ภรรยานำโชคของเสนาบดี นิยาย บท 101

ในพื้นที่ของพวกเขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อยู่จริง ๆ เรื่องต้องห้ามก่อนวันที่ห้า เรื่องห้ามใช้เข็ม หรือใช้มีด ถือเป็นเรื่องอัปมงคล

ซูจิ่วเย่ว์ก็นึกถึงข้อห้ามเหล่านี้เช่นกัน ระยะห่างจากการฝังเข็มครั้งที่แล้วเจ็ดถึงแปดวัน สามารถกำหนดการฝั่งเข็มใหม่ได้อีกครั้ง

“ก็ดีเหมือนกัน ช่วงนี้ไม่เห็นซีหยวนบ่นถึงเรื่องอาการปวดหัวอีกเลย บางทีเขาอาจจะดีขึ้นในช่วงนี้ก็ได้!”

ซู่จิ่วเย่ว์ตอบรับ และมองไปที่อู๋ซีหยวนอีกครั้ง และถามเขาว่า: "ช่วงนี้ซีหยวนนึกอะไรขึ้นได้บ้างไหม?"

อู๋ซีหยวนคิดถึงภาพบางภาพที่ผุดขึ้นในหัวของเขาเป็นครั้งคราว แล้วส่ายหัวด้วยความสับสน

เขาไม่สามารถพูดได้ว่าทำไม แต่มีความคิดหนึ่งอยู่ในจิตใต้สำนึกของเขา ห้ามให้เขาพูดให้คนอื่นฟัง

ซูจิ่วเย่ว์เคยได้ยินอาจารย์ของเธอพูดว่า โรคทางสมองเป็นโรคที่ซับซ้อนที่สุด ทำในสิ่งที่คนสามารถทำได้ให้ดีที่สุด ที่เหลือปล่อยเป็นเรื่องของโชคชะตา

เธอถอนหายใจและพูดว่า " งั้นก็ได้ วันนี้เลื่อนการฝังเข็มไปครั้งหนึ่งแล้วกัน ครั้งหน้าค่อยรอผ่านวันที่ห้าไปแล้วค่อยว่ากันอีกครั้ง!"

ความมืดเริ่มคืบคลานเข้ามาที่ละน้อย ๆ ตะเกียงน้ำมันที่ไม่ค่อยจุดกันในวันปกติ ในยามนี้บ้านทุกหลังต่างจุดไฟสว่างไสวพร้อมเพียงกัน เหมือนกับโคมไฟนับหมื่นดวง

หลิวซุ่ยฮวาและครอบครัวของเธอนั่งอยู่ในห้องรับรองหลักเพื่อรอวันส่งท้ายปีเก่า ในเตาได้ใส่ถ่านไว้จนเต็ม ยังมีหม้อซุปร้อน ๆ ตั้งอยู่บนเตา

หลิวซุ่ยฮวากล่าวว่า: "ทุกคนอย่าขี้เกียจ มาช่วยกันห่อเกี๊ยวกันเถอะ แม่มีใส่เหรียญใหญ่สามเหรียญไว้ด้านในไส้เกี๊ยวด้วย มาดูสิว่าใครจะได้กินมัน แล้วจะได้โชคดีตลอดทั้งปีในปีหน้า!"

ทุกคนในครอบครัวต่างตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็กระตือรือร้นอยากจะได้ความโชคดีนี้ไป

และช่างเป็นเรื่องที่บังเอิญมาก เกี๊ยวทั้งสามตัวที่ใส่เงินสามเหรียญนั้นล้วนถูกซู่จิ่วเยว่กินหมด

หลิวซุ่ยฮวามองไปที่ซูจิ่วเย่ว์และพูดอย่างอารมณ์ดีว่า "แม่รู้แล้วว่าจิ่วยาเป็นดาวนำโชคของครอบครัวเรา! ช่างโชคดีจริงๆ"

คนอื่นๆ ก็โมโหใช้ตะเกียบเขี่ยเกี้ยวที่อยู่ในชามที่ยังกินไม่หมด จนเกี๊ยวในชามโดนจิ้มจนแตกเละหมด

ในขณะนั้น ไม่รู้ว่าหลิวซุ่ยฮวาเธอเสกซองอั่งเปามาจากไหนเยอะแยะไปหมด และพูดกับทุกคนว่า: "คนที่ไม่ได้กินอย่าเพิ่งเสียใจไป ยังมีซองอั่งเปาแจกให้ทุกคนด้วยนะ"

การอวยพรเทศกาลปีใหม่มีกฎเกณฑ์ไว้คือกราบไหว้สามครั้ง และกล่าวคำมงคลสามประโยค เริ่มจากผู้อาวุโสไปยังอายุน้อยที่สุดตามลำดับ บรรยากาศที่สนุกสนานและครึกครื่น

ซูจิ่วเย่ว์รับอั่งเปาจากแม่สามี และห่ออีกสองซองให้กับกั๋วเอ๋อร์และเถาเอ๋อร์

เมื่อรอเวลาเที่ยงคืนผ่านไป ข้างนอกก็เริ่มมีเสียงประทัดดังขึ้น หลิวซุ่ยฮวาก็รีบเร่งเร้า: "พวกเจ้าก็รีบไปจุดประทัดกันเถอะ เรื่องนี้ต้องรีบทำให้ไวอย่ารอช้า"

กั๋วเอ๋อร์และเถาเอ๋อร์ก็อยากตามไปด้วยเช่นกัน แต่พวกเขาไม่ได้รับอนุญาต งอแงอยู่พักใหญ่หลิวซุ่ยฮวาก็ปล่อยให้พวกเขามองดูที่หน้าต่างเท่านั้น

ซูจิ่วเย่ว์กับพี่ชายสองคนและอู๋ซีหยวนออกไปจุดประทัดข้างนอก

ต้าเฉิงจุดประทัดที่แขวนไว้แล้วก็กลับเข้าไปในบ้าน แต่ดอกไม้ไฟที่พวกเขานำกลับมานั้นเหลือไว้ให้พวกเขาสามีภรรยไว้จุดเล่นกันเพียงสองคนเท่านั้น

อู๋ซีหยวนปิดหูพูดยังไงก็ไม่ยอมเป็นคนจุดเอง สุดท้ายซูจิ่วเย่ว์ก็รวบรวมความกล้าจุดดอกไม้ไฟ แล้ววิ่งกลับเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว

เมื่อประกายไฟลุกไหม้จนถึงปลาย ตามด้วยเสียงปั๊งดังหนึ่งครั้ง เมื่อเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง ดอกไม้ไฟอันงดงามก็กระจัดกระจายลอยอยู่เหนือศีรษะของพวกเขา

เมื่อหลายบ้านได้ยินเสียงดังก็วิ่งออกมาดู แม้ว่าดอกไม้ไฟสองดวงจะคงอยู่ได้ไม่นาน แต่ก็เป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดที่คนในหมู่บ้านเซี่ยหยางได้เห็นในฤดูหนาวนี้

ซูจิ่วเย่ว์ยืนอยู่ใต้ชายคา เมื่อเห็นสิ่งดีๆทั้งหลายได้จบลงแล้ว จึงค่อย ๆ เอามือที่ปิดหูของเธอลง

จู่ๆ อู๋ซีหยวนที่อยู่ข้างๆ เธอก็ถามว่า: "ภรรยาข้า เจ้าโตขึ้นอีกปีแล้วใช่ไหม?"

ซูจิ่วเย่ว์ตกตะลึง ใช่แล้ว! หลังจากเทศกาลตรุษจีนก็โตขึ้นอีกปีแล้วเหรอ?

“ใช่! ข้าอายุสิบสี่ปีแล้ว!”

สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเธอก็คือใบหน้าที่หล่อเหลาของอู๋ซีหยวน เธอยิ้มหวานให้เขาเผยให้เห็นลักยิ้มเล็ก ๆ สองอันบนแก้มของเธอ

เธอเอื้อมมือออกไปจับมือที่กำลังยุ่งวุ่นวายบนใบหน้าของเธอออก แล้วถามเขาอย่างอ่อนโยนว่า “เจ้าตื่นแล้วหรือ?”

เป็นเสียงที่เขาคุ้นเคย เธอชอบพูดเสียงสูงขึ้นเล็กน้อยในตอนท้ายของประโยค มันเป็นเอกลักษณ์ของเธอเอง

เขานึกถึงน้ำเสียงและรอยยิ้มของเธอนับครั้งไม่ถ้วนตลอดหลายปีที่ผ่านมา และตอนนี้เขาได้เห็นว่าเธอมีตัวตนอยู่จริง ๆ

ความทรงจำในหัวของเขาค่อยๆ ผสานกัน และความทรงจำตอนที่เขามีท่าทีบื้อ ๆ ซื่อ ๆ เมื่อไม่กี่วันก่อนก็กลับมาในหัวของเขาทันที

อู๋ซีหยวนเป็นคนที่ฉลาดคนหนึ่ง และในไม่ช้าเขาก็ค้นพบว่าเหตุการณ์ในปัจจุบันแตกต่างจากที่เขาเคยเห็นมาก่อน อย่างแรกของการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดก็คือการที่ซูจิ่วเย่ว์แต่งงานกับเขาเมื่อปีที่แล้ว

ตามความทรงจำในอดีตของเขา เขาสติปัญญาไม่ดีจนถึงอายุยี่สิบปี และในปีนั้นแม่ของเขาก็จ้างแม่สื่อไปที่บ้านสกุลซูในหมู่บ้านต้าซิงเพื่อสู่ขอซูจิ่วเย่ว์ ซึ่งตอนนั้นเขามีอายุสิบเจ็ดปี

และในตอนนี้ เธอถูกแม่ของเขาใช้เงินซื้อเข้ามาตั้งนานแล้วเหรอ?

เทวดาฟ้าดินเห็นใจเขาที่อุทิศชีวิตให้กับบ้านเมืองและประชาชนหรือ ถึงได้ให้โอกาสเขาอีกครั้ง ?

อู๋ซีหยวนอุทานอยู่ในใจว่ามันช่างวิเศษมาก ครอบครัวของซูจิ่วเย่ว์ไม่ค่อยดีนัก สาเหตุที่เธอต้องจากมาตั้งแต่อายุยังน้อย ก็ด้วยสาเหตุจากครอบครัวของเธอที่ปฏิบัติกับเธอไม่ดีตอนที่ยังอยู่กับครอบครัวของเธอตอนยังเด็ก

ตอนนี้เธอเข้ามาอยู่ที่บ้านของเขา ด้วยความช่วยเหลือจากพวกเขา ยังไงซะเมื่อเทียบกันแล้วดีกว่าต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ที่บ้านสกุลซู ?

ยกเว้นข้อหนึ่ง ตอนนี้เธอยังไม่ได้ผ่านพิธีกรรมอย่างถูกต้อง เธอเป็นเพียงเด็กที่แม่ของเขาซื้อมาเพื่อเป็นภรรยาของเขา สำหรับเธอแล้ว คงจะรู้สึกเสียใจไม่ใช่น้อย

แต่ต่อแต่นี้ไปเขาจะชดเชยให้กับเธอในภายหลังแน่...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี