เว่ยฉือเลี่ยก็หันมามองเช่นเดียวกัน
ดวงตาของเขาสอดส่ายไปรอบๆตัวของสองสามีภรรยา สายตาหยุดลงบนใบหน้าสวยงามของอวิ๋นหลิงหลายอึดใจ
หลังจากนั้นก็รีบเก็บสายตากลับไปอย่างมีมารยาท ไม่จ้องมองนางตรงๆอีก
คนที่เข้าร่วมงานเลี้ยงในวันนี้มีไม่มาก ขุนนางที่มาร่วมงานเลี้ยงล้วนมีขั้นขุนนางระดับสองขึ้นไป
ในบรรดาพระสนม มีเพียงสนมลี่ผินกับเหลียงเฟยเท่านั้น พระสนมหลี่บอกว่าสุขภาพไม่ดีจึงไม่เข้าร่วม
หลังจากสองสามีภรรยานั่งประจำที่ จักรพรรดิจาวเหรินก็โบกมือ
“ข้าได้ยินว่าระหว่างทางกลับเมืองหลวงพวกเจ้าได้เจอหน้ากันแล้ว เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องพิธีรีตองอะไร ข้างๆนั้นมีเหล้านมม้าที่ทางทูเจวียตะวันออกนำมามอบให้เป็นการเฉพาะ เทมาให้เหล่าขุนนางที่รักของข้าได้ชิมเถอะ”
เขายังไม่รู้เรื่องของเว่ยฉือเลี่ยกับองค์หญิงหก เวลานี้ดูแล้วมีท่าทีอ่อนโยนมีไมตรีมาก
พระเจ้าหลวงดูจะเป็นคนที่มีความสุขจิตใจเบิกบานมากที่สุด รีบเรียกให้นางกำนัลรินเหล้าถ้วยใหญ่ให้ตนเองอย่างอดใจรอไม่ไหว จากนั้นก็ยกขึ้นดื่มรวดเดียวไปครึ่งถ้วย
“สะใจจริงๆ ข้าไม่ได้ดื่มเหล้านมม้าต้นตำรับที่สดใหม่เช่นนี้มาหลายสิบปีแล้ว”
ตาแก่น้อยเติบโตมาที่เมืองสุย ตอนหนุ่มๆไปมาหาสู่กับชาวทูเจวียไม่น้อย และชอบสิ่งนี้มาก
อ๋องทูเจวียผู้เฒ่าที่ตายไปตอนที่ยังนับถือเขาเป็นพี่ชายนั้น มักจะส่งเหล้านมม้าต้นตำรับมาให้เขา แต่หลังจากที่ทั้งสองคนต่างคนต่างมีเส้นทางของตนเอง ก็ไม่เคยได้ลิ้มชิมรสชาติในความทรงจำอีกเลย
แม้เขาเองจะรู้ว่าเหล้านมม้ามีวิธีการทำอย่างไร แต่อาจเป็นเพราะวัตถุดิบที่ต่างกัน เหล้าที่หมักได้มักจะมีรสชาติที่แตกต่างกันมาก
เว่ยฉือเลี่ยยกถ้วยเหล้าขึ้นมาดื่ม ยิ้มสดใสพลางเอ่ยว่า “พระเจ้าหลวงทรงชื่นชอบก็ดี เหล้านมม้าที่นำมาด้วยครั้งนี้ล้วนเป็นเหล้าที่บ่มขึ้นมาใหม่ก่อนจะออกเดินทางจากทุ่งหญ้า เปิดดื่มตอนนี้เป็นเวลาที่รสชาติดีที่สุด”
“คิดไม่ถึงว่าทรงจะชื่นชอบ”
ได้ยินประโยคนี้ อวิ๋นหลิงอดไม่ได้ที่จะมองไปทางเว่ยฉือเลี่ยแวบหนึ่ง
คิดไม่ถึงว่าอ๋องทูเจวียตะวันออกจะพูดภาษาฮั่นได้คล่องเช่นนี้
คำพูดของเขาแฝงสำเนียงของชาวเมืองสุย คล้ายกับสำเนียงการพูดของพระเจ้าหลวงมาก ฟังแล้วไม่เหมือนคนต่างชนชาติเลยแม้แต่น้อย
เห็นได้ชัดว่าพระเจ้าหลวงเองก็สังเกตถึงจุดนี้ มองเว่ยฉือเลี่ยด้วยสายตาแฝงแววทอดถอนใจ
“ถูกต้อง ภาษาฮั่นของเจ้าพูดได้ไม่เลวเลย ข้าได้ยินแล้วรู้สึกเป็นกันเองมาก......เฮ้อ นึกย้อนกลับไปก็เป็นเวลาสามสิบกว่าปีแล้วที่ไม่ได้กลับไปยังเมืองสุย”
หลังจากที่เขาเป็นจักรพรรดิ สุสานบรรพบุรุษที่เมืองสุยก็ถูกย้ายมาที่นี่ด้วย
แต่อายุยิ่งมาก ความฝันในหลายปีที่ผ่านมา ยิ่งทำให้คิดถึงเรื่องในวัยหนุ่ม คิดถึงท้องฟ้าสีครามสุดลูกหูลูกตาที่มีเมฆขาวลอยล่องและเสียงเพลงแห่งทุ่งหญ้าเขียวขจี
เว่ยฉือเลี่ยเอ่ยตอบอย่างนอบน้อมว่า “แม่ของข้าเป็นชาวเมืองสุยแห่งแคว้นต้าโจว เดิมทีนางเป็นลูกสาวของอาจารย์ที่สอนหนังสือ ภาษาฮั่นของข้านางเป็นคนสอนด้วยตนเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...