หยางเซิงกับตงไฮ่เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
จวนเฟินอ๋องแทบจะกลายเป็นดินแดนต้องห้ามของสตรี เพราะเซียวชิงเฟิงไม่อนุญาตให้สตรีนางใดเข้าจวน มีเพียงบรรดาคุณชาย ขุนนางและแม่ทัพเท่านั้นที่เข้ามาได้
ส่วนชื่อเสียงความเจ้าสำราญนั้น ท่านอ๋องสร้างขึ้นด้วยการไปนอนค้างที่หอนางโลมเป็นส่วนใหญ่
นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมเฟิงอ๋องจึงได้ลงทุนเป็นเจ้าของหอนางโลมเสียเอง เพื่อที่จะได้ปรับปรุงห้องชั้นบนสุดให้เป็นห้องพักส่วนตัวได้โดยที่ไม่มีผู้ใดสงสัย
ท่านอ๋องของพวกเขายังคงบริสุทธิ์ดุจหยก
แค่ก แค่ก ไม่สิ ท่านหยกของพวกเขาได้ถูกคุณหนูรองรักหยกถนอมบุปผาไปเสียแล้ว...
หรือว่า คุณหนูรองจะกลายเป็นคนในใจของท่านอ๋องแล้ว?
ต้องใช่แน่ ๆ เห็นที เขาคงต้องเกาะชายกระโปรงของคุณหนูรองไว้ให้มั่นเสียแล้ว!!
ผู้ใดจะมากล่าวหาว่า บุรุษอย่างเขาหน้าไม่อายที่จะเกาะชายกระโปรง แต่ถ้าหากเป็นชายกระโปรงของว่าที่พระชายา พวกเจ้าจะไม่เกาะกันหรือไร!?
แววตาของหยางเซิงทอประกายวิบวับ ราวกับเจอผู้ช่วยชีวิตในยามที่ทำให้ท่านอ๋องโกรธกริ้วแล้ว
ฉินเจียวเยี่ยนเอ่ยถาม “แล้วท่านอ๋องสะดวกวันใดเล่าเพคะ?”
“วันพรุ่ง ยามเว่ย”
“ได้เพคะ” ฉินเจียวเยี่ยนยิ้มอย่างยินดีที่สามารถนำเสนอสินค้าของตัวเองได้ “เช่นนั้น พบกันในวันพรุ่งนี้นะเพคะ”
เซียวชิงเฟิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “คุณหนูรองจะกลับแล้วหรือ?”
ฉินเจียวเยี่ยนเอียงศีรษะด้วยความสงสัย “มิใช่ว่า เราเจรจาการค้ากันเสร็จแล้วหรือเพคะ?”
“เรายังไม่ได้ทำสัญญาการค้าเลยนะ”
นางกำลังนึกถึงชีวิตในชาติที่แล้ว แม้ว่า นางพยายามฝึกฝนฝีมือการแสดงมากเพียงใด แต่ความพยายามนั้นก็เปรียบเสมือนเงาในยามค่ำคืน ที่ไม่ว่าจะพยายามมากมายเพียงใด ก็ไม่มีผู้ใดมองเห็น ทั้งยังซ้ำเติมว่านางพยายามไม่มากพอ
เช่นเดียวกับ ‘ฉินเจียวเยี่ยน’ อีกคนที่มีชื่อเสียงย่ำแย่ ไม่เชี่ยวชาญศาสตร์ใดให้บิดามารดาภาคภูมิใจ แตกต่างจากพี่สาวอีกคนที่มักจะถูกนำมาเปรียบเทียบ ทั้ง ๆ ที่นางเองก็พยายามอย่างหนัก
ไฉนผู้คนจึงไม่เข้าใจบ้างเล่า? ว่าคนเราล้วนมีความสามารถที่แตกต่างกัน บางคนเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว บางคนมีพรสวรรค์ที่น่าอิจฉา นางยอมรับว่า นางไม่ได้มีสิ่งเหล่านั้น แต่นางมีความเพียรพยายาม
ฉินเจียวเยี่ยนพยายามฝึกฝนดีดพิณทุกวันจนปลายนิ้วต้องหยดเลือด ซึ่งความพยายามของนางมีเพียงสองสาวใช้อย่างชุนเถาและชุนหลิ่วเท่านั้นที่มองเห็น
ฉินเจียวเยี่ยนพยายามที่จะเรียนรู้กลยุทธ์หมากกระดาน ฝึกเขียนพู่กัน วาดภาพจิตรกรรมอย่างสุดความสามารถ แต่สุดท้าย บรรดาอาจารย์ก็พากันส่ายหน้า พวกเขาต่างเอือมระอาที่นางไม่เรียนรู้เสียที
แต่จะมีผู้ใดรับรู้บ้างว่า นางเองก็ท้อใจเช่นกัน พยายามเพียงใดก็ไร้ผล แม้ว่า จะมีบิดามารดาคอยปลอบประโลม รักและตามใจทุกอย่าง แต่สิ่งที่นางต้องการมากที่สุด คือ ความเชื่อใจ
เชื่อว่า สักวันนางจะทำได้ มิใช่เพียงคำบอกว่า ไม่เป็นไร
*ยามเว่ย หมายถึง ช่วงเวลา 13.00-14.59 น.

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาของท่านอ๋องธงแดง NC