พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 182

เฟิงจิ่งเหวยที่ถูกตบจนสับสนมึนงง มุมปากเริ่มบวมเป่งขึ้นมา นางมองไปยังเสนาบดีซ้ายเฟิงอย่างไม่อยากจะเชื่อ ม่านตาขยายอย่างตกใจสุดขีด

“ท่านปู่ ท่านตบข้าทำไมกัน?”

แม้ในยามปกติเสนาบดีซ้ายเฟิงจะสำรวมกิริยา แต่ก็มักจะใจดีกับลูกหลานอยู่เสมอ ยามปกติเฟิงจิ่งเหวยจึงไม่เคยถูกตำหนิแม้แต่น้อย นับประสาอะไรกับถูกตบตี

เสนาบดีซ้ายเฟิงสะบัดแขนเสื้ออย่างแรง มองไปยังปี้ลั่วเอ่ยอย่างโกรธจัด "เหตุใดข้าต้องลงมือ เจ้าอธิบายให้นางฟังอย่างกระจ่างที!"

ใบหน้าของปี้ลั่วขาวซีด ริมฝีปากสั่นเทา เล่าเรื่องหญิงสาวที่ถูกคุมขัง ณ หมู่บ้านน้ำพุร้อนของเฟิงจิ่นเฉิงนั้นได้ถูกเปิดเผย จนไปกระตุ้นความขุ่นเคืองของชาวบ้านนับพัน ซึ่งตอนนี้อีกฝ่ายถูกคุมขังอยู่ที่หอต้าหลี่

เสนาบดีซ้ายเฟิงระงับความโกรธเอาไว้ "วันนี้อาลักษณ์กรมอาญากล่าวโทษข้าต่อหน้าขุนนางบุ๋นบู๊ทั้งหลาย ซ้ำยังมีสตรีนางหนึ่งไปตีกลองร้องทุกข์อยู่หน้าประตูเมืองและร้องฎีกาไปยังสตรีในตำหนักทองหลวง โดยทูลว่าพี่รองของเจ้าฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาและบังคับข่มเหงหญิงสาว!”

เขาทราบดีว่าเฟิงจิ่นเฉิงมักที่จะชอบเตร็ดเตร่อยู่ข้างนอกไปทั่ว แต่นิสัยของบุรุษก็เป็นเช่นนี้ จึงมิได้นำมาใส่ใจ ใครจะไปคิดว่าเขาจะใจกล้าเทียมฟ้าได้ถึงเพียงนี้

อาลักษณ์กรมอาญาต่อว่าเขาปล่อยลูกหลานกระทำความผิด โดยยังนิ่งดูดาย จากนั้นก็มีสตรีนางหนึ่งนำหลักฐานมายังตำหนักทองหลวง ซึ่งมันก็ทำให้เขาตกใจไม่น้อยไปกว่าผู้อื่นทีเดียว

ใบหน้าอันแก่ชราของเขาสูญสิ้นไปจนหมดแล้ว!

ดวงตาของเฟิงจิ่งเหวยมืดมน พลางเอ่ยด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว "เป็น...เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร...ผู้อื่นรู้เรื่องนี้ได้อย่างไรกัน?"

"ไม่ใช่เพราะพวกเจ้าสองคนไร้ความยำเกรงต่อสิ่งใดๆ ทั้งยังกำเริบเสิบสาน! ข้าเคยบอกเจ้ามาก่อนแล้วว่า อย่ายั่วยุพระชายาจิ้งอ๋องง่ายๆ หากแต่เจ้าไม่ฟัง ครานั้นที่โรงหมอเจ้าเองก็ได้เสียเปรียบไปหนหนึ่งแล้วยังไม่จำอีกหรือ นี่กลับยังจะทำให้เรื่องมันแย่ลงอีก!”

เมื่อเสนาบดีซ้ายเฟิงเอ่ยถึงตรงนี้ ก็โกรธเสียจนเจ็บหน้าอก และอดไม่ได้ที่จะตบลงบนโต๊ะไม้อย่างแรง จนทำให้ฝาแก้วน้ำบนโต๊ะร่วงลงมา

หลังจากเสียเปรียบครั้งใหญ่ไปในคราก่อน เฟิงจิ่งเหวยก็อยู่อย่างสงบและเชื่อฟังไปพักหนึ่ง เขาคิดว่านางคงได้เรียนรู้อะไรบางอย่างแล้ว ไหนเลยจะคิดได้ว่าจะทำเรื่องที่บัดซบเช่นนี้ได้

“หากพวกเจ้าสองคนไม่ไปยั่วยุพระชายาจิ้งอ๋องสามีภรรยานั่น พวกเจ้าจะลงเอยเช่นนี้ได้เยี่ยงไร!”

เมื่อเฟิงจิ่งเหวยได้ยินเช่นนี้ ก็ทั้งตกใจทั้งตื่นตระหนก เซียวปี้เฉิงเป็นหินแข็งที่ยากกะเทาะนางพอรู้ ทว่าเหตุใดฉู่อวิ๋นหลิงหญิงตั้งครรภ์ผู้หนึ่งกลับทำให้พี่ชายนางสะดุดล้มเอาได้?

นางรีบยอมรับผิดด้วยใบหน้าซีดขาว และเอ่ยอย่างกระวนกระวาย "ท่านปู่โปรดระงับความโกรธ จิ่งเหวยรู้ผิดแล้ว เพลานี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องช่วยพี่ชายออกมาให้ได้ก่อนเจ้าค่ะ!"

เมื่อได้ฟังประโยคนี้ สีหน้าของเสนาบดีซ้ายเฟิงก็เปลี่ยนเป็นซับซ้อนยุ่งยากขึ้นมาในทันตาและเอ่ยเสียงมืดมน "จิ้งอ๋องทรงยื่นฎีกาฟ้องร้องตระกูลเฟิงต่อหน้าฝ่าบาทเป็นการเฉพาะ ชีวิตของพี่ชายเจ้าเกรงว่าไม่อาจรักษาได้แล้ว"

ดวงตาของเฟิงจิ่งเหวยเบิกกว้างอย่างยากที่จะเชื่อ ลำคอตีบตัน "เป็นไปได้อย่างไร! ตอนนี้สงครามกำลังเร่งด่วน ฝ่าบาทมิใช่ยังต้องพึ่งพาตระกูลเฟิงหรือ"

เพราะเหตุนี้พวกเขาสองพี่น้องจึงได้กล้ากระทำการโดยไรซึ่งความยำเกรงต่อสิ่งใด

“เฟิงจิ่นเฉิงถูกปลดแล้ว ข้าเองก็ไม่ต้องเปลืองแรงกับเขาอีกต่อไป”

ตอนนี้เฟิงจิ่งเหวยเริ่มตื่นตระหนกอย่างสิ้นเชิง น้ำตาคลอเจือความร้อนอกร้อนใจ "ท่านปู่ พี่ใหญ่เป็นหลานชายของท่าน ท่านจะทิ้งเขาได้ลงคอหรือ? ก่อนหน้าที่ท่านเอ่ยว่าพี่ใหญ่ถูกปลดหมายความว่าอย่างไรกันเจ้าคะ?"

ไม่รู้ว่าอยู่ๆคิดอันใดได้ ใบหน้าของเสนาบดีซ้ายเฟิงพลันซีดเผือด จากนั้นก็เอ่ยอย่างรำคาญด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด "หากข้าไม่ยอมเสียเรือเพื่อรักษาขุนไว้ เกรงว่าแม้แต่ตำแหน่งฮองเฮาของท่านป้าเจ้าก็อาจจะสูญเสียไปด้วยซ้ำ!”

เฟิงจิ่งเหวยกายสั่นสะท้าน ครานี้ทำเอานางรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก "...เกี่ยวข้องกับตำแหน่งฮองเฮาของท่านป้าอย่างไรกันหรือ เป็นไปได้หรือที่ความผิดพลาดของพี่ชายเพียงผู้เดียวจะทำให้ฝ่าบาทถึงขั้นต้องปลดฮองเฮา"

นี่ช่างเหลวไหลเกินไปแล้ว

ใบหน้าของเสนาบดีซ้ายเฟิงอึมครึมลงในทันที เขาเองก็ไม่มีอารมณ์ที่จะอธิบายกับเฟิงจิ่งเหวย จึงเอ่ยขึ้นอย่างขุ่นเคือง "พวกเจ้าแต่ละคนช่างไม่ได้เรื่องจริงๆ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ