“พวกเจ้านี่นะ อยากจะซุกซนทำสิ่งใดก็ไม่พ้นมือข้าเสียทุกครั้ง” เสียงแม่นางบ่นเหยียดยาวพลางสะบัดแปรงแต่งหน้าขนสัตว์ในมือบนใบหน้าของเมิ่งลี่ไปมาอย่างเบามือ
“ข้าก็มิได้ให้เจ้าแต่งหน้าให้ฟรี ๆ เสียหน่อย” ฉินเจียวเยี่ยนตอบ ก่อนจะยกมือขึ้นตะครุบปากตนเองแทบไม่ทัน
หลี่ชิงหงเหลือบตาไปมองฉินเจียวเยี่ยนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างกัน พลางกระตุกมุมปากอย่างลำพองใจ “สองตำลึงทอง”
“เหตุใดสองตำลึงทอง?” ฉินเจียวเยี่ยนขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ นางรู้ว่าเมื่อครู่ตนเองหลุดพูดคำสมัยใหม่ออกมา แต่ก็พูดเพียงคำเดียวเท่านั้นนี่
“เจ้าพูดซ้ำสองครั้ง” หลี่ชิงหงตอบสั้น ๆ อย่างเหนือกว่า
ฉินเจียวเยี่ยนถึงกับเบิกตากว้าง “…”
แค้นใจที่ข้าได้หนึ่งตำลึงทองจากเจ้าเมื่อคราก่อนใช่หรือไม่?
“แล้วคราวนี้ พวกเจ้าจะไปซุกซนที่ใด? รายงานไท่จื่อไว้แล้วรึ?” หลี่ชิงหงถามต่อ
เหตุใดเจ้าจึงทำราวกับพวกข้าเป็นเด็กเล็กที่มักสร้างแต่ปัญหา ต้องรายงานตัวให้ผู้ปกครองรับทราบอยู่เสมอเล่า
“ข้าจะไปสืบความที่หออวี่หลิน ท่านอารองของเมิ่งลี่ไปติดพันนางโลมที่นั่นน่ะ” ฉินเจียวเยี่ยนสรุปความจบในประโยคเดียวอย่างไม่ยี่หระ
“เจ้าจึงให้สหายของเจ้าแต่งหน้าเช่นนี้รึ?” หลี่ชิงหงพยักหน้าไปทางสหายตัวน้อยที่นั่งหลับตาให้นางบรรจงแต่งหน้านิ่ง
ฉินเจียวเยี่ยนพยักหน้าอย่างไม่ลังเล “ใช่แล้ว”
ฉินเจียวเยี่ยนวานให้หลี่ชิงหงแต่งหน้าให้เมิ่งลี่คล้ายนางโลมจากต่างแดนที่สุด เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าไปสืบความในหออวี่หลิน หลี่ชิงหงจึงปรับรูปหน้าให้เมิ่งลี่ดูเรียวเล็ก ดวงตาโฉบเฉี่ยว ริมฝีปากถูกระบายด้วยสีแดงสดสะพรั่ง นอกจากนี้ ยังใช้อายไลน์เนอร์ชนิดพิเศษบรรจงวาดเส้นคมกริบเพื่อขับเน้นดวงตาคู่สวยให้มีเสน่ห์มากขึ้นกว่าเดิม
“เอาล่ะ เสร็จแล้ว ลืมตาได้” หลี่ชิงหงวางแปรงแต่งหน้าลงมือลงแล้วสั่งให้เมิ่งลี่ลืมตาขึ้นมาชมผลงานศิลปะของนาง
“ว้าว!! งามนัก แม่นางบนคันฉ่องผู้นี้คือผู้ใดกัน!?” เมิ่งลี่ลืมตาขึ้นมาเห็นตนเองในคันฉ่องก็ได้แต่ตกตะลึง
เมื่อครั้งแรกที่ฉินเจียวเยี่ยนพานางมาที่ร้านขายเครื่องประทินโฉมที่ชื่อว่าเยว่หรงแห่งนี้ นางได้แต่ตื่นตาตื่นใจกับเครื่องประทินโฉมหลากหลายประเภทที่เตรียมจะวางขายในไม่กี่วันข้างหน้า
ฉินเจียวเยี่ยนแนะนำว่า หลี่ชิงหงเป็นญาติห่าง ๆ ของหมัวมัวที่ดูแลไท่จื่อที่มีความสามารถในการปรุงเครื่องประทินโฉม พวกนางจึงได้ร่วมมือกันสร้างร้านเยว่หรงแห่งนี้ขึ้นมา
ฉินเจียวเยี่ยนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย โดยที่นางยังคงหลับตา “ก็จริงน่ะสิ ลี่เอ๋อร์ร้อนใจถึงเพียงนี้ ข้าเป็นสหายที่ดีจะไม่ช่วยได้อย่างไร?”
หลี่ชิงหงมองค้อนแม้ว่าฉินเจียวเยี่ยนจะยังคงหลับตา “แล้วเหตุใดเจ้าจึงไม่ปลอมตนเป็นนางโลมเสียเองเล่า?”
“หื้ม หากผู้ใดรู้ว่า นางโลมเป็นไท่จื่อเฟย ไท่จื่อจะเอาหน้าไปไว้ที่ใดเล่า?”
หลี่ชิงหงเหลือบตามองอย่างไม่พอใจ “แล้วเมิ่งหลี่ปู้ซ่างซูจะเอาหน้าไปไว้ที่ใดเล่า?”
“แหม” ฉินเจียวเยี่ยนลากเสียงยาว “อย่างไร ลี่เอ๋อร์ก็ทำเพราะปัญหาของคนในครอบครัว ก็คงมิโดนดุสักเท่าใดดอก”
“อีกอย่าง ข้าอยากเห็นท่วงท่ายั่วยวนของนางโลมต่างแดนเหล่านั้นด้วย หากข้าแต่งเป็นนางโลมเช่นเดียวกันขึ้นมา แล้วข้าจะเรียนรู้ท่าทางนั้นได้อย่างไรเล่า?”
หลี่ชิงหงถึงกับพูดไม่ออก “…”
สรุปว่า ที่เจ้ากระตือรือร้นหนักหนา เป็นเพราะจะเข้าไปดูลีลาของนางโลมต่างแดนก็เท่านั้น?

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาของท่านอ๋องธงแดง NC
เมื่อไหร่ตอนใหม่จะมาหรอคะ รอนานจุงเบย อดใจไม่ไหว 🥹...