ครั้นสัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมองมาอย่างเย็นชาของคนข้างๆ ในใจเซียวปี้เฉิงก็สะดุ้งเฮือก รีบแย้งอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “กุเรื่องขึ้นมาล้วนๆ! ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องพรรค์นี้มาก่อนเลย!”
สิ้นคำ เขาเดินนำหน้าขึ้นไปยังห้องของชั้นสอง ในใจก็ก่นด่าลูกหลานตระกูลสูงศักดิ์ที่เหิมเกริมพูดจาส่งเดชอย่างสาดเสียเทเสีย
กล้าพูดเรื่องบ้าบอไร้สาระเยี่ยงนี้ จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาของเขา ฉะนั้นต้องสั่งสอนเด็กคนนั้นให้ลิ้มรสความทุกข์ทรมานสักหน่อย!
ที่ห้องชั้นสอง
แสงยามอรุโณทัยที่สลัวรางสาดส่องเข้ามาจากหน้าต่างฉลุลายบุปผา หนังสือจำนวนนับไม่ถ้วนถูกจัดวางอย่างแน่นหนาบนชั้นหนังสือที่จัดอย่างประณีต แต่โต๊ะกับเก้าอี้ที่วางอยู่บนพื้นที่เปิดโล่งตอนนี้กลับล้มระเนระนาด
ชายหนุ่มวัยประมาณยี่สิบถูกชายรุ่นราวคราวเดียวกันสี่ห้าคนห้อมล้อม เขาสีหน้าตึงเครียด ถลึงตาใส่ชายตรงหน้าด้วยสายตาสุดแสนกดดัน
ทุกคนในห้องต่างยืนขึ้น มีเพียงชายที่สวมชุดแพรหรูหราคนเดียวที่กำลังเอนกายอยู่บนเก้าอี้โดยวางเท้าข้างหนึ่งพาดไว้บนโต๊ะอย่างสบายเหลือแสน
“ยังไม่ยอมแพ้อีกหรือ”
ในมือชายสวมชุดแพรถือหนังสือเล่มหนาเตอะ มีตัวอักษรสี่ตัวเขียนว่า ‘คัมภีร์สิ่งประดิษฐ์ธรรมชาติสร้าง’ เขียนอยู่บนหน้าปก เขาพลิกดูด้วยความสนใจ
“จุ๊ๆๆ หนังสือเล่มนี้มีเล่มเดียวกระมัง ถ้าคนในห้องสมุดรู้ว่าเจ้าทำหนังสือเล่มนี้เปียก เจ้าว่าพวกเขาจะลงโทษเจ้าอย่างไร”
ตอนจัดแยกหนังสือก่อนหน้านี้ อวิ๋นหลิงตั้งกฎพิเศษว่าจะไม่ให้เช่าหนังสือที่มีอยู่เพียงเล่มเดียว และจะมีเครื่องหมายสีแดงบนหน้าปกทำสัญลักษณ์กำกับไว้
บนกระดานประกาศในลานเขียนกฎแต่ละข้อไว้อย่างชัดเจน หากทำหนังสือที่มีอยู่เพียงเล่มเดียวหายไปหรือทำลายไป ไม่เพียงจะต้องจ่ายเงินจำนวนมหาศาลแล้ว ยังต้องเจอโทษจำคุกอีกด้วย
หลังจากชายสวมชุดแพรพูดจบ ผู้ติดตามที่อยู่ข้างๆ ก็ยกชาถ้วยหนึ่งขึ้นอย่างรู้ความทันที ในห้องสมุดมีห้องน้ำชาอยู่ตรงมุมของแต่ละชั้น
ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเฟิงอู๋จีก็แปรเปลี่ยนไปในที่สุด ก่อนเอ่ยเสียงเข้ม “ในเมื่อรู้ว่าเป็นหนังสือที่มีอยู่เพียงเล่มเดียว เจ้าก็อย่าทำอะไรเหลวไหลสิ!”
ไม่ใช่ว่าเขากลัวอีกฝ่าย แต่นี่เป็นหนังสือหายาก ฉะนั้นเขาจึงมาในวันนี้
หากหนังสือเปียกน้ำ รอยหมึกซึมเลอะเทอะขึ้นมาละก็ หนังสือเล่มนี้จะเสียหาย
ถ้วยชาที่เอียงครึ่งหนึ่งในมือชายสวมชุดแพรนั้นถืออยู่เหนือหนังสือ ก่อนเลิกคิ้วพูดว่า “ขอเพียงเจ้ายอมคุกเข่าลง ข้าจะอนุโลมปล่อยเจ้าไปสักครั้ง นี่...อย่ามองข้าด้วยสายตาเช่นนั้น ใครใช้ให้เจ้าดวงกุดเอง เมืองหลวงออกใหญ่โตปานนี้ กลับบังเอิญมาพบข้าที่นี่เสียได้”
เขาเอ่ยยิ้มๆ เอียงถ้วยชามากขึ้นเรื่อยๆ
เฟิงอู๋จีขมวดคิ้ว ขณะกัดฟันกำลังจะคุกเข่าลง ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงแหลมคมดังกังวานแหวกอากาศ
หลังจากเสียงดัง ‘ฟิ้ว’ แหวนหยกวงหนึ่งก็ลอยออกมาจากอากาศ พุ่งใส่ข้อมือชายที่สวมชุดแพรด้วยความแม่นยำอย่างแรง
ข้อมือของเขาถูกปัดออก ถ้วยชาหล่นลงพื้นแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เสียงร้องโอดโอยเจ็บปวดมาพร้อมกับเสียงแตกร้าวของชิ้นส่วนถ้วยกระเบื้อง
“ใคร! ไอ้สารเลวตัวไหนกล้า...”
ชายสวมชุดแพรหันไปมอง เสียงโกรธเกรี้ยวก็หยุดลงฉับพลันเมื่อเห็นเซียวปี้เฉิง สีหน้าฉายแววประหลาดใจเหลือแสน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...