“เบียงก้าบอกกับฉันว่า…” หลุยส์ไม่กล้าบอกความจริงกับเขา แต่เขาคิดเรื่องโกหกที่แนบเนียนพอจะหลอกลุคที่แสนฉลาดไม่ได้
ขณะที่เขาพูดอย่างนั้น เขาก็ติดชะงักอยู่และไม่สามารถพูดต่อให้จบประโยคได้
ลุคขยี้บุหรี่กับที่เขี่ยบุหรี่ขึ้นมาอย่างหงุดหงิด เขาหยิบกุญแจรถและตั้งใจจะออกไปไหนสักแห่ง
“ดื่มเหล้ามากขนาดนี้ นายจะขับรถไหวอยู่อีกเหรอ? ตื่นมาพรุ่งนี้นายจะต้องเสียใจแน่!” หลุยส์ไม่เคยเห็นลุคเมามาก่อน นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาไม่อยากให้พี่ชายประสบอุบัติเหตุ
“ถ้าจะไปไหน ก็ให้คนขับรถขับไปส่งนายเถอะ”
หลุยส์เกลี้ยกล่อมให้เขาวางกุญแจรถได้สำเร็จ
เพราะมีฝนตกหนัก ทั้งเมืองจึงถูกน้ำท่วม
ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ฝนตกหนัก ลุคไม่ยอมให้คนขับรถเป็นคนขับ และหลุยส์เองก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ตามเขาไป
เมื่อไปถึงที่ย่านอยู่อาศัยของเบียงก้า เขาก็เปียกโชกไปทั้งตัว
ชายคนนั้นกดกริ่งที่ประตูบ้านของเธอเป็นครั้งแรก ครั้งที่สอง และครั้งที่สาม...
ห้องเช่านี้ราคาไม่แพงเพราะสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานทั้งนั้น ตัวอย่างเช่นกริ่งประตูไม่ทำงาน เมื่อมีคนกดกริ่งประตูจากด้านนอก ไฟสีแดงจะกะพริบ แต่คนด้านในไม่ได้ยิน
คู่สามีภรรยาสูงอายุที่เป็นเพื่อนบ้านยังไม่หลับและรู้สึกว่ามีคนอยู่ข้างนอก
เมื่อเปิดประตูออกมาดู พวกเขาเห็นชายในชุดสูทและรองเท้าหนังยืนอยู่หน้าประตูฝั่งตรงข้าม ใบหน้าชายคนนั้นดูแข็งแกร่ง นาฬิกาบนข้อมือก็เป็นของหรู อีกทั้งยี่ห้อของโทรศัพท์ในมือทำให้เขาดูไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป...
ถึงอย่างนั้น ในขณะนั้น ชายที่ดูไม่ธรรมดาคนนั้นเปียกโชก กลิ่นแอลกอฮอล์และกลิ่นของฝน ตลบอบอวลไปทั่ว ตอนนี้ เขาดูน่าสงสารจับใจ
“ขอโทษด้วยนะครับที่รบกวนเวลาพักผ่อนของพวกคุณ” แม้ว่าลุคจะเมา แต่ก็ยังมีเหตุผล เขาไม่ได้วางท่าเป็นคนใหญ่คนโตและกล่าวคำขอโทษต่อผู้เช่าใกล้เคียง
“ไม่เป็นไรจ้ะ ว่าแต่พ่อหนุ่มตามหาใครอยู่รึเปล่าจ้ะ?”
เพื่อนบ้านจำได้ว่ามีเด็กผู้หญิงสองคนเพิ่งย้ายเข้ามา
กระนั้น พวกเขาสังเกตว่าตั้งแต่เมื่อวานห้องเช่าตรงข้ามหลงเหลือเพียงแค่หญิงสาวคนเดียว ยิ่งไปกว่านั้น เธอพาคุณปู่ของเธอจากชนบทมาอยู่ในเมืองเพื่อดูแลเขาอีกด้วย เธอดูเป็นเด็กดีและกตัญญูเหลือเกิน
"ครับ" ลุคพยักหน้า ร่างสูงโปร่งของเขายืนอยู่ท่ามกลางสายตาของเพื่อนบ้าน
แสงไฟทางเดินนั้นสลัว มีใบปลิวเกี่ยวกับการทำความสะอาดท่อระบายน้ำรอบ ๆ สถานที่นี้ติดอยู่ หญิงวัยห้าสิบปีสวมแว่นตากรอบทองมองชายหนุ่มที่ตัวเปียกโชกแล้วพูดว่า "มาหาแฟนสาวเหรอ พ่อหนุ่ม?"
ลุคกำลังจะพยักหน้าแต่นึกถึงคำพูดที่เบียงก้าทิ้งไว้ก่อนจะลงจากรถ "มาจบเรื่องนี้กันด้วยดี และเลิกกันอย่างเป็นทางการเถอะค่ะ"
เขาไม่สามารถพยักหน้าเพื่อตอบคำถามนั้นได้
ถ้าเขาบอกพวกเขาว่าเธอเป็นแฟนเก่า เพื่อนบ้านอาจคิดว่าเขามีเจตนาร้ายและมาลวนลามอดีตแฟนสาวตอนดึกก็เป็นได้
"ภรรยาเก่าน่ะครับ" ลุคคิดว่าสถานะนี้ใช้เรียกเบียงก้าได้เหมาะสมที่สุดในตอนนี้
“ภรรยาเก่างั้นเหรอคะ? คุณเป็นสามีเก่าของเธอเองหรอกเหรอ? ฉันไม่เคยยักรู้ว่าเลยเธอแต่งงานแล้ว” คุณป้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็นว่า “พวกคุณหย่ากันตั้งแต่เมื่อไหร่คะ? ดูเหมือนว่าพวกคุณสองคนจะแค่แยกกันอยู่เลย”
ลุคพยักหน้าและพูดว่า “เราเพิ่งหย่ากันเมื่อบ่ายนี้ครับ”
“เอาละ พ่อหนุ่ม งั้นคุณคงต้องใช้เวลาแล้วล่ะ อดทนไว้นะ อายุอานามก็เท่านี้เอง ตราบใดที่คุณสองคนยังมีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน ผมว่าพวกคุณทั้งสองคนจะต้องผ่านเรื่องราวนี้ไปได้แน่” ลุงพูดจบและดึงภรรยาที่ซุบซิบอยู่กลับมา
เมื่อพวกเขาปิดประตูบ้าน ป้ามองดูนวนิยายสุดคลาสสิกของต่างประเทศที่เธออ่านมาสองสามหน้า และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจพร้อมกับเอ่ยว่า “ตอนนี้ฉันรู้สึกราวกับว่าฉันอยู่ในหนังรักเรื่องหนึ่ง ฉันหวังว่าคู่รักข้างบ้านของเราจะมีตอนจบที่ดีนะ”
ลุงที่ชอบฟังเรื่องเล่าตลกขบขันของเควิน ฮาร์ต ยืนขึ้น จากนั้นขดริมฝีปากด้วยท่าทางเหยียดหยาม “คุณรู้จักพวกเขาด้วยหรือ? หรือเข้าใจสถานการณ์ของพวกเขานักรึไง? บางทีเขาอาจจะนอกใจผู้หญิงคนนั้นก็ได้ใครจะไปรู้”
"เป็นไปหรอกไม่ได้นะ" นัยน์ตาของป้าเป็นประกายด้วยแสงแห่งวรรณกรรมและศิลปะ เธอกล่าวอย่างเศร้าสร้อย “ตั้งแต่หัวจรดเท้าของเขา ฉันเห็นความรักจากดวงตาของผู้ชายคนนั้น ฉันบอกได้เลยว่ามันคือความรัก ความรักสุดหัวใจที่มีให้กับเธอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก