สำหรับความวุ่นวายภายในตระกูลหลี่ อวิ๋นหลิงกลับไม่ทราบเลยแม้แต่น้อย
เมื่อไม่มีห่านหัวโตส่งเสียงร้องแสบแก้วหู ก็รู้สึกสบายขึ้นไม่น้อย
หลังจากที่เซียวปี้เฉิงสะสางราชการเสร็จก็กลับไปที่ตำหนักบูรพา ยิ้มพลางเอ่ยกับนาง "ครานี้เจ้าตัวน้อยลงมือได้เยี่ยมมาก เมื่อไม่กี่วันก่อนเสด็จพ่อเข้าไปคุยกับหลี่กุ้ยเฟยเป็นการส่วนตัว ไม่ยอมให้นางปูทางให้กับสตรีตระกูลหลี่เพื่อเข้าวัง”
จักรพรรดิจาวเหรินให้ความสนใจกับเรื่องเกี่ยวกับเทพเจ้าเหล่านั้น แม้ว่าเฟิ่งเหมียนจะตัดสินหลี่เมิ่งเอ๋อร์จากรูปลักษณ์หน้าตาเพียงผู้เดียว แต่เขากลับขึ้นบัญชีดำตระกูลหลี่ไว้ทั้งหมดแล้ว
อวิ๋นหลิงเลิกคิ้วพลางถาม "ในเมื่อเป็นการพูดคุยส่วนตัวระหว่างเสด็จพ่อกับหลี่กุ้ยเฟย ฉะนั้นท่านทราบได้อย่างไรเล่า ลอบฟังผู้อื่นอย่างนั้นหรือ?"
“แค่กแค่ก... ช่วยไม่ได้ พลังจิตสูงขึ้นไม่น้อย พอเดินผ่านตำหนักแสงซีจึงคิดจะเพิ่มพลังการฟังให้มากขึ้น ประจวบเหมาะที่ได้ยินทุกอย่างเข้าพอดี”
เมื่อเอ่ยถึงพลังจิตที่ตื่นขึ้นอย่างไม่คาดคิด เซียวปี้เฉิงเพียงรู้สึกว่าสะดวกขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับความสามารถในการเคลื่อนย้ายวัตถุ การเพิ่มพลังของประสาทสัมผัสทั้งห้าทักษะการมองและการฟังถือเป็นทักษะที่เขาใช้บ่อยที่สุด
หลังจากเพิ่มพลังแล้ว ทักษะการมองและการฟังของเขาจะสูงเกินกว่าที่คนทั่วไปจะตามได้ทัน
ขณะที่ไปลาดตระเวนค่ายทหาร จึงถือโอกาสยิงธนูยาว ปรากฏว่ายิงแม่นโดยไม่ต้องเปลืองแรงแต่อย่างใด ทำเอานายทหารในค่ายต่างประหลาดใจไปตามๆกัน
ทำให้เหตุการณ์เล็กๆน้อยๆในวังไม่อาจเล็ดรอดไปจากสายตาของเซียวปี้เฉิงได้อีกต่อไป สิ่งที่เหล่าขุนนางมักกระซิบกระซาบกันในยามปกติ เขานั้นล้วนรู้แจ้งทะลุปรุโปร่ง อีกทั้งได้รับข่าวสารไวยิ่งกว่าเหล่าองครักษ์เงาเสียอีก
เมื่อมีข่าวสารเหล่านี้ ก็ทำให้เขารับมือกับบรรดาขุนนางในราชสำนักได้อย่างคล่องแคล่วมากยิ่งขึ้นและสามารถที่จะบีบคั้นอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย
หากบอกว่าความสามารถนี้ไม่ดีที่ใด ก็คงเป็นที่ถูกบังคับให้ฟังเรื่องนินทาแปลกๆ มากมายกระมัง
ไม่ว่าจะเป็นอุบายของนางกำนัลน้อยจากตำหนักฉางหนิงยอดเยี่ยมมาก ทั้งเหยียบเรือสองแคมและมีเล็กมีน้อยอีกมากมาย...
ไม่ว่าจะเป็นองครักษ์ของตำหนักแสงซีมีนิสัยชอบไม้ป่าเดียวกัน ชอบแอบลวนลามขันทีน้อยของกรมวังในที่ลับตาคน...
ไม่ว่าจะเป็นขณะที่พระเจ้าหลวงบรรทมเมื่อคืนวานได้ผายลมไปสามครั้ง เสียงยังดังพอๆกับเสียงกรนของเขา...
“จริงสิ หลายวันมานี้ข้ามักจะได้ยินลู่ฉีซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้องแอบเช็ดน้ำตาและร้องไห้ให้กับดอกไม้ในสวน ท่านโป้ปดจนทำเอาเขาทุกข์ใจ”
ข่าวที่ว่าจักรพรรดิจาวเหรินมอบจื่อเถาให้อภิเษกสมรสกับโม่อ๋องได้แพร่กระจายไปแล้ว ยามนี้ทุกคนในเมืองหลวงต่างลอบอิจฉาที่จื่อเถามีชีวิตที่ดีลู่ฉีเองก็ทราบข่าวนี้แล้วเช่นกัน
ก่อนหน้านี้อวิ๋นหลิงเกลี้ยกล่อมลู่ฉีว่าให้เขารวบรวมเงินให้พอสำหรับภรรยาก่อนจะขอแต่งงานกับจื่อเถา ตอนนี้รวบรวมเงินไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว ทว่าภรรยาที่เฝ้าแต่นึกถึงกลับไม่มีแล้ว ทำให้หัวใจดวงน้อยได้รับความบอบช้ำอย่างรุนแรง
อวิ๋นหลิงรู้สึกละอายใจ “ผู้ใดให้เขานำเงินที่หามาอย่างยากลำบากทั้งหมดมอบให้กับจื่อเถา หากมิใช่ข้ากลัวว่าเขาจะทำให้ทรัพย์สินสูญเปล่าแล้ว ก็ยังเป็นผลดีต่อเขา”
แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นางยังคงกำชับตงชิงไปหลายประโยค ขอให้นางช่วยปลอบใจลู่ฉีที่กำลังอกหักสักครา
ระยะนี้ลู่ฉีแลดูหดหู่ไร้ชีวิตชีวา คนเรายามอกหัก แม้แต่อาหารก็ไร้รสชาติ
ยามปกติมักจะพุ่งไปที่โต๊ะอาหารเป็นคนแรกเสมอ ทว่ายามนี้องครักษ์ด้านข้างกินไปแล้วถึงสามชาม ในชามเขากลับเหลือข้าวมากกว่าครึ่ง
ขณะพักกลางวัน ลู่ฉีนั่งอยู่ที่มุมทางเดิน แหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ด้วยสีหน้าที่ระทมทุกข์
ตงชิงถือกล่องอาหารเดินมาข้างกายเขาด้วยฝีเท้าที่เร่งรีบแกมระมัดระวัง เอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริง
"ดูสิ! ขนมซู่ซานรสชาติใหม่จากร้านขนมเจินซ่าน!"
สิ่งที่เรียกว่า "ซู่ซาน" นั่นก็คือไอศกรีมในรูปแบบโบราณนั่นเอง
ต้าโจวเก่งในการทำดินปืนและอัตราการใช้ดินประสิวก็สูงมาก วิธีการทำน้ำแข็งเองได้รับความนิยมในหมู่ชาวบ้านมาหลายปีแล้ว
ทุกๆฤดูร้อน มักจะมีแตงโมแช่เย็นและผลไม้เย็นๆไว้ดื่มดับร้อน
ตงชิงเปิดกล่องอาหารและเห็นชามกระเบื้องสีขาวชามหนึ่งมีน้ำแข็งบดอยู่ตรงกลางจำนวนมาก บดจนเนื้อละเอียดอ่อนราดด้วยเนย ตกแต่งด้วยผลไม้สีแดงสด น้ำผึ้งสีทอง ทั้งยังมีแตงโมหั่นชิ้นเล็กและตกแต่งด้วยดอกไม้ มองดูแลงดงามตระการตานัก
เพราะอาหารชนิดนี้มีลักษณะคล้ายภูเขาลูกเล็กๆ ผู้คนจึงมักเรียกกันว่า "ซู่ซาน"
ลู่ฉีซึ่งปกติจะกินซู่ซานหนึ่งชามในแทบจะวันเว้นวัน ยามนี้กลับได้แต่มองดูมันอย่างเศร้าใจ
“เจ้ามาได้ยังไง”
“พระชายารัชทายาทเห็นว่าระยะนี้เจ้าไม่อยากอาหาร จึงได้ให้ข้ามาดูเจ้าเป็นการเฉพาะ ขนมซู่ซานนี้มีรสชาติเซียงจา เพิ่มความอยากอาหารยิ่งนัก”
เดิมทีอวิ๋นหลิงได้รับพระราชทานรางวัลเป็นขนมเรียกน้ำย่อยจากห้องเครื่อง แต่ตงชิงกลับเวลาหยุดครึ่งวันโดยเฉพาะเพื่อออกจากวังมาซื้อซู่ซาน
ราคาของซู่ซานไม่นับว่าถูก นางใช้เงินทั้งหมดของตนเองและรออยู่ใต้แสงแดดเป็นเวลานานจนผิวหนังของนางแทบจะลอกออก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...