พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 265

ตี้หวู่เหยาสะบัดมือเหวินกงกงออกด้วยความโกรธ "ก็ได้ ข้ารู้แล้ว!"

“องค์หญิง ความหมายของสิ่งที่จักรพรรดิโจวสอบถามจิ้งอ๋องสามีภรรยานั้นชัดเจน พวกเขาก็ปฏิเสธเราอย่างชัดเจน ท่านไม่ไปเจรจาบีบังคับอีกฝ่ายจริงๆหรอกใช่หรือไม่?”

เหวินกงกงรู้สึกเป็นกังวลยิ่ง พลันรู้สึกว่าตนเองแก่ลงในชั่วข้ามคืน

“นี่มิใช่เป็นการกลั่นแกล้งผู้อื่นและเจตนาเข้าไปแทรกแซงมิใช่หรือ นี่ไม่ใช่สิ่งที่องค์หญิงผู้สูงศักดิ์แห่งแคว้นควรทำ! นอกจากนี้ ท่านมิใช่ว่าดูแคลนคนเช่นนี้ที่สุดมิใช่หรือ…”

ใบหน้าของตี้หวู่เหยาพลันแดงก่ำ ดวงตารูปอัลมอนด์ของนางเบิกกว้าง จนอดขึ้นเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจ

“ผู้ใด ผู้ใดจะเข้าไปแทรกแซงกันเล่า! ข้า...ข้า...แค่อยากแข่งขันอย่างยุติธรรม!”

“ท่านต้องการการแข่งขันที่ยุติธรรมเยี่ยงไร?” ดวงตาของเหวินกงกงเริ่มดูเหนื่อยล้าและอ่อนแรง “หรือว่าท่าจะแข่งขันด้านความงามหรือว่าด้านศิลปะกับพระชายาจิ้งอ๋องเล่า?”

แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยพบกับฉู่อวิ๋นหลิง แต่พวกเขากลับได้ยินเรื่องราวมาไม่น้อยที่เกี่ยวอีกฝ่ายระหว่างทางมาที่นี่

เมื่อได้ยินว่าพระชายาจิ้งอ๋องเป็นสตรีที่งดงามอันดับหนึ่งและมีทักษะการแพทย์ล้ำเลิศแห่งซีโจว เหวินกงกงรู้สึกว่านอกเหนือจากภูมิหลังทางครอบครัวแล้ว คงจะเป็นเรื่องยากหากจะให้องค์หญิงเก้าแข่งขันกับนาง

ตี้หวู่เหยาไม่สบอารมณ์และแสดงท่าทีลังเลเล็กน้อย “ข้าไม่สน ข้าเพียงแค่ไม่อยากยอมรับมัน เขายังไม่ทันได้พบข้าก็ปฏิเสธข้าก่อนแล้ว เมื่อได้พบกัน เขาอาจจะนึกถึงข้าบ้างก็ได้”

เหวินกงกงจับใจความสำคัญในคำพูดได้อย่างฉับไว“ข้าขอบังอาจถาม ท่านจิ้งอ๋องรู้จักฐานะขององค์หญิงในยามนั้นหรือไม่?”

ตี้หวู่เหยาส่ายศีรษะ "ข้าไม่ได้บอกเขา"

“เช่นนั้นเหตุใดท่านถึงไม่ยอมเล่า” เหวินกงกงยอมแพ้ต่อนางพลางอดกลอกตาไม่ได้ “จิ้งอ๋องไม่รู้จักตัวตนเลยตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ อยู่ๆท่านก็ไปเสนอที่จะแต่งงานกับเขาอย่างขอไปที ผู้อื่นก็ต้องปฏิเสธแน่นอน หรือไม่ก็คงคิดว่าสมองของท่านกำลังมีปัญหา ... "

ใบหน้าของตี้หวู่เหยาเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวขวาสลับไปมา "ตอนนั้นข้ากังวลเกินกว่าจะใส่ใจกับรายละเอียดเหล่านี้"

แต่ไม่นานนางก็กลับมามีกำลังใจอีกครั้ง

“เจ้าเอ่ยเช่นนี้ เช่นนั้นข้ายังคงมีโอกาสอยู่ ไม่แน่เขาอาจจะคิดถึงข้าอยู่ก็เป็นได้?”

ใบหน้าของเหวินกงกงย่นเป็นดอกเบญจมาศ “องค์หญิง…”

“เจ้าเงียบไปเสีย ข้าตัดสินใจแล้วและไม่มีใครมาห้ามข้าได้ นอกจากนี้เขายังเป็นฝ่ายให้คำสัญญากับข้า ดังนั้นข้าก็ถือว่ามีเหตุมีผล!”

หลังจากที่ตี้หวู่เหยาพูดจบ นางก็ไม่สนใจเหวินกงกงและนั่งอยู่ริมหน้าต่าง นางหยิบป้ายไม้เล็กๆสีเหลืองเก่าๆออกมาจากอกของนาง พลางเล่นกับมันอย่างเศร้าโศก

เมื่อสามปีที่แล้ว คณะราชทูตจากตงฉู่เดินทางไปยังแคว้นถังใต้

นางขี้เล่นมาก ก่อความวุ่นวายเพราะอยากไปแคว้นถังใต้กับเสด็จพ่อ แต่ระหว่างทางนางก็ถูกผู้ค้ามนุษย์หลอกโดยไม่ได้ตั้งใจ แคว้นถังใต้กับแคว้นซีโจใกล้กันมาก และนางเดินไปตลอดทางจนถึงชายแดนของต้าโจวใกล้กับสุยเฉิง

ในช่วงเวลาที่สิ้นหวังโดดเดี่ยวเป็นที่สุด กลับได้พบคนผู้นั้นที่จะไม่มีวันลืมในชีวิต

นางได้รับการช่วยเหลือจากอีกฝ่ายในสงครามอันดุเดือด และพวกเขาต่างฝ่ายก็ต่างสนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อหลีกเลี่ยงการตามล่าผู้ค้ามนุษย์และชาวทูเจวีย นับว่าเป็นเวลาสามวันที่น่าตื่นตกใจที่สุดในประวัติศาสตร์

น่าเสียดายที่ทันทีที่อีกฝ่ายพานางไปพักที่โรงเตี้ยม ทหารพลีชีพของตงฉู่ก็มาช่วยเหลือนางเอาไว้

ตี้หวู่เหยาไม่มีเวลาบอกเขาถึงตัวตนของนาง และเมื่อนางถาม ชายคนนั้นก็ไม่ยอมบอกชื่อเสียงเรียงนามของตนเช่นกัน

มีเพียงป้ายไม้เพียงแผ่นเดียวที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง เผยให้เห็นตัวตนของอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ

ตี้หวู่เหยามองไปที่ป้ายไม้เล็กๆบนฝ่ามือ ดวงตาฉายแววซับซ้อนพาดผ่าน

นี่คือตราทหารของค่ายทหารต้าโจว แม่ทัพแต่ละคนก็จะมีแผ่นไม้ที่แตกต่างกันออกไป

นางได้สอบถามมาโดยเฉพาะว่าป้ายไม้นี้มีอำนาจขั้นสูงสุดและคนเดียวที่สามารถถือตราทหารในค่ายป้องกันโดยรอบได้ก็คือจิ้งอ๋องผู้เดียว

เช้าวันรุ่งขึ้น

อวิ๋นหลิงตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมงานเลี้ยงต้อนรับในพระราชวัง

เซียวปี้เฉิงรู้สึกไม่สบายใจ หลังจากอวิ๋นหลิงกลับมาจากวังเมื่อคืนนี้นางก็พลอยไม่เบิกบาน และมักจะเมินเฉยต่อเขา

กระทั่งว่าเมื่อคืนไม่ยอมพูดคุยเรื่องทักษะการขับรถกับเขาในชั้นเรียนด้วยซ้ำ แน่นอนว่าทุกวันนี้ พวกเขาต้องใช้เวลา "แลกเปลี่ยนความรู้สึก" กันทุกคืน

เมื่อคุ้นเคยกับเนื้อสัตว์และอยู่ๆก็ถูกบังคับให้กินเจ เซียวปี้เฉิงพลันรู้สึกอึดอัดไปทั้งตัว

เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามอย่างระมัดระวังว่า “เจ้าโกรธข้าหรือ”

อวิ๋นหลิงเหลือบมองเขา หันหลังให้และแต่งหน้าต่อไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ