พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 262

สามีภรรยาทำงานเข้าคู่กันอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เดิมทีต้องใช้เวลาจัดการงานถึงสิบวันกว่าจะบรรลุผลได้ แต่นี่กลับใช้เพียงห้าวันก็สามารถจัดการทุกอย่างได้แล้ว

วันหยุดอีกห้าวันที่เหลือ อวิ๋นหลิงและเซียวปี้เฉิงจึงได้พักผ่อนอยู่ที่จวน หยอกล้อกับลูกๆทั้งสอง หากไม่มีเรื่องให้ทำก็จะไปเล่นกับเจ้าเสือขี้แย ใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างผ่อนคลายยิ่ง

เจ้าเสือขี้แยเป็นอย่างที่หลิวฉิงว่าไว้ ทั้งกินจุทั้งติดเล่น โชคดีที่ยังฉลาดไม่น้อย อีกทั้งยังรู้วิธีปกป้องเจ้านาย ยามปกติมันจะคอยคุ้มกันอยู่ข้างกายลูกๆทั้งสองไม่ห่างไปไหนไกล แม้จะไม่มีแม่นมเฉินอยู่ดูแลก็นับว่าหายห่วงได้

บ่ายวันนี้ เตาถ่านในห้องเล็กของเรือนหลันชิงก็เริ่มอบอุ่นขึ้น อวิ๋นหลิงเปิดหน้าต่างและประตูเพื่อระบายอากาศ ภายในเรือนที่มีฉากหลังเป็นหิมะช่างดูเพลิดเพลินตาอย่างมาก ขณะที่สือจิ่วก็กำลังถือไม้กวาดกวาดหิมะอยู่ตรงมุมห้อง

ขณะที่อวิ๋นหลิงผู้ว่างงานกำลังเล่นหัวเสืออย่างสนุกสนาน หางตาก็พลางเหลือบไปเห็นเซียวปี้เฉิงที่ก้าวเข้ามาในเรือนหลันชิงอย่างเร่งรีบ ก็ทำสีหน้าแปลกใจ

เมื่อมองจากไกลๆก็เห็นว่าอวิ๋นหลิงนั่งอยู่ในห้อง เขาพลางเดินพลางเอ่ยขึ้น "ศาลาพักม้าส่งจดหมายมา ขบวนจากราชสำนักแคว้นตงฉู่ได้อยู่ห่างนอกเมืองไปสิบลี้ กลางดึกคืนนี้คงจะเข้าสู่เมืองหลวงแล้ว ได้ยินมาว่าที่มาเยือนต้าโจวในคราวนี้นอกจากราชทูตและขุนนางกรมคลัง ยังมีองค์หญิงเก้าธิดาอันเป็นที่รักของจักรพรรดิฉู่ ทั้งยังมีชาวตะวันตกร่วมเดินทางมาอีกด้วย”

เซียวปี้เฉิงเพิ่งจะเอ่ยจบ จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นมาจากมุมห้อง ทั้งสองเดินตามเสียงไปและเห็นว่าสือจิ่วที่กำลังกวาดหิมะไม่ทันระวังลื่มล้มไปกับพื้น

อวิ๋นหลิงเอ่ยเสียงอ่อนโยน "สือจิ่ว เจ้าเป็นอันใดหรือไม่?"

"...ไม่ ไม่เป็นไร เมื่อครู่เพียงแค่ลื่นล้ม ไม่ทันระวัง..."

สือจิ่วลุกขึ้นจากพื้นด้วยความลนลานเก้อเขินเล็กน้อย เสื้อคลุมสะอาดตาของเขาถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดหิมะจำนวนมาก หลังจากพักฟื้นมาหลายเดือน บริเวณใบหน้าที่ถูกน้ำร้อนลวกก็ฟื้นฟูขึ้นมาอย่างสิ้นเชิงแล้ว ยามนี้แก้มปะทะความเย็นจนเห่อแดง ขับรูปลักษณ์ให้หล่อเหลาขึ้นอย่างยิ่ง

เขาจ้องมองอวิ๋นหลิงด้วยดวงตาแมวคู่งาม เสียงแหบแห้งเอ่ยขึ้นเบาๆ "พระชายา กวาดหิมะในเรือนหลันชิงเสร็จแล้ว สือจิ่วขอลาก่อน"

อวิ๋นหลิงพยักหน้า ยิ้มพลางเอ่ยกับเขาเสียงอ่อนโยน "อากาศช่างหนาวเหน็บ กลับห้องไปผิงไฟกับพวกลู่ฉีเถิด"

ในจวนจิ้งอ๋องมีงานไม่มากนัก หากว่าเป็นงานจิปาถะก็จะมีบ่าวรับใช้ไปทำโดยเฉพาะ แม้ว่าสือจิ่วจะเป็นคนไม่พูดไม่จา แต่เขาก็ฉลาดและรู้หนังสือ อันที่จริงอวิ๋นหลิงเพียงอยากให้เขิยู่ข้างกายนางเพื่อช่วยนางสกัดยาเท่านั้น

เดิมทีงานใช้แรงเช่นกวาดหิมะเช่นนี้ก็ไม่ควรเป็นของสือจิ่ว แต่เมื่ออวิ๋นหลิงไม่ได้สกัดยา เขาเองก็ว่างไม่มีเรื่องให้ทำ จนรู้สึกไม่สบายใจที่จะอยู่กินในจวนไปโดยไร้ประโยชน์ ดังนั้นเขาจึงมักจะเป็นฝ่ายไปหางานมาทำด้วยตนเอง

เซียวปี้เฉิงมองดูแผ่นหลังที่เดินกะโผลกกะเผลกของเขา ขมวดคิ้วเล็กน้อย "เด็กคนนี้อารมณ์ค่อนข้างผิดปกติ ในยามปกติจะสุขุมเป็นอย่างมาก นิสัยเช่นนั้นเกรงว่าผายลมก็คงไม่อาจจะทำได้"

อวิ๋นหลิงส่ายหัวพลางยิ้ม มองดูร่างของสือจิ่ว "เมื่อครู่ที่ท่านเอ่ยเอ่ยถึงตงฉู่ คงจะทำให้เขาสะเทือนใจไม่น้อย"

สือจิ่วเป็นชาวตงฉู่ และดูเหมือนว่าเขาจะมาจากภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา อวิ๋นหลิงลองคาดเดาไปต่างๆนาๆถึงฐานะของเขามาโดยตลอด อีกทั้งยังเคยสืบถามอย่างสงสัยใคร่รู้อีกด้วย

แต่ทุกคราที่ถามคำถามเหล่านี้ขึ้นมา สือจิ่วจะมีท่าทีอึกอักหรือใช้ความเงียบแทนคำตอบ เพื่อแสดงถึงการต่อต้านและความเจ็บปวด อวิ๋นหลิงเองก็ไม่อยากจะทำให้เด็กหนุ่มอายุสิบห้าปีเช่นนี้ลำบากใจจนเกินไป พอนานวันเข้าก็ไม่เอ่ยถามขึ้นมาอีก

เมื่อเห็นว่าร่างของสือจิ่วลับตาไปแล้ว อวิ๋นหลิงยังคงไม่ละสายตาไป เซียวปี้เฉิงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย

“ดูเหมือนเจ้าจะชื่นชมสือจิ่วไม่น้อย”

แม้ว่าอวิ๋นหลิงจะไม่ได้แสดงออกอย่างชัดเจน แต่เขาก็รู้สึกได้

“ข้าแค่คิดว่าสือจิ่วเป็นรักแรกพบ” อวิ๋นหลิงละสายตาออก มองเซียวปี้เฉิงด้วยท่าทางขบขัน “อะไรกัน แม้แต่เด็กหนุ่มอายุเพียงสิบห้าเจ้ายังจะอิจฉาหรือ?”

สือจิ่วมีดวงตาแมวที่งดงามคู่หนึ่ง ที่คล้ายกับน้องเล็กเป็นอย่างมาก ทุกคราที่นางมองสือจิ่ว อวิ๋นหลิงอดที่จะนึกถึงน้องเล็กไม่ได้ นอกจากสือจิ่วจะรู้ความและฉลาดแล้ว นี่ยังเป็นอีกเหนุ่งในเหตุผลที่ทำให้นางชอบสือจิ่ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ