อวิ๋นหลิงเงียบงันไปครู่หนึ่ง ก่อนกระซิบว่า “พวกเรากลับไปขอความเมตตาจากพระเจ้าหลวง ให้ย้ายหลุมศพของเสด็จแม่ไปยังใจกลางสุสานหลวง”
ตามกฎแล้ว เฉพาะสนมที่มียศเฟยขึ้นไปเท่านั้นจึงจะฝังไว้ที่ใจกลางสุสานหลวงได้ เห็นชัดว่ายศของจวิ้นกุ้ยเหรินนั้นไม่เพียงพอ
แต่หากเซียวปี้เฉิงได้รับแต่งตั้งเป็นรัชทายาท อีกไม่นานก็คงจะประทานยศให้จวิ้นกุ้ยเหรินได้
เพียงแต่ช่วงที่จะเปลี่ยนจากกุ้ยเหรินมาเป็นขั้นเฟยนั้นค่อนข้างห่างกันมาก แต่อวิ๋นหลิงรู้สึกว่าด้วยความละอายใจและอยากชดเชยของจักรพรรดิจาวเหริน เรื่องนี้น่าจะมีหวัง
สายตาของเซียวปี้เฉิงค่อยๆ แน่วแน่ขึ้น กล่าวช้าๆ “ข้าจะทำแน่นอน ไม่มีใครขวางข้าได้”
“กังวลหรือไม่ว่าหวงกุ้ยเฟยจะไม่พอใจ”
ในวังมีกฎระเบียบมากมาย หากนางสนมที่สถานะต่ำต้อยให้กำเนิดบุตร จะมีสนมที่สถานะสูงกว่ารับไปเลี้ยงดูก็มีอยู่ถมไป เด็กที่ถูกพรากไปจะเรียกมารดาผู้ให้กำเนิดว่าเสด็จแม่ไม่ได้ด้วยซ้ำ
“ถึงนางจะไม่เห็นด้วย ข้าก็ไม่ยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว”
อวิ๋นหลิงจับมือของเขาแรงขึ้นอีกหน่อย “อืม ตอนนี้นางจะมาเจ้ากี้เจ้าการพวกเราไม่ได้อีกแล้ว”
สัมผัสที่นุ่มนวลและอบอุ่นแผ่ออกมาจากฝ่ามือ อารมณ์บูดบึ้งของเซียวปี้เฉิงก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
เห็นท่าทางหดหู่โดยไม่รู้ตัวของอวิ๋นหลิง เขาก็ยกมุมปากขึ้นพูดว่า “ดูเจ้าเศร้าซึมกว่าข้าอยู่สักหน่อย”
“ข้าไม่สงสารเจ้าหรอก ลูกที่ไม่มีแม่ก็เหมือนหญ้า พ่อที่ไม่เหลียวแลก็หวังพึ่งไม่ได้”
สมัยเป็นเด็กอวิ๋นหลิงเติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างบิดเบี้ยว ตั้งแต่จำความได้นางไม่เคยได้รับความรักจากแม่มาก่อนเลย
ในอดีต นางเคยเห็นนกกาหากินเอาอาหารป้อนลูกแล้วเลียขนลูกน้อยด้วยความรักอันลึกซึ้งกับตา แต่นางไม่มีอารมณ์ร่วมด้วย เพราะไม่เคยสัมผัสความรู้สึกเช่นนั้นมาก่อน จึงไม่ได้โหยหาหรือห่วงใย
แต่ตอนนี้สิ่งต่างๆ เปลี่ยนไป นางคิดอีกมุม ถึงแม้ยามปกติพี่น้องฝาแฝดมักจะตัวติดกัน แต่หากมีใครมาขวางแทรกกลางจนแยกแม่ลูกออกจากกันไปละก็ ลำพังแค่คิดก็รู้สึกตื่นตระหนกและเจ็บปวดในใจ
เซียวปี้เฉิงหลุดหัวเราะพลางกล่าวว่า “พูดตามตรง ถึงในใจหวงกุ้ยเฟยจะมีแต่อวี้จือ แต่นางก็ไม่ถึงขั้นรุนแรงหรือใจร้ายกับข้านักหรอก”
ก่อนที่เยียนอ๋องจะเกิดอุบัติเหตุที่ขา ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกค่อนข้างกลมเกลียวกันดี
หวงกุ้ยเฟยมักจะเข้มงวดเรื่องเรียนและฝึกยุทธ์กับเขามาตลอดตั้งแต่ยังเด็ก แม้จะเอาความดีที่เขาทำประเคนให้เยียนอ๋อง แต่อย่างน้อยเขาก็คำนึงถึงคำสอนของนางในด้านเหล่านี้
“ท่านจะเอานางไปเปรียบกับฮองเฮาไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นใครๆ ก็คงเป็นมารดาผู้โอบอ้อมอารีกันทั้งนั้นแหละ”
อวิ๋นหลิงงึมงำเบาๆ แต่ไม่ได้พูดจาดูหมิ่นหวงกุ้ยเฟยแต่อย่างใด
อย่างไรเสียเมื่อเทียบกับฮองเฮาเฟิงแล้ว หวงกุ้ยเฟยมีนิสัยแย่ก็จริงอยู่ แต่ไม่เคยคิดทำร้ายองค์ชายคนอื่นๆ เลย
เซียวปี้เฉิงถอนใจ แย้มยิ้มอย่างสงบ “จู่ๆ ข้าก็รู้สึกปลงอนิจจัง หากไม่มีหวงกุ้ยเฟยละก็ บางทีข้าอาจจะตายไปแล้ว”
อย่างน้อยระหว่างเขากับหวงกุ้ยเฟยก็ยังมีความรักระหว่างแม่ลูกอย่างจริงใจอยู่สักช่วงหนึ่งด้วยซ้ำ
พูดตามตรง หลายปีก่อนที่เยียนอ๋องจะลืมตาดูโลก การมีตัวตนอยู่ของเขาช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของหวงกุ้ยเฟยที่ต้องสูญเสียลูกชายไปได้
ส่วนความรักและการดูแลที่หวงกุ้ยเฟยมีต่อเขานั้น ยังช่วยขัดขวางความคิดของฮองเฮาเฟิงที่จะลงมือกับเขาได้ในระดับหนึ่งด้วย
ทว่าน่าเสียดาย เด็กที่เก็บมาเลี้ยงจะไปสู้ลูกในไส้ได้อย่างไร
เอ่ยถึงฮองเฮาเฟิง ดวงตาของอวิ๋นหลิงก็หม่นแสงลงอีก “ท่านคิดจะจัดการลงโทษฮองเฮาเฟิงอย่างไร”
เซียวปี้เฉิงหุบยิ้ม ก้นบึ้งดวงตาบึ้งตึงราวกับมีน้ำค้างแข็งเกาะพราว สีหน้าท่าทางสับสน
“ข้ารู้สึกขัดแย้งยิ่งนัก ทางหนึ่งแทบรอไม่ไหวให้นางตกตายตามไป เพื่อปลอบขวัญดวงวิญญาณแม่ข้าบนสวรรค์ แต่ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้นางตายง่ายๆ เช่นนี้”
“แต่ถ้าเจ้าให้ข้าเลือก ข้าก็ไม่อยากให้นางมีชีวิตอยู่”
อวิ๋นหลิงเข้าใจอารมณ์ที่สับสนวุ่นวายของเขาได้ เมื่อครู่นางเกิดความรู้สึกแบบเดียวกันขึ้นมา “มาดูกันว่าเสด็จพ่อจะตัดสินใจอย่างไร หวังว่าท่านจะไม่ทำให้พวกเราผิดหวัง”
สิ่งที่ฮองเฮาเฟิงทำก็เพียงพอจะประทานโทษประหารชีวิตให้แก่นางได้แล้ว หากจักรพรรดิจาวเหรินยังหวนคิดถึงเยื่อใยเก่าๆ อวิ๋นหลิงก็ไม่ถือสาที่จะสำเร็จโทษเสียเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...