“เยี่ยนเยี่ยน...” เมิ่งลี่เอ่ยเรียกสหายที่กำลังนั่งจิบน้ำชาอยู่ที่โต๊ะ ในขณะที่นางปล่อยให้สาวใช้ของจวนตระกูลฉู่ต่างช่วยกันแต่งกายเปลี่ยนเป็นชุดแห้ง
“ว่าอย่างไร?” ฉินเจียวเยี่ยนถามขึ้น ก่อนจะยกจอกน้ำชาขึ้นมาจิบ
นับว่า นี่เป็นประโยคสนทนาแรกระหว่างพวกนาง นับตั้งแต่ที่พาเมิ่งลี่เข้ามาเปลี่ยนชุด เพราะเมิ่งลี่ราวกับตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเอง สายตางุนงง จนฉินเจียวเยี่ยนเลือกที่จะเงียบ รอให้สหายของตนตกผลึกความคิดด้วยตนเองเสียก่อน
“ข้า... กำลังจะมีสามี?”
พรวด!!
“แค่ก! แค่ก! แค่ก!” ฉินเจียวเยี่ยนถึงกับสำลักน้ำชาที่จิบเข้าไป
เจ้าก็ช่างสมกับที่เป็นสหายรักตุ๊กตากระเบื้องของข้า...
ช่างสนใจได้ตรงจุดเสียจริง
“ใช่ กู้ซื่อจื่อทาบทามสู่ขอเจ้าแล้ว สำนักโหรหลวงก็แจ้งผลแล้วว่า ดวงชะตาของพวกเจ้าสมพงศ์กัน” ฉินเจียวเยี่ยนพยักหน้า “เช่นนั้น ก็เป็นตามที่เจ้าว่า เจ้ากำลังจะแต่งงาน มีสามี”
“แต่...” เมิ่งลี่ก้มหน้าลังเลครุ่นคิด จนฉินเจียวเยี่ยนต้องเอ่ยถาม
“เจ้ากำลังคิดกังวลสิ่งใด? เจ้ามิได้ชอบกู้ซื่อจื่อหรอกหรือ?”
เอ... หรือว่า ข้าจะมองผิด...
แต่ท่าทีระหว่างสองคนนี้ มันก็ไม่ได้ธรรมดาน่ะสิ
“ไม่! ไม่! เอ่อ... ข้า...” เมิ่งลี่เม้มริมฝีปากแน่น ฉินเจียวเยี่ยนเห็นเช่นนั้น จึงได้โบกมือไล่สาวใช้ของจวนฉู่ซิงปู้ซ่างซูออกไป แล้วสั่งชุนเถาให้เฝ้าที่หน้าห้องรับรองไว้
ฉินเจียวเยี่ยนลุกขึ้นไปจับมือเมิ่งลี่ไว้ แล้วพานางมานั่งอย่างปลอบโยน ยกกาน้ำชาขึ้นมาเท เลื่อนมาตรงหน้าเมิ่งลี่ แล้วถามเสียงนุ่ม “เจ้ามีความกังวลสิ่งใด? เล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่?”
“ข้า...” เมิ่งลี่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร “เขา... เขาเป็นแม่ทัพ...”
แสงสว่างวาบเข้ามาในความคิดของฉินเจียวเยี่ยน เมื่อคิดว่า ตนเองพอจะเข้าใจความคิดของเมิ่งลี่ได้อย่างลาง ๆ อีกทั้งยังเป็นความคิดแบบเดียวกับกู้เหวยอีกด้วย
“เจ้ากังวลว่า หากแต่งงานไปแล้ว แล้วกู้ซื่อจื่อจะต้องออกรบ มีชีวิตที่ไม่แน่นอน แล้วเจ้าอาจจะเป็นหม้ายตั้งแต่ยังสาวเช่นนี้รึ?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาของท่านอ๋องธงแดง NC