อันชินอ๋องควบคุมอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว หลุบตาอันซับซ้อนลง กลับมามีสีหน้าปกติอีกครั้ง
เขาพยักหน้ากล่าว “ในเมื่อเสด็จพ่อมั่นใจในตัวเด็กคนนี้ เช่นนั้นก็ต้องมีเหตุผลของพระองค์ ลูกไม่มีเหตุผลทักท้วงอีก”
เขาพูดจบก็เดินกลับไปยังที่นั่ง จากนั้นก็ยกมือขึ้น ยกแก้วสุราในมือให้อวิ๋นหลิงด้วยใบหน้าเรียบเฉย ถือเป็นการแสดงความยินดี
อวิ๋นหลิงดื่มสุราตามมารยา เม้มปากยิ้ม “ขอบพระทัยเสด็จลุงเพคะ หม่อมฉันจะไม่ทำให้เสด็จพ่อและพระเจ้าหลวงผิดหวังเพคะ”
ตาเฒ่าดีกับนางขนาดนี้ หากภายภาคหน้านางไม่สร้างคุณูปการเพื่อแว่นแคว้น คงจะผิดต่อความเชื่อใจและการสนับสนุนของเขา
เรื่องการตั้งยศเหนือกฎระเบียบจึงจบสิ้นด้วยประการฉันนี้ คนในท้องพระโรงต่างคิดในแบบฉบับของตัวเอง
พระเจ้าหลวงปฏิเสธกระทั่งคำทักท้วงของอันชินอ๋อง ถึงแม้พวกเขาจะมีความคิดอย่างอื่น แต่ก็ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นแล้ว
ใครใช้ให้ความจริงปรากฏตรงหน้าเล่า อวิ๋นหลิงช่วยพวกเขาแก้ไขปัญหาหนักมือหลายเรื่อง ตอนนี้ถึงจะไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้าทำสิ่งใด
รุ่ยอ๋องมองอวิ๋นหลิงด้วยความตกตะลึง รู้สึกว่าทัศนคติของตัวเองเปลี่ยนไป
เขาพูดเองเออเอง สมองดวงน้อย ๆ ของเขาเต็มไปด้วยคำถาม
“โอ้สวรรค์ ! คนอย่างนางเป็นเทพธิดาหรือ?”
มันต่างจากสิ่งที่เขียนในตำราโดยสิ้นเชิง ในตำราบอกว่าทวยเทพจะอ่อนโยน เมตตาและสงสารสรรพสิ่งบนโลก
“ถ้าจะบอกว่านางออกมาจากขุมนรก คือยมบาลสาวที่มาทวงหนี้หรือมาคร่าชีวิตผู้คน แบบนี้ถึงจะน่าเชื่อกว่า”
ชาติที่แล้วเขาต้องเป็นนักพรตหรือไม่ก็ไต้ซือแน่ จึงได้ไม่ถูกชะตากับอวิ๋นหลิง
“ท่านพูดเหลวไหลอันใด พี่อวิ๋นหลิงสวยขนาดนี้ ทำไมจะไม่ใช่เทพธิดาจุติมาเกิด? ข้ากับพี่ชายเจอครั้งแรกก็รู้สึเหมือนเจอเทพธิดาแล้ว”
หรงฉานใช้ข้อศอกทุบรุ่ยอ๋อง รุ่ยอ๋องกุมท้องด้วยใบหน้าเขียวช้ำ มองอวิ๋นหลิงด้วยความตึงเครียด
อวิ๋นหลิงอมยิ้มแล้วมองมายังรุ่ยอ๋อง เป็นรอยยิ้มอ่อนโยนประหนึ่งสายลมฤดูใบไม้ผลิ
ทว่ารุ่ยอ๋องกลับหนาวสั่นทั้งที่อยู่ในท้องพระโรงอันอบอุ่น ทันใดนั้นเขาปอดแหกขึ้นมา หุบปากแล้วละสายตามา
อวิ๋นหลิงย้ายสายตาไปมองสองสามีภรรยาพระชายาเสียนด้านข้างพวกเขา
แววตาเสียนอ๋องซับซ้อน ตอนสบตากับนางสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที จากนั้นก็ส่งยิ้มอย่างปัญญาอ่อนให้นาง
เซียวปี้เฉิงเห็นทุกอย่าง จึงพูดน้ำเสียงมีความสุขบนความทุกข์คนอื่น
“ครั้งนี้พี่รองคงอึดอัดน่าดู ตอนที่เสด็จลุงยังไม่ได้พูดอะไร เขาเกือบแสร้งทำไม่ไหวแล้ว”
อวิ๋นหลิงก็รู้สึกตลกเช่นกัน ต้องชมว่าเสียนอ๋องแสดงละครได้สมบทบาทมาก
“ด้วยรูปร่างและหน้าต่างของเขา ถ้าอยู่ในโลกของข้า คงได้เป็นดาราอันดับต้นๆไปแล้ว”
งานเลี้ยงครบร้อยวันมีทั้งคนสุขสมและกลัดกลุ้ม และแล้วก็มาถึงช่วงท้ายของงานเลี้ยงแล้ว
วันนี้ต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าทำตัวดีมาก เพ่งความสนใจอยู่ที่เจ้าเสือขี้แยทั้งหมด ไม่มีการร้องไห้งอแงสักนิด
หลังงานเลี้ยงจบสิ้น พระชายาเสียนก็เดินมาแสดงความยินดีกับนางเป็นการพิเศษ ทั้งยังสัพยอกนางว่า
“เมื่อก่อนก็รู้สึกว่าเจ้าไม่ธรรมดา ใครจะไปรู้ว่าเจ้ามีประวัติไม่ธรรมดาขนาดนี้ โธ่เอ้ย ช่างเป็นวาสนาที่ปี้เฉิงสั่งสมมาแปดชาติโดยแท้ ส่วนข้ามีโอกาสได้เป็นสหายกับเทพธิดา คงสั่งสมบุญมาสามชาติกระมัง”
ท่าทางพระชายาเสียนสดใส ท่าทางยังคงสนิทสนมเหมือนแต่ก่อน ไม่ได้พยายามประจบประแจง
“อาชิ่นพูดตลกแล้ว” อวิ๋นหลิงหัวเราะพร้อมกับส่ายหน้า “ใช่แล้ว เมื่อครู่อยากจะถามเจ้าว่าเหตุใดวันนี้ถึงไม่พานั่วเอ้อร์มา?”
พระชายาเสียนยิ้มน้อย ๆ ใบหน้าเจือความกลุ้มใจเล็กน้อย “หลายวันก่อนนั่วเอ้อร์เป็นหวัด ตอนนี้ไอหนักมาก ข้าเลยฝากไว้กับท่านแม่”
อวิ๋นหลิงพยักหน้า นางรู้ว่าหลังจากครั้งนั้น สุขภาพก็ไม่ดีมาโดยตลอด
ถึงแม้กำจัดสารพิษออกไปหมดแล้ว แต่ภูมิต้านทานก็ไม่ดีเท่าเมื่อก่อน ยามนี้อากาศหนาวเหน็บ หากเผลอหน่อยก็ป่วยได้โดยง่ายแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...