เมื่อตกลงกันได้แล้ว จักรพรรดิจ้าวเหรินก็ประทานของรางวัลอย่างอื่นให้เล็กน้อย เพื่อเป็นรางวัลที่รักษาพระเจ้าหลวงกับเรื่องตั้งครรภ์
อวิ๋นหลิงกลับมาถึงตำหนักฉางหนิงก็เปิดรายการบันทึกของรางวัลมาอ่าน หลังจากที่อ่านโดยละเอียดแล้วก็ต้องกระตุกมุมปาก
“รางวัลที่ราชวงศ์พวกเจ้ามอบกัน...ไม่มีความหรูหราเลยหรือ?”
เซียวปี้เฉิงจิบน้ำชา “เสด็จพ่อมอบอะไรให้เจ้าบ้าง?”
“ห้าพันตำลึงเงิน ผ้าเนื้อดีต่างๆอย่างละหนึ่งร้อยผืน ปลิงทะเลกับรังนกมากมาย และยังมีโสมร้อยปีสองอัน...”
ของรางวัลด้านหน้าก็ปกติอยู่ แต่ด้านหลังก็เริ่มพิกลแล้ว
“หมูแฮมสิบชิ้น เนื้อรมควันห้าสิบกิโลกรัม ปลาตากแห้งยี่สิบห้ากิโลกรัม ไก่กับเป็ดตัวเป็นๆอย่างละสิบคู่ ลูกหมูสองตัว และต้นหอมที่ฝูกงกงปลูกอีกสิบมัด”
เซียวปี้เฉิงพยักหน้า “มอบรางวัลอย่างใจกว้างจริงๆ ดูเหมือนเสด็จพ่อจะชอบเจ้ามากนะ”
“ท่านพูดจริงหรือ?”
เซียวปี้เฉิงเลิกคิ้ว “ทำไม หรือเจ้าคิดว่ายังไม่พอ? คนเราไม่ควรละโมบ ของรางวัลพวกนี้มากมายแล้ว”
ใจกว้าง...
ถ้าแววตาของเซียวปี้เฉิงไม่ได้จริงจัง ทั้งยังเจือความอิจฉาไว้ด้วยแล้ว อวิ๋นหลิงก็จะสงสัยว่าจักรพรรดิจ้าวเหรินกำลังล้อนางเล่นอยู่แน่เลย
แม่นมเฉินเป็นคนอ่านแววตาอวิ๋นหลิงออกเป็นคนแรก อธิบายเสียงอ่อนนุ่มว่า “พระชายาคงไม่เคยดูแลเรื่องภายในจวนกระมัง เช่นนั้นก็ปกติที่ไม่รู้ว่าของใช้ในชีวิตประจำวันก็แพงเหมือนกัน”
“ท่านอ๋องพวกเรา ปีหนึ่งได้เงินหนึ่งพันห้าร้อยตำลึง ข้าวสารสามร้อยต้าน หมี่เส้นบางสองร้อยห้ายี่กิโลกรัม ดังนั้นสิ่งที่ฝ่าบาทพระราชทานให้ถือว่าไม่น้อยแล้วเพคะ”
แสดงว่าเดือนหนึ่งเซียวปี้เฉิงได้หนึ่งร้อยยี่สิบห้าตำลึง เงินพวกนี้ต้องเลี้ยงข้ารับใช้ในจวนจิ้งอ๋องสามสิบกว่าคน ทั้งยังต้องจ่ายเงินเดือนให้ข้ารับใช้อีก
เซียวปี้เฉิงกล่าว “ตอนงานเลี้ยงวันเกิดของไทเฮา ไทเฮาก็ได้เพียงสองพันตำลึงเงินเท่านั้น”
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เงินห้าพันตำลึงที่จักรพรรดิจ้าวเหรินมอบให้อวิ๋นหลิงนั้นเท่ากับเงินเดือนสามปีของเซียวปี้เฉิงเลย
หลังจากที่ได้ยินเซียวปี้เฉิงกับแม่นมเฉินเปรยแล้ว อวิ๋นหลิงจึงจะรู้ว่าพระคลังของต้าแคว้นไม่ได้มีมากมายก่ายกอง
ปัจจัยแรกเป็นเพราะอยู่ทิศเหนือ ระยะเวลาการทำนาจำกัด ทั้งยังทำสงครามกับเผ่าทูเจวียหลายปี จึงต้องใช้จ่ายในจำนวนมหาศาล ทำให้การค้าหยุดชะงัก เท่ากับเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเลยทีเดียว
ตั้งแต่รุ่นพระเจ้าหลวงมาจนถึงจักรพรรดิจ้าวเหริน ล้วนสนับสุนนให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างประหยัดอดออม
ต้นไม้ที่ปลูกในสวนหลวงหรือในตำหนัก ส่วนใหญ่จะเป็นต้นผลไม้ ส่วนไทเฮายิ่งเป็นแกนนำปลูกผัก โดยตัดใจปลูกดอกไม้มาชื่นชม
“ปกติเงินในจวนพอใช้ไหม?”
เซียวปี้เฉิงตอบ “พอใช้อยู่ แต่ละเดือนจะเหลือสามสิบกว่าตำลึง”
อวิ๋นหลิงนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะอดถามไม่ได้ “ท่านมีเงินเก็บเท่าไหร่?”
เซียวปี้เฉิงกระแอมเสียง “ประมาณสามร้อยตำลึง”
อวิ๋นหลิงเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข นางเบิกตากว้าง พูดเสียงดังว่า “มีเพียงสามร้อยตำลึง?”
โอ้โห!จนเกินไปแล้ว!
ในนิยายหรือในซีรีส์เวลาจะมอบรางวัลขึ้นมาก็จะได้เป็นตำลึงทองเลย ดังนั้นที่บอกว่าได้เงินหลายหมื่นตำลึง พวกท่านอ๋องและพระชายาใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายก็ไม่ใช่ความจริง ถ้าจะบอกว่ากินดินก็ยังพอเชื่อได้
แม่นมเฉินอธิบาย “ในแต่ละปีท่านอ๋องชนะสงครามก็ได้รางวัลไม่น้อยเหมือนกันเพคะ แต่เอาเงินไปใช้จ่ายในค่ายหมด แล้วต่อมาก็รักษาตัวอยู่ในจวนอย่างเดียว ส่วนเงินที่เหลือก็เอาไปแจกจ่ายให้กับทหารชราที่ป่วยเป็นโรคต่างๆเพคะ”
พอเล่ามาถึงจุดนี้ สีหน้าของเซียวปี้เฉิงก็ย่ำแย่เล็กน้อย
“เดิมทีเก็บได้สามพันตำลึงเงิน แต่ทำพิธีสู่ขอเจ้าเข้าจวนจิ้งอ๋อง จึงใช้จ่ายไปเยอะ”
เงินส่วนนี้เขาเก็บไว้เยียวยาทหารชรา ใครจะไปรู้ว่าฟ้าสวรรค์จะส่งฉู่อวิ๋นหลิงมาให้ ทำให้เขาเสียเงินจนเกือบไม่เหลือแล้วยังคิดจะรังเกียจในความจนของเขาอีก
“ตอนที่ท่านเอาเงินสองพันห้าร้อยตำลึงมาสู่ขอข้า ไม่ใช่จะเหยียดหยามข้า แต่เพราะท่านไม่มีเงินจริงๆหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...