พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 96

“เราไม่ใช่คนที่ใช่ของกันและกันค่ะ” เบียงก้าบังคับตัวเองให้สบตาเขาแล้วเอ่ยอย่างจริงจัง

เธอต้องทำให้คำพูดทุกคำฟังดูน่าเชื่อถือที่สุด

ในช่วงสองวันที่ผ่านมา เธอร้องไห้อย่างหนักและมีอาการซึมเศร้า ตอนนี้มีความเศร้าโศกฝังแน่นเข้าไปในดวงตาเบียงก้า ด้วยความเสียใจที่แสดงออกผ่านแววตา ตอนเธอมองใครบางคนอย่างแน่วแน่ และพูดอะไรบางอย่างออกมา มันจึงฟังดูเป็นเรื่องน่าเชื่อ

ลุคมองลงไปในดวงตาเบียงก้า ดวงตายังคงลึกและร้อนแรงเหมือนเมื่อก่อน ถึงกระนั้น สายตานั้นเหมือนจะเต็มไปด้วยเกร็ดน้ำแข็งที่ถูกบดขยี้ ทั้งเปลวไฟและน้ำแข็งอันแรงกล้าในสายตาลุคนั้น มันเป็นสิ่งที่ทำให้คนรู้สึกไม่สบายใจเมื่อได้เห็นสายตาคู่นี้

"ฉันกำลังจะไปทำงานแล้วค่ะ" เบียงก้าหลบมือใหญ่ของชายคนนั้นและเดินไปที่ลิฟต์

ประตูลิฟต์เปิดออก เธอก็เดินเข้าไปในนั้น

ขณะที่เธอเข้าไปในลิฟต์ เธอต้องพยายามสูดอากาศโดยรอบอย่างแผ่วเบา

เบียงก้าลืมซื้ออาหารเช้าระหว่างทางและเดินทางไปโรงพยาบาลทั้งที่ท้องหิว

ก่อนหน้านั้น ห้องพักอย่างดีที่เควินพักอยู่ รวมถึงทีมแพทย์ที่ดูแลเขาอยู่ ทุกคนล้วนมาจากความช่วยเหลือของลุค ดังนั้นเบียงก้าจึงรีบแจ้งกับทางโรงพยาบาลว่าเธอไม่มีเงินพอที่จะให้พ่ออยู่ในห้องผู้ป่วยราคาแพงอีกต่อไป

ด้วยเงินเดือนของเธอ เธอแทบจะไม่มีปัญญาหาเงินมาจ่ายค่ารักษาด้วยซ้ำ นอกจากนี้ เงินส่วนใหญ่ก็หมดไปแล้วด้วยซ้ำ

เควินถูกย้ายไปที่วอร์ดทั่วไป แต่เขาไม่ได้ติดใจอะไรเรื่องนั้นเลย อันที่จริง เขาค่อนข้างโล่งใจเสียมากกว่า

ขณะที่เบียงก้าจับมือพ่อของตนที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล เควินมองลูกสาวของเขาและพูดว่า “ทุกคนนั้นมีความเท่าเทียมกันเสมอนะลูก แต่บางครั้งสิ่งต่าง ๆ ก็ไม่เป็นเช่นนั้น โลกของคนรวยและโลกของคนจนอย่างเรา ๆ ไม่เหมือนกัน พ่อหวังว่าลูกจะมีชีวิตที่ดีได้จากการทำงานหนักอยู่เสมอ ลูกจำไว้ว่านะว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ควรทำผิดกับตัวเองนะ”

"หนูเข้าใจค่ะ" เบียงก้าเข้าใจความหมายของพ่อ พ่อคงคิดว่าเธอได้ไปมีความสัมพันธ์กับเศรษฐีเพื่อเงิน…

ตามจริงแล้ว เควินกังวลเรื่องนั้นมาระยะหนึ่งแล้ว

ในห้องผู้ป่วยชั้นสูง แพทย์ที่มีชื่อเสียงที่โรงพยาบาลพาราเมาท์กำลังรักษามะเร็งปอดของเควิน นั่นหมายความว่าจะต้องมีบางอย่างผิดปกติไปจากเดิมแน่นอน ซึ่งหมายความว่ามีคนที่ร่ำรวยอยู่เบื้องหลังและกำลังช่วยลูกสาวเขาอยู่

โดยปกติแล้ว คนมีเงินเหล่านั้นมักจะเป็นผู้ชายไม่ผิดแน่

ถ้าเป็นผู้หญิงก็หมายความว่าเป็นผู้มีพระคุณ และเขารู้ว่าคนอย่างลูกสาวจะต้องพาผู้มีพระคุณคนนั้นมาพบเพื่อที่เขาจะได้กล่าวขอบคุณแน่นอน

เนื่องจากลูกสาวของเขาไม่ได้พาคนคนนั้นมาด้วย อาจเป็นไปได้ว่าลูกสาวเขานั้นรู้สึกละอายใจที่จะพาผู้ชายคนนั้นมาหาตน

ไม่ใช่ว่าเรื่องหน้าตาอัปลักษณ์หรืออะไรก็เช่นนั้น แต่น่าจะเป็นเรื่องสถานะทางการเงินที่ที่ต่างชั้นกันมากกว่า

ระหว่างลูกสาวของเขากับผู้ชายคนนั้นจะต้องมีฐานะที่แตกต่างกันมาก ดังนั้นชายคนนี้จึงได้แต่สนับสนุนเรื่องเงินอยู่เบื้องหลังเท่านั้น

เควินทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็งปอด ซึ่งนั่นเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งลูกสาวไว้ เขาไม่กล้าเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของลูกสาว เบียงก้าอายุ 24 ปีแล้ว ท้ายที่สุด เธอหลายเติบโตจนกลายเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองได้

เมื่อเควินย้ายจากวอร์ดระดับสูงมาที่วอร์ดทั่วไป เขาโล่งใจ เพราะนั่นอาจหมายความว่าลูกสาวของเขาเลิกยุ่งกับชายเศรษฐีคนนั้นแล้ว

ไม่ว่าลูกสาวของเขาจะมีความสัมพันธ์แบบคนคุยเฉย ๆ หรือคบแบบคู่ควงจริงจัง มันจะดีกว่ามากถ้าลูกสาวตัวน้อยคนนี้เลิกรากับเขาเสีย โดยปกติ เมื่อคนสองคนมีฐานะแตกต่างกันมาก ความสัมพันธ์ของพวกเขามักจะไม่มีวันยั่งยืน

หลังจากที่เธอช่วยพ่อย้ายของเข้าที่แล้ว เบียงก้าก็ไปกรอกแบบฟอร์ม

แพทย์ปรึกษาผู้บริหารโรงพยาบาล และผู้บริหารคนนั้นก็เรียกเจสันมาพบเป็นการส่วนตัว

เจสันยังอยู่ที่บ้านเพราะยังไม่ถึงเวลาไปทำงาน เขารู้สึกประหลาดใจเมื่อรับโทรศัพท์และถามว่า “ทำไมอยู่ ๆ ถึงขอเปลี่ยนวอร์ดอย่างกะทันหันครับ?”

“คุณเรย์นแจ้งว่าพ่อเธอและเธอไม่สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่สูงให้กับทางโรงพยาบาลได้ครับ เธอเลยขอให้ย้ายคุณเรย์นไปที่ห้องผู้ป่วยทั่วไป” ผู้บริหารโรงพยาบาลบอกไปตามความจริงที่แพทย์รายงานกลับมา

“ช่วยรอผมสักสองนาทีครับ คุณวินเชสเตอร์ ผมขอไปถามเจ้านายก่อน” เจสันพูดจบและวางสาย จากนั้น ก็โทรไปที่เบอร์ส่วนตัวของเจ้านายทันที

เมื่อเจสันเปิดฝักบัวในห้องน้ำและปรับอุณหภูมิน้ำ เขาได้ยินเสียงจากโทรศัพท์ที่บ่งบอกว่าสายไม่ว่าง

เขาโทรหาเขาอีกสองสามครั้ง แต่ก็เหมือนเดิม

เจสันโทรเข้าไปที่คฤหาสน์ครอว์ฟอร์ดด้วยความสิ้นหวัง

“สวัสดีค่ะ คฤหาสน์ครอว์ฟอร์ดค่ะ” พี่เลี้ยงรับสาย

“สวัสดีครับ ผมเจสันนะครับ คุณครอว์ฟอร์ดอยู่บ้านรึเปล่า?”

ในคฤหาสน์ อลิสันกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ตอนเช้าอยู่บนโซฟา เธอเงยหน้าขึ้นมองพี่เลี้ยงและถามว่า “ใครโทรมา?”

"คุณดอยล์โทรมาค่ะ" หลังจากพี่เลี้ยงพูดเช่นนั้น อลิสันคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะวางหนังสือพิมพ์ลง เธอเดินไปรับโทรศัพท์ “เจสัน มีอะไรทำไมถึงโทรมาแต่เช้า?”

“คุณผู้หญิงครับ ผมมีเรื่องด่วนต้องติดต่อคุณครอว์ฟอร์ดครับ”

อลิสันกล่าวว่า “ลุคไม่สบายอยู่ เขาเป็นไข้ตอนกลับมาเมื่อเช้านี้ บอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้น?”

เจสันคิดอยู่ครู่หนึ่ง 'คุณเรย์นยังเป็นคนรักของครอว์ฟอร์ดอยู่รึเปล่า? ในสายตาของคนเป็นแม่ คุณเรยน์เป็นผู้หญิงที่ไม่รับการยอมรับรึเปล่า?’

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เจสันก็โกหกและบอกว่าเป็นเรื่องของบริษัท

อลิสันไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในบริษัท เธอจึงบอกเขาว่าพอลุคตื่นแล้ว จะให้เขารีบโทรกลับ

หลังจากที่เจสันวางสาย เขาก็รีบติดต่อทางโรงพยาบาล

“ถ้าคุณเรย์นยืนกรานที่จะเปลี่ยนวอร์ด ก็ทำตามที่เธอบอกเถอะครับ...”

...

เบียงก้าออกจากโรงพยาบาลและรีบไปที่ทำงาน

เธอเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องแยกตัวตนออกเป็นสองคนตอนที่อยู่ในช่วงเวลาที่ยุ่งเหยิงเช่นนี้ ตัวตนหนึ่งจัดการเรื่องภาระงานตรงหน้า ส่วนอีกหนึ่งตัวตนก็รับมือกับชีวิตส่วนตัวอันยุ่งเหยิงไป

เธอมาถึงแผนกออกแบบ และเห็นฌองยืนอยู่ที่แผนกต้อนรับ เขากำลังเล่นโทรศัพท์ ณ ขณะเดียวกัน เธอก็เดินออกจากลิฟต์

ฌองเงยหน้าขึ้นมองเธอ เมื่อทั้งสองสบตากัน แต่ก็ไม่พูดอะไรต่อกัน

"สวัสดี" ฌองหาจังหวะเป็นคนเริ่มทักทาย

เบียงก้าแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเขาและเดินเข้าไปในห้องทำงาน

เธอนั่งลง เปิดคอมพิวเตอร์ และเริ่มทำตัวให้วุ่นวายทันตา

ฌองหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วไปห้องน้ำชาย

เด็กฝึกงานหญิง ณ แผนกต้อนรับด้านนอกคุยกับเด็กฝึกงานอีกคนหนึ่งว่า "เธอว่าฌองยังชอบเบียงก้าอยู่รึเปล่านะ? เมื่อกี้น่ะ ฉันเห็นเขาแอบถ่ายรูปเบียงก้าด้วยแหละ!"

“ถึงเขาสองคนจะเลิกกันก็เถอะ แต่ก็ยังต้องทำงานอยู่ในแผนกเดิมอยู่นะ เขาเจอเบียงก้าทุกวัน แล้วทำไมเขาต้องแอบถ่ายรูปเธอด้วยล่ะ...ฉันเองก็หาคำตอบไม่ได้เหมือนกันแหละเธอ?” เด็กฝึกงานอีกคนพูดจบและทำงานต่อ

ในห้องน้ำชาย

ฌองเบลอฉากพื้นหลังที่ทำงานเอาไว้เผื่อว่ามีใครจำได้ เขาเว้นร่างของเบียงก้าไว้ในรูปภาพ และส่งไปยังกลุ่มนั้น

ภาพถ่ายรูปแรกของเบียงก้าถูกถ่ายตอนที่เธอเดินออกมาจากลิฟต์ โดยที่ฌองแสร้งทำเป็นว่ายืนเล่นโทรศัพท์อยู่ ในภาพนั้นไม่ได้ถ่ายติดใบหน้าของเบียงก้าไปด้วย เขาได้ภาพของเธอจากคอลงไปเท่านั้น

ฌองถ่ายภาพรูปที่สองจากด้านหลังของเบียงก้า ขณะที่เธอเดินเข้าไปในแผนก ภาพถ่ายนี้แสดงให้เห็นทรวดทรงองค์เอวที่อรชรของเบียงก้าจากทางด้านหลังทั้งหมด

ถองใช้บัญชีนิรนามล็อกอินเข้าไปในกลุ่ม ชอบนอนกับเมียชาวบ้าน

ชาวเน็ตเอพิมพ์ตอบ 'นี่ หน้าใหม่ ฉันขอลองชิมแฟนเก่าของนายหน่อยสิ' สาวออฟฟิศงั้นเหรอ? เห็นกระโปรงทรงบอดี้คอนแล้วอยากฉีกทิ้งเป็นชิ้น ๆ เลยว่ะ ฉันล่ะอยากเห็นจริง ๆ ว่าใต้เสื้อผ้า หุ่นของแม่หนูนี้จะแซ่บขนาดไหน แค่ได้มองเนี้ย บอกเลยว่าน้ำเดินว่ะ... '

ชาวเน็ตบีกล่าวว่า 'ฉันเคยนอนกับเมียเจ้าเอมาครั้งหนึ่งนะเว้ย เธอเป็นเด็กสาวทรงสะบึ้มเลยแหละ ตอนแรกนะก็ทำตัวอิดออดแล้วก็ปฏิเสธอยู่นั่น แต่ตอนนี้เป็นไง เอาท์ดอร์เนี้ยของของเธอเลยแหละ ลองหาเวลามาสนุกกับเมียเจ้าเอมันสิ เธอเก่งรอบด้านเลยแหละ ฉันมั่นใจเลยว่านายน่ะจะต้องติดใจแล้วก็ขอลองอีกรอบ”

ฌองกำลังสูบบุหรี่ในห้องน้ำ เขาเหล่ตาและก้มศีรษะเพื่อตอบว่า 'เอาคืนนี้เลยเป็นไง ฉันปักหมุดสถานที่เอง อย่าลืมพาเมียมาด้วยล่ะ'

ชาวเน็ตเอกล่าวว่า 'ไม่มีปัญหา น้องหนูของฉันพร้อมเสมอ' แฟนเก่าของนายล่ะ? จะพามาเมื่อไหร่?'

ฌองตอบว่า "อีกสองวันจะมีงานเลี้ยงต้อนรับเพื่อนร่วมงานใหม่ในแผนกของเรา ทุกคนต้องไป พอกินดื่มแล้วก็ร้องคาราโอเกะกันเสร็จ เดี๋ยวหาเวลาพาตัวออกไป’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก