกลับตอนไหน? หรือคุณต้องการให้ฉันไปรับท่านเอง..."

แม้ว่าใบหน้าของเขาจะดูมืดมน แต่ลุคไม่โกรธเคืองอะไร “มันขึ้นอยู่กับคุณปู่ของคุณ ผมบังคับเขาไม่ได้”

จากที่เขาพูด แสดงว่าเขาไม่ได้บังคับให้ชายชราไปที่คฤหาสน์ครอว์ฟอร์ด และมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขา ชายหนุ่มหมายความว่าเขาไม่ได้ตั้งใจบังคับฝืนใจชายชราแต่อย่างใด

เบียงก้าไม่ต้องการสร้างสงครามประสาทที่ไร้ความหมายนี้อีก เพราะเธอไม่ต้องถูกเขาปลุกปั่นความคิดอีกแล้ว

ถ้าตั้งใจที่จะแยกทางกัน ทั้งสองก็ควรจะทำตั้งแต่เนิ่น ๆ เสีย

เพราะมันเป็นสิ่งที่เธอต้องการบอกเขาแบบตัวต่อตัว

เมื่อลุคขับมาถึงย่านทางเข้าใกล้บ้านของเบียงก้า เขาจอดรถไว้ข้างถนน

ก่อนที่เบียงก้าจะลงจากรถ เธอพยายามสงบสติอารมณ์ให้มากที่สุด เธอพยายามตัดขาดกับโชคชะตาที่ผิดปกติและเป็นไปไม่ได้ของพวกเขาทิ้ง

ขณะที่เบียงก้าจ้องมองไปด้านหน้า เธอพูดอย่างแข็งกร้าวว่า "มาจบเรื่องนี้กันด้วยดี และเลิกกันอย่างเป็นทางการเถอะค่ะ"

หลังจากที่เธอพูดอย่างนั้น เธอก็เปิดประตูรถและเดินออกไปทันที

เธอทนไม่ได้ที่จะเผชิญหน้าเขา

ลุคนั่งในรถมองผ่านกระจกหลังไปยังหญิงสาวหลังเรียวยาวที่เพิ่งเข้าไปยังตัวอาคาร เขากำพวงมาลัยไว้แน่น ขณะที่สีบนนิ้วมือค่อย ๆ จางลง กลายเป็นสีซีดจาง

เบียงก้ากลับบ้านแล้ว

มีเธอเพียงคนเดียวในห้องแสนเงียบงัน มันว่างเปล่าเหมือนหัวใจที่อ้างว้างของเธอ

ลุคเป็นกล้ามเนื้อส่วนหนึ่งในหัวใจที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะมีคนยืนกรานและบอกว่าชิ้นเนื้อนั้นโตผิดที่ ถ้ายังฝืนปล่อยให้ก้อนเนื้อนั้นเติบโตไปเรื่อย ๆ ก็รังแต่จะเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมอย่างขัดไม่ได้

เธอจะมีสิทธิ์ทำอะไรได้บ้าง?

สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือต้องตัดก้อนเนื้อนั้นทิ้งไป

และเมื่อเธอตัดก้อนเนื้อชิ้นนั้นออกไป หัวใจของเธอก็มีเลือดไหลออกมาจนท่วม…

หลังจากล้างบาปมาครั้งแล้วครั้งเล่า เธอไม่รู้ว่าแผลจะสมานกันจนหายดีหรือติดเชื้อหนักกว่าเดิม...

เบียงก้าวางกระเป๋าลงและทรุดตัวลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยล้าทั้ง ๆ ที่ห้องยังคงมืดสลัวอยู่เช่นเดิม แสงจันทร์สาดแสงเข้ามาทางหน้าต่าง

เธอต้องหลับตาลงเพราะปวดหัวอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม การพักผ่อนไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลย เมื่อเบียงก้าลืมตาขึ้นอีกครั้ง เธอบังเอิญเห็นกล่องบุหรี่บนโต๊ะกาแฟ

นอกจากนี้ ยังมีไฟแช็กอีก

เธอรู้ว่าลุคสูบบุหรี่และใช้ไฟแช็กยี่ห้ออะไร

'ตอนลุคขับรถพาคุณปู่ไปที่คฤหาสน์ครอว์ฟอร์ด เขาต้องแวะรับคุณปู่ก่อน หมายความว่าเขาทิ้งบุหรี่และไฟแช็กไว้สินะ...'

สมัยยังเด็ก ครั้งหนึ่งเธอเคยจุดยาเส้นให้กับคุณปู่ เธอเคยใช้ไม้ขีดไฟไปจุดยาเส้นให้คุณปู่ของเธออย่างมีความสุข

“คุณปู่คะ หนูต้องอายุเท่าไหร่ถึงจะสูบบุหรี่ได้คะ?” เธอคิดอย่างไร้เดียงสาว่าเด็ก ๆ เมื่อโตขึ้นต้องสูบบุหรี่ ราวกับว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทำ

ในเมืองเล็ก ๆ คนส่วนใหญ่มีนิสัยชอบสูบบุหรี่ ไม่ว่าคนผู้นั้นเป็นชายหรือหญิง นั่นเป็นเหตุผลที่เธอมีความเข้าใจแบบนั้น

คุณปู่บอกเธอด้วยรอยยิ้มพลางลูบศีรษะเธอเบา ๆ ว่า “เด็กผู้หญิงน่ะ พอโตขึ้นก็สูบบุหรี่ไม่ได้อยู่ดีนะ การสูบบุหรี่ไม่ดีต่อสุขภาพของหลาน จำไว้เสมอนะ เข้าใจไหม บี?”

"ค่ะ!" เธอพยักหน้าอย่างไร้เดียงสา

แม้ว่าคุณปู่จะบอกว่าการสูบบุหรี่ไม่ดีต่อสุขภาพ แต่เขาก็สูบอีกสองสามครั้ง

20 นาทีก่อนหน้านั้น ตอนที่ลุคนั่งอยู่บนรถ เขาก็มีอารมณ์ทุกข์ทรมานเช่นเดียวกับเธอ สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือมองออกไปนอกหน้าต่างรถและพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของเธอ ในทางกลับกัน วิธีเดียวที่เขาจะระงับตัวเองได้คือการสูบบุหรี่

'การสูบบุหรี่สามารถบรรเทาอารมณ์ซึมเศร้าของคนได้จริงหรือ?'

เบียงก้าไม่รู้ว่าท่ามกลางคืนอันเงียบเหงา แสนน่าเบื่อ และแสนทุกข์ใจเช่นนี้ ทั้งหมดที่เธอต้องการคือสูบบุหรี่และจุดบุหรี่ด้วยไฟแช็กของเขา

เมื่อลองสูบครั้งแรก เธอขมวดคิ้วและไอออกมา

กลิ่นควันลอยเข้าปากและจมูกของเธอ

มันไม่ได้สบายใจใด ๆ เลย

ความโศกเศร้าในหัวใจของเธอไม่ได้ถูกระงับ มันกลับแย่ลงไปอีก

เบียงก้าสูบบุหรี่ทั้งมวนอย่างเก้ ๆ กัง ๆ และงุ่มง่าม กว่าเธอจะรู้ตัว มันก็เหมือนกับว่าเธอสำลักอะไรบางอย่างจนน้ำตาไหลออกมา

“ลุค นายหยุดดื่มได้แล้ว...” หลุยส์คว้าขวดเหล้ารัมที่แทบจะหมดขวดออกมา

การใช้แอลกอฮอล์เพื่อขจัดความเจ็บปวดและไปเมาข้างนอกบ้าน นั่นเป็นสองสิ่งที่หลุยส์รู้ว่าผู้ชายที่เย่อหยิ่งและสูงส่งอย่างลุคจะไม่มีวันทำ

เนื่องจากเป็นคนฉลาดและมีเหตุผลอยู่เสมอ เขาจึงรู้ว่าการเมาเหล้าไม่เคยช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

ลุคไม่ได้พยายามเอาขวดเหล้าคืนจากหลุยส์

ชายขี้เมาวางแก้วลงและจุดบุหรี่ด้วยมือที่สั่นเทา

ขณะที่ลุคสูบบุหรี่ ลูกกระเดือกก็ขยับอย่างเย้ายวน

สำหรับเขา เบียงก้าเป็นเหมือนน้ำ เมื่อยามที่เขากระหาย เธอเป็นเหมือนน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตเขา เธอทำให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น และช่วยทำให้ชีวิตของเขามีสีสันขึ้นมา ส่วนเรื่องที่เธอนั้นหอมหวานและชวนลิ้มลองเท่าใดนั้นเป็นเรื่องรองลงมา

ด้านนอก ฝนเริ่มตกลงมา

หลุยส์ยืนอยู่ในห้องสวีทของโรงแรมและมองไปรอบ ๆ ไม่มีผู้หญิงผ่านเข้ามาในสายตาเลย ถึงจะมีก็พนักงานบริการหญิงเท่านั้น เขาสงสัยว่าเขาควรทำอย่างไร เขาควรกลับไปดูแลคนที่ควบคุมสติอารมณ์ตัวเองไม่ได้หรือไม่?

“ฉันควรโทรไปหาดีไหม?” นั่นคือสิ่งเดียวที่หลุยส์คิดได้

บางทีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเกี่ยวข้องกับเบียงก้า

น่าจะเป็นการดีกว่า ถ้าพวกเขาไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้ลงไป

หลุยส์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาเบียงก้า

เบียงก้าไม่ได้บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ไว้ ดังนั้นเมื่อโทรศัพท์ดังขึ้น เขาสงสัยว่าเธอจะรับสายหรือไม่

เขาไม่สามารถหยิบโทรศัพท์ของลุคมาโทรได้

“ไง เบียงก้าเหรอ? หลุยส์นะ!” หลังจากที่เธอรับสาย เขาก็รีบพูดขึ้นว่า "พี่ชายฉันดื่มเหล้า เขาดื่มมากเกินไปแล้ว คุณช่วย..."

ก่อนที่เขาจะพูดจบ เบียงก้าก็พูดตัดหน้าเขา

หลุยส์ถือโทรศัพท์และฟังครู่หนึ่ง แล้ววางสายอย่างผิดหวัง และรู้ว่าเธอจะไม่โทรกลับมาอีก

เป็นเพราะเบียงก้าพูดว่า "ต่อจากนี้ไป ฉันไม่เกี่ยวอะไรกับเขาอีกแล้วค่ะ อย่าถามว่าทำไมเพราะฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ลาก่อนค่ะ ฉันวางสายแล้ว..."

จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงการตัดสายจากเธอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก