พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 95

“เบียงก้าบอกกับฉันว่า…” หลุยส์ไม่กล้าบอกความจริงกับเขา แต่เขาคิดเรื่องโกหกที่แนบเนียนพอจะหลอกลุคที่แสนฉลาดไม่ได้

ขณะที่เขาพูดอย่างนั้น เขาก็ติดชะงักอยู่และไม่สามารถพูดต่อให้จบประโยคได้

ลุคขยี้บุหรี่กับที่เขี่ยบุหรี่ขึ้นมาอย่างหงุดหงิด เขาหยิบกุญแจรถและตั้งใจจะออกไปไหนสักแห่ง

“ดื่มเหล้ามากขนาดนี้ นายจะขับรถไหวอยู่อีกเหรอ? ตื่นมาพรุ่งนี้นายจะต้องเสียใจแน่!” หลุยส์ไม่เคยเห็นลุคเมามาก่อน นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาไม่อยากให้พี่ชายประสบอุบัติเหตุ

“ถ้าจะไปไหน ก็ให้คนขับรถขับไปส่งนายเถอะ”

หลุยส์เกลี้ยกล่อมให้เขาวางกุญแจรถได้สำเร็จ

เพราะมีฝนตกหนัก ทั้งเมืองจึงถูกน้ำท่วม

ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ฝนตกหนัก ลุคไม่ยอมให้คนขับรถเป็นคนขับ และหลุยส์เองก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ตามเขาไป

เมื่อไปถึงที่ย่านอยู่อาศัยของเบียงก้า เขาก็เปียกโชกไปทั้งตัว

ชายคนนั้นกดกริ่งที่ประตูบ้านของเธอเป็นครั้งแรก ครั้งที่สอง และครั้งที่สาม...

ห้องเช่านี้ราคาไม่แพงเพราะสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานทั้งนั้น ตัวอย่างเช่นกริ่งประตูไม่ทำงาน เมื่อมีคนกดกริ่งประตูจากด้านนอก ไฟสีแดงจะกะพริบ แต่คนด้านในไม่ได้ยิน

คู่สามีภรรยาสูงอายุที่เป็นเพื่อนบ้านยังไม่หลับและรู้สึกว่ามีคนอยู่ข้างนอก

เมื่อเปิดประตูออกมาดู พวกเขาเห็นชายในชุดสูทและรองเท้าหนังยืนอยู่หน้าประตูฝั่งตรงข้าม ใบหน้าชายคนนั้นดูแข็งแกร่ง นาฬิกาบนข้อมือก็เป็นของหรู อีกทั้งยี่ห้อของโทรศัพท์ในมือทำให้เขาดูไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป...

ถึงอย่างนั้น ในขณะนั้น ชายที่ดูไม่ธรรมดาคนนั้นเปียกโชก กลิ่นแอลกอฮอล์และกลิ่นของฝน ตลบอบอวลไปทั่ว ตอนนี้ เขาดูน่าสงสารจับใจ

“ขอโทษด้วยนะครับที่รบกวนเวลาพักผ่อนของพวกคุณ” แม้ว่าลุคจะเมา แต่ก็ยังมีเหตุผล เขาไม่ได้วางท่าเป็นคนใหญ่คนโตและกล่าวคำขอโทษต่อผู้เช่าใกล้เคียง

“ไม่เป็นไรจ้ะ ว่าแต่พ่อหนุ่มตามหาใครอยู่รึเปล่าจ้ะ?”

เพื่อนบ้านจำได้ว่ามีเด็กผู้หญิงสองคนเพิ่งย้ายเข้ามา

กระนั้น พวกเขาสังเกตว่าตั้งแต่เมื่อวานห้องเช่าตรงข้ามหลงเหลือเพียงแค่หญิงสาวคนเดียว ยิ่งไปกว่านั้น เธอพาคุณปู่ของเธอจากชนบทมาอยู่ในเมืองเพื่อดูแลเขาอีกด้วย เธอดูเป็นเด็กดีและกตัญญูเหลือเกิน

"ครับ" ลุคพยักหน้า ร่างสูงโปร่งของเขายืนอยู่ท่ามกลางสายตาของเพื่อนบ้าน

แสงไฟทางเดินนั้นสลัว มีใบปลิวเกี่ยวกับการทำความสะอาดท่อระบายน้ำรอบ ๆ สถานที่นี้ติดอยู่ หญิงวัยห้าสิบปีสวมแว่นตากรอบทองมองชายหนุ่มที่ตัวเปียกโชกแล้วพูดว่า "มาหาแฟนสาวเหรอ พ่อหนุ่ม?"

ลุคกำลังจะพยักหน้าแต่นึกถึงคำพูดที่เบียงก้าทิ้งไว้ก่อนจะลงจากรถ "มาจบเรื่องนี้กันด้วยดี และเลิกกันอย่างเป็นทางการเถอะค่ะ"

เขาไม่สามารถพยักหน้าเพื่อตอบคำถามนั้นได้

ถ้าเขาบอกพวกเขาว่าเธอเป็นแฟนเก่า เพื่อนบ้านอาจคิดว่าเขามีเจตนาร้ายและมาลวนลามอดีตแฟนสาวตอนดึกก็เป็นได้

"ภรรยาเก่าน่ะครับ" ลุคคิดว่าสถานะนี้ใช้เรียกเบียงก้าได้เหมาะสมที่สุดในตอนนี้

“ภรรยาเก่างั้นเหรอคะ? คุณเป็นสามีเก่าของเธอเองหรอกเหรอ? ฉันไม่เคยยักรู้ว่าเลยเธอแต่งงานแล้ว” คุณป้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็นว่า “พวกคุณหย่ากันตั้งแต่เมื่อไหร่คะ? ดูเหมือนว่าพวกคุณสองคนจะแค่แยกกันอยู่เลย”

ลุคพยักหน้าและพูดว่า “เราเพิ่งหย่ากันเมื่อบ่ายนี้ครับ”

“เอาละ พ่อหนุ่ม งั้นคุณคงต้องใช้เวลาแล้วล่ะ อดทนไว้นะ อายุอานามก็เท่านี้เอง ตราบใดที่คุณสองคนยังมีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน ผมว่าพวกคุณทั้งสองคนจะต้องผ่านเรื่องราวนี้ไปได้แน่” ลุงพูดจบและดึงภรรยาที่ซุบซิบอยู่กลับมา

เมื่อพวกเขาปิดประตูบ้าน ป้ามองดูนวนิยายสุดคลาสสิกของต่างประเทศที่เธออ่านมาสองสามหน้า และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจพร้อมกับเอ่ยว่า “ตอนนี้ฉันรู้สึกราวกับว่าฉันอยู่ในหนังรักเรื่องหนึ่ง ฉันหวังว่าคู่รักข้างบ้านของเราจะมีตอนจบที่ดีนะ”

ลุงที่ชอบฟังเรื่องเล่าตลกขบขันของเควิน ฮาร์ต ยืนขึ้น จากนั้นขดริมฝีปากด้วยท่าทางเหยียดหยาม “คุณรู้จักพวกเขาด้วยหรือ? หรือเข้าใจสถานการณ์ของพวกเขานักรึไง? บางทีเขาอาจจะนอกใจผู้หญิงคนนั้นก็ได้ใครจะไปรู้”

"เป็นไปหรอกไม่ได้นะ" นัยน์ตาของป้าเป็นประกายด้วยแสงแห่งวรรณกรรมและศิลปะ เธอกล่าวอย่างเศร้าสร้อย “ตั้งแต่หัวจรดเท้าของเขา ฉันเห็นความรักจากดวงตาของผู้ชายคนนั้น ฉันบอกได้เลยว่ามันคือความรัก ความรักสุดหัวใจที่มีให้กับเธอ”

ลุงบอกกับเธอว่า “เชิญคุณไปอ่านนิยายของคุณต่อได้เลยนะ ผมจะฟังเควิน ฮาร์ตให้ลืมเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด…”

...

นีน่าโทรหาเบียงก้าแต่เช้าตรู่

“เธอแน่ใจนะว่าไม่อยากให้ฉันไปรับเธอน่ะ? เนี้ยฉันกำลังออกไปพอดี”

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันจะไปที่โรงพยาบาลน่ะ” เบียงก้าพูดกับนีน่าขณะล้างหน้า เธอเปิดลำโพงและวางโทรศัพท์ไว้บนอ่างล้างหน้า

เธอกลัวว่านีน่าจะเห็นว่าสภาพเธอดูน่าสยดสยองแค่ไหน

"ก็ได้ งั้นเธออย่าลืมกินข้าวเช้าด้วยนะ ดูแลตัวเองด้วยนะเพื่อน" นีน่ากำลังขับรถและวางสายหลังจากพูดจบ

เบียงก้าล้างหน้าและดื่มน้ำไปครึ่งแก้ว เธอไม่มีแรงและไม่มีเวลาทำอาหารเช้าด้วยซ้ำ เธอตั้งใจจะลงไปชั้นล่างแล้วซื้อขนมปังกับนมในซูเปอร์มาร์เก็ต และรับประทานไประหว่างทาง

เธอคว้ากระเป๋าและพร้อมออกไปทำงาน

กล่องบุหรี่และไฟแช็กบนโต๊ะกาแฟดึงดูดสายตาเธอ ทุกมุมของกล่องบุหรี่ชักจูงความสนใจของเธอ เธอไม่สามารถลืมความรู้สึกดี ๆ ที่ได้ร้องไห้หลังจากสูบบุหรี่เมื่อคืนนี้

เมื่อทั้งร่างของเธอจมอยู่ในควันและกลิ่นบุหรี่ที่คลุ้งไปทั่วทุกมุม ความโศกเศร้าของเธอดูเหมือนจะจางหายไปเล็กน้อย…

เธอหยิบกล่องบุหรี่และไฟแช็กขึ้นมาใส่ในกระเป๋า

ทันทีที่เธอสวมรองเท้าและเปิดประตูออกไป เธอก็ได้กลิ่นควันบุหรี่ที่คุ้นเคย วินาทีถัดมา เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นดวงตาคู่หนึ่งที่ดูเหนื่อยล้ายิ่งกว่าตัวเธอในตอนนี้

มือทั้งสองข้างของลุคอยู่ในกระเป๋ากางเกง ร่างสูงและตระหง่านของเขายืนอยู่หน้าประตู เขาคาบบุหรี่ที่เกือบจะไหม้หมดแล้วในปาก ในขณะที่ดวงตานั้นแดงก่ำ

เบียงก้าสงบสติอารมณ์นานกว่าสิบวินาที ก่อนจะยืนให้ตรงและเดินออกไป

ตอนนี้เธอได้ตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อเขาแล้ว เธอต้องทำอย่างนั้น ไม่เช่นนั้นทุกอย่างที่ทำมามันจะสูญเปล่า

ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ความสัมพันธ์ของเธอกับผู้ชายคนนั้นจะไปไกลกว่านี้ไม่ได้ น้อยคนนักที่จะกล้าข้ามเส้นของศีลธรรมและธรรมชาติ

เธอทำได้เพียงขยับถอยหลังไปพลางจ้องมองใบหน้าเย้ายวนของเขา เธอได้แต่ถอยหลังและถอยหลังไปเรื่อย ๆ

ลุคไม่ยอมให้เธอออกไปทำงาน เขาจะไม่ยอมปล่อยให้เธอจากไปเช่นกัน เขากดร่างอันใหญ่โตและแข็งแรงของเขาเข้ากับเธอ เขาใช้ร่างกายของเขาดันเธอไปที่ผนังด้านนอกประตูเมื่อเธอไม่ได้ระวังตัว

เบียงก้าไม่รู้ว่าเขายืนอยู่ตรงนั้นมานานแค่ไหนแล้ว แต่เขาสวมชุดของเมื่อวานอยู่

“ตั้งใจจะทำอะไร? เรื่องของเราจบแล้ว”

ลุครู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดเหล่านั้น เขานำบุหรี่ออกจากริมฝีปากอันเย็นชาและบอบบาง และจุมพิตเธอพร้อมมือทั้งสองข้างที่จับใบหน้านวลของเธอเอาไว้ เขาก้มศีรษะลงจุมพิตเธออย่างดุเดือดและคลั่งไคล้

เบียงก้าพยายามดิ้นให้หลุดออกมา ทันทีที่เขาจูบเธอ ใบหน้าของอลิสันและคำพูดเหล่านั้นก็ผุดขึ้นในใจเธอ...

"เอ่อ... คุณ... เอ่อ..." ไม่ว่าในกรณีใด เธอไม่สามารถผลักร่างกายที่ดื้อรั้นและโกรธของเขาออกไปได้

บุหรี่ระหว่างนิ้วของชายคนนั้นยังคงติดไฟอยู่ ควันร้อนลูบไล้ใบหูของเธอ…

หลังจากจูบกันเป็นเวลานาน ในที่สุด ลุคก็ยอมปล่อยเธอไป เมื่อเขาได้ลิ้มรสเลือดเธอในปากของเขา เนื่องจากเขาไม่กลัวที่เธอจะกัดและกระแทกเลย ปลายลิ้นของเขาจึงถูกเบียงก้าที่กำลังร้องไห้กัดอย่างรุนแรง

ลุคก้มศีรษะลงในขณะที่มีร่างของเธอติดกับเขาอยู่ ลุคมองเธอด้วยดวงตาแดงก่ำและอ่อนแรง ในขณะที่น้ำเสียงของเขาอ่อนโยน เวลาเดียวกันก็หุนหันพลันแล่นและกดขี่ เขาเอ่ยถามว่า “เกิดอะไรขึ้นน่ะ? เมื่อวันก่อนเรายังดี ๆ กันอยู่ไม่ใช่เหรอ?”

“มันไม่สำคัญหรอกค่ะ ฉันบอกคุณไปแล้วว่าเมื่อวานซืน ฉันไม่รู้ว่าฌองทำผู้หญิงท้อง…” เบียงก้าโกหกต่อมโนสำนึก เธอกลั้นน้ำตาไม่ไหลออกมาอย่างสุดกำลัง แต่ดวงตาสีแดงของเธอทรยศต่อความตั้งใจเธอ

ลุคใช้นิ้วโป้งถูแก้มที่เปื้อนน้ำตาข้างนั้น น้ำเสียงของเขาแหบแห้ง “ผมขอโทษ ตลอด 29 ปีที่ผ่านมา ผมชอบแค่คุณคนเดียว ผมไม่มีประสบการณ์ ผมเลยไม่รู้ว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงหรือด้วยวิธีไหน แถมผมยังทำให้เรื่องนี้มันแย่ลงไปอีก”

“สำหรับผม ชีวิตนี้มันยาวมาเลยนะ ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจว่าการพบหรือคบกับคนที่ไม่ใช่นั้นน่ากลัวกว่าการอยู่คนเดียวตลอดชีวิต คุณแน่ใจเหรอว่าเรา...เราไม่ใช่คนที่ใช่ของกันและกันน่ะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก