พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 97

หลังจากเตรียมการทุกอย่างเรียบร้อย ฌองก็กลับไปที่แผนกของตัวเอง

เขาไม่มีอารมณ์ที่จะทำงาน เขาเงยหน้าขึ้นมามองเบียงก้าเป็นครั้งคราว

เมื่อถึงเวลาอาหารกลางวัน ฌองจับมือเบียงก้าระหว่างทางไปที่โรงอาหารของพนักงาน เขาออดอ้อนเธอด้วยสายตาคู่นั้น “มาคุยกันหน่อยเถอะนะ พี่ขอเวลาเธอสักห้านาที”

"ระหว่างเราไม่มีอะไรจะต้องคุยกันอีกค่ะ"

เมื่อความสัมพันธ์จบลง มีผู้ชายบางคนสามารถเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นศัตรูที่เลวร้ายที่สุด และไม่มีโอกาสกลับมาเป็นเพื่อนกันได้อีกเลย

“อย่าทำให้พี่ไม่มีทางเลือกนักนะ...” นัยน์ตาอ้อนวอนของฌองกลายเป็นดุเดือดในทันที

เบียงก้าไม่สนใจเขา เธอกระชากมือออกแล้วเดินจากไปที่โรงอาหาร

ซูเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากแผนก ขณะเช็คอีเมลในโทรศัพท์ เธอเดินลงไปที่โรงอาหารพนักงานและตรงไปหาเบียงก้า

"ถ้าโครงการนี้ผ่านได้ด้วยดี และได้รับคำชมกลับมานะ บอกเลยว่าค่าตอบแทนที่เราจะได้รับต้องเพิ่มเป็นสองเท่าแน่"

"สองเท่าเลยเหรอ อืม แม้แต่คนอย่างฉันน่ะเหรอ?" เบียงก้าคิดว่าตัวเองเป็นมือใหม่ ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าเธอตั้งเป้าหมายทางการงานไว้สูงมากและพยายามบรรลุสิ่งนั้นให้ได้ กระนั้น คนอื่นที่อยู่ในสายงานนี้ก็หวังเช่นเดียวกัน

น่าเสียดายที่มีเพียงไม่กี่คนที่จะประสบความสำเร็จ

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ซูก็เข้ามา “แน่นอนสิ นั่นต้องรวมถึงเธอด้วยอยู่แล้วล่ะ บริษัทมีมาตรฐานการตัดสินที่ยุติธรรมมากนะ ตราบใดที่มีความสามารถนะ เธอก็จะได้รับรางวัลเหล่านั้นในที่สุด”

เบียงก้าเงยหน้าขึ้นและจ้องไปที่ซูที่ดูเอาจริงเอาจัง

สำหรับเบียงก้าในวันนี้ คำว่า 'รางวัล' เป็นสิ่งล่อตาล่อใจเหลือเกิน

การรักษามะเร็งปอดของพ่อต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าพ่อจะรับการรักษาในโรงพยาบาลไหน ๆ ก็ตาม

เงินไม่ได้ร่วงลงมาจากท้องฟ้า เธอจึงทำได้เพียงพึ่งพาตัวเองเพื่อหาเงินเหล่านั้น

นี่คือเหตุผลที่เธอเลือกที่จะไม่ลาออกและไปจากบริษัทที คอร์ปอเรชั่น เพราะเธอยังต้องการเงิน

ถ้าเธอไปสมัครงานที่อื่น คงเป็นเรื่องยากมากที่จะบอกว่าเธอจะผ่านการสมัภาษณ์งานใหม่หรือไม่ แม้ว่าเธอจะทำได้ เธอก็ต้องผ่านช่วงทดลองงานเช่นกัน ชีวิตของพ่อก็สูญเปล่าไปทุกนาทีและทุกวินาทีที่ผ่านไป เธอไม่สามารถรอช้าได้แม้แต่วินาทีเดียว

“คุณพ่อเป็นยังไงบ้างล่ะ?” ซูหยิบน่องไก่ให้เบียงก้าจากจานของเธอเอง

เบียงก้าปฏิเสธ

"กินเถอะ ดูสิว่าเธอผอมแค่ไหน ฉันไดเอทอยู่จ้ะ" ซูยืนกรานที่จะยื่นน่องไก่ให้เบียงก้า

ความจริงแล้ว ซูซื้อน่องไก่นี้ให้เบียงก้า

“เธอยังไม่ได้บอกฉันเลยนะ ว่าพ่อเป็นยังไงบ้าง?” ซูยังคงถามต่อไป

ภายในสองวันที่ผ่านมา เบียงก้าลดน้ำหนักลดลงจริง ในเวลาเพียงสองวัน เธอดูแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากแรงกดดันทุกด้านถาโถมใส่เธอ

หลังจากเล่าแบบสรุปย่อให้ซูฟังเกี่ยวกับอาการของพ่อ เบียงก้าก็เริ่มคิดอะไรบางอย่างขณะรับประทานอาหาร พ่อบอกเธอว่าเงินออมทั้งหมดของเขาอยู่ในบัตรธนาคารของเจนนิเฟอร์และได้มอบให้เธอไป

อย่างไรก็ตาม เธอคิดว่าเจนนิเฟอร์จะไม่คืนมาให้เป็นแน่

เบียงก้าสูดหายใจเข้าลึก ๆ และดึงตัวเองกลับมา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเธอยังคงต้องลองดูก่อน!

นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับพ่อ เพื่อรวบรวมเงินรักษาอาการป่วย เธอไม่สามารถปล่อยโอกาสเหล่านั้นหลุดลอยไปได้ แม้เพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ก็ตาม

ฌองนั่งอยู่ริมหน้าต่างอีกด้านของโรงอาหารพนักงาน และอยู่ห่างจากกล้องวงจรปิด เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและจองห้องนอนเตียงคิงไซส์ในบริเวณใกล้ ๆ เขากำลังจะส่งที่อยู่ไปยังกลุ่มสามีที่ภรรยามีชู้

เขาลังเลก่อนจะกดส่ง

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนที่เขารู้จักบนอินเทอร์เน็ตเป็นพวกนักต้มตุ๋น? การทำแบบนั้นในโรงแรมอาจจะไม่ปลอดภัย เพราะมันจะไม่คุ้มกันถ้าเกิดมีคนรู้เรื่องนี้และเก็บเรื่องนี้ไปแบล็กเมล์เขาทีหลัง

หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ฌองขอหมายเลขโทรศัพท์มือถือภรรยาชาวเน็ตเอจากในกลุ่ม จากนั้น เขาก็ส่งที่อยู่ของบ้านจัดสรรและตกลงเรื่องเวลานัดหมายกัน

ฌองยอมรับเลยว่ารู้สึกตื่นเต้นมากเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำอะไรแบบนี้

เมื่อถึงเวลาเลิกงาน เขาเป็นคนแรกที่ออกจากแผนกออกแบบไป เขาเรียกแท็กซี่มาที่บ้านหลังที่แอนนาซื้อให้เป็นเรือนหอของเขาและมารี บ้านยังไม่ได้รับการปรับปรุงใหม่ พวกเขากำลังสำรวจและจัดหาทีมซ่อมบำรุง

มารีมีกุญแจบ้านและเขาก็เช่นกัน

เมื่อมาถึงบ้าน ฌองก็รอให้โทรศัพท์ดังอย่างใจจดใจจ่อ

ก่อนที่เขาจะสูบบุหรี่ครึ่งมวนแรกเสร็จ อีกฝ่ายก็โทรมา เสียงของแม่สาวทรงใหญ่ฟังดูไพเราะมาก "ฉันอยู่ที่หน้าประตูของโครงการแล้ว ให้ฉันเข้าไปหน่อยสิ..."

หลังจากแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ภรรยาสาวทรงใหญ่ก็ได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้

ห้านาทีต่อมา ทั้งสองได้พบกันภายในบ้าน

"ฉันชอบสถานที่แบบนี้จัง มันน่าตื่นเต้นมากเลยล่ะ..." เด็กสาวคนนั้นมองไปรอบ ๆ ห้อง เห็นได้ชัดว่าเธอมีความชอบที่ค่อนข้างแปลกพิกล

ฌองไม่มีประสบการณ์ แต่เขามีใจที่แสวงหาความตื่นเต้น

ในไม่ช้า เสียงของชายและหญิงที่ประสานกันก็ดังกึกก้องและกังวานไปทั่วบ้านที่ว่างเปล่า

"คุณชอบฉันไหม...โอ้...อา..."

“เป็นภรรยาของคนอื่นมาก่อน… ก็ต้องมีประสบ… การณ์… มากกว่าสิ…” ภรรยาสาวทรงใหญ่กำลังคร่อมอยู่บนร่างของฌอง ดวงตาที่เย้ายวนของเธอนุ่มนวลราวกับผ้าไหม “รู้สึกดีจังเลย… ใครบอกว่าเธอ… ไม่มีประสบการณ์… อา… ไม่นะ ช้าลงหน่อยเถอะ…”

ฌองกลายเป็นคนดุร้ายและป่าเถื่อนมากขึ้นทันที ความรู้สึกนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาเคยสัมผัสมาก่อนแม้แต่กับคนที่เปิดกว้างอย่างมารี...

“เบา ๆ… อ่า...”

อีกด้านหนึ่ง เบียงก้าได้ติดต่อเจนนิเฟอร์ทางโทรศัพท์

ตอนที่เธออยู่มณฑลเจียงซี เจนนิเฟอร์ถูกใครบางคนทุบตีเมื่อสองสามวันก่อน เบียงก้าไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ในสถานีตำรวจหรืออยู่ในโรงพยาบาล

ไม่มีประโยชน์อะไรที่เธอและเจนนิเฟอร์จะมาเจอหน้าหรือเจรจากัน เพราะอย่างไรก็เสีย เจนนิเฟอร์จะไม่ยอมแน่

การโทรศัพท์ไปเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว

เมื่อเบียงก้าอธิบายสถานการณ์สั้น ๆ เจนนิเฟอร์ก็ตะคอกใส่ “ทำไมเควินยังไม่ตายห๊ะ! เขาเป็นแค่ไอ้คนงี่เง่า ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันจะรักเขา! ฉันไม่มีเงินหรอกนะ จะบอกให้ ฉันไม่มีเงินสักบาทเลย เงินเก็บทั้งหมดของฉันมีก็หมดไปกับค่ารักษาพยาบาลแล้วย่ะ!"

“พ่อฉันบอกว่าเขาเพิ่งให้เงินคุณไป 100,000 ดอลลาร์ตอนเดือนพฤษภาคมนิ นั่นเป็นเงินค่าตอบแทนจากเจ้านายที่เคยทำงานในไซต์ก่อสร้าง ฉันไม่คิดว่าคุณจะถอนออกไปทั้งหมดหรอกนะ แต่อย่างน้อยคุณก็สามารถช่วยพ่อได้ ในช่วงเวลาวิกฤตินี้ ชีวิตพ่อกำลังเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายนะ แล้วฉันจะคืนเงินให้คุณในอนาคต” เบียงก้าระงับความโกรธและพูดออกไปเพราะไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว

เจนนิเฟอร์ยิ้มเยาะเย้ย “เงินที่เขาให้ฉันมา ตอนนี้น่ะ กลายเป็นของฉันแล้ว! ถ้าพ่อเธอกำลังจะตาย ไปขอยืมเงินจากเพื่อนหรือญาติของเธอไม่ดีกว่าเหรอ? มาหาฉันทำไมเหรอ? ฟังนะ ฉันไม่มีเงิน! ถ้าเธอยังคงมาขอเงินจากฉัน ก็รังแต่จะเสียเวลารักษาพ่อของเธอเปล่า ๆ เธอไม่ควรโทษฉันสิ ถ้าพ่อของเธอตายไป นั่นก็เพราะเธอรักษาเขาช้าเอง”

เบียงก้ายืนอยู่ด้านนอกสถานีรถไฟใต้ดินอย่างอ่อนแรง “คุณกับพ่อของฉันเคยเป็นสามีภรรยากันมาก่อน เขาทำงานอย่างหนักเพื่อเลี้ยงดูคุณและลูกสาวของคุณนะ…”

“บี๊บ…บี๊บ…”

เสียงสัญญาณขาดหายดังขึ้นจากอีกฝั่ง

เจนนิเฟอร์วางสายด้วยความรำคาญ

ขณะกำโทรศัพท์ในมือไว้แน่น เบียงก้าอยากจะร้องไห้ แต่น้ำตาของเธอดูเหมือนจะไหลออกไปจนหมด จึงไม่มีน้ำตาเหลือให้ร้องไห้ได้อีก

เธอมองดูเมืองที่เฟื่องฟูแห่งนี้ด้วยดวงตาที่แห้งผาก ขณะที่คนเดินถนนต่างรีบเดินผ่านเธอไป คนส่วนใหญ่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดว่าเธอจะมีชีวิตที่คล้ายคลึงกับพวกเขา

อีกครั้งที่เธอกลับมาสู่ชีวิตนรกนี่

ในเวลานี้เองที่คนอันเป็นที่รักของเธอป่วยหนัก ปัญหาทางการเงินได้บดขยี้ตัวเธอให้ตัวเล็กเสียยิ่งกว่ามด

ไม่มีทางหาเงินได้ภายในหนึ่งวัน เธอรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่ด้วยพิษจากอาการป่วยที่ร้ายแรงนั้น ไม่เคยรีรอใคร

โทรศัพท์ของเธอดังขึ้นอีกครั้ง

เบียงก้าไม่เคยบันทึกหมายเลขนี้มาก่อน แม้ว่าจะดูคุ้นเคยสำหรับเธอ

“สวัสดีค่ะ เบียงก้าค่ะ” เธอตอบเพราะกลัวว่าจะเป็นสายจากลูกค้า

“น้าบี คือผม… ผม…” บลองช์อยู่ในคฤหาสน์หลังเก่าพร้อมกับโทรศัพท์มือถือของอาหลุยส์ในมือ ภายใต้การสายตาที่มองด้วยความข่มขู่ของสองคุณปู่ เขาตะกุกตะกักและโกหกว่า “ผมเห็นคุณปู่ของน้าบี… อาเจียนเป็นเลือดด้วยแหละครับ”

"อะไรนะ?!" เบียงก้าไม่สนใจสายตาของคนที่อยู่บนถนน ใบหน้าของเธอซีดเซียวทันทีด้วยความตกใจ

เด็กน้อยที่เพิ่งโกหก ทำท่าทางโมโหและจ้องไปที่ปู่ทวดทั้งสองที่ดูมีความสุข จากนั้นกดปุ่มวางสาย...

ลุคสวมเสื้อคลุมสีดำ สายรัดสองเส้นรัดรอบเอวอย่างหลวม ๆ เขาดูเย้ายวนอย่างมาก เขาลุกขึ้นจากเตียงและเดินตรงไปยังห้องน้ำ โดยที่ไม่รู้เลยว่าทั้งคุณปู่และลูกชายของตนเตรียมอะไรบางอย่างไว้ให้เขาด้วย

บนถนน เบียงก้าทนรอให้รถไฟใต้ดินมาถึงไม่ไหว

มือของเธอสั่นด้วยความตื่นตระหนก เธอจึงรีบเรียกแท็กซี่ หลังจากเข้าไปในรถแล้ว เธอกล่าวถึงที่อยู่ของคฤหาสน์ครอว์ฟอร์ด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก