ภรรยานำโชคของเสนาบดี นิยาย บท 102

“เจ้าก็ตื่นแล้วเหรอ!” เขากังวลว่าเธอจะรับไม่ได้ที่สติปัญญาเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาจึงใช้สำเนียงคำพูดเหมือนเช่นแต่ก่อน

แต่ว่าความรู้สึกของเขาก็แตกต่างไปจากในเวลานั้น ถ้าพูดออกไปเหมือนกำลังหลอกเด็กอยู่ มันค่อนข้างน่าอายอย่างบอกไม่ถูก

ในเวลาเดียวกัน ซูจิ่วเย่ว์ก็รู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย เขายังคงเป็นคนเดิม แต่ทำไมวันนี้อู๋ซีหยวนดูเหมือนแตกต่างออกไป

ความคิดนี้เกิดขึ้นเพียงครู่หนึ่งเท่านั้น และเธอก็ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม "สวัสดีปีใหม่! ซีหยวน!"

เมื่อเทียบชีวิตในตอนนี้และชีวิตครั้งก่อน สิ่งต่าง ๆ มันแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เขาไม่คาดคิดว่าเขาจะตื่นขึ้นมาในวันปีใหม่ตอนที่เขามีอายุสิบเจ็ดปี

ปีใหม่ ชีวิตใหม่ การเริ่มต้นใหม่ ช่างดีมากเลยนะ

เมื่อได้ยินซูจิ่วเย่ว์อวยพรปีใหม่ให้เขา ภายในจิตสำนึกเขาคิดแค่ว่าต้องอั่งเปาแก่เธอโดยไม่รู้ตัว

ใต้หมอนยังมีอั่งเป่าที่ท่านแม่ให้เขาเมื่อคืนนี้อยู่เลย เขาเก็บมันไว้ทั้งคืนราวกับมันเป็นสมบัติอันล้ำค่า ขนาดเวลานอนยังไม่ยอมวางมันลง

ซูจิ่วเย่ว์มองดูซองอั่งเปาสีแดงที่ยับยู่ยี่ ที่เขายื่นมาให้ต่อหน้าเธอ เธอสะดุ้งเล็กน้อย "เจ้าหมายความว่าอย่างไร"

อู๋ซีหยวนรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เฝ้ามองทุกอิริยาบทอันละเมียดละไมของเธอ และกลัวว่าเธอจะปฏิเสธเขา

“ข้า... อั่งเปาของข้าไง!” เขาปรับน้ำเสียงได้ทันเวลาพอดี ในใจแอบคิดว่าเกือบไปแล้ว

เข้ารับราชการเป็นขุนนางมาตั้งหลายปี เกือบใช้น้ำเสียงและท่าทางแบบขุนนางไปโดยไม่รู้ตัว อาจจะทำให้ภรรยาของเขาตกใจกลัวได้!

ซูจิ่วเย่ว์ไม่คาดคิดว่าเขาจะให้อั่งเปาแก่เธอจริงๆ ในใจเธอดีใจเป็นอย่างมาก แต่ว่าเธอไม่สามารถรับมันไว้ได้

เธอส่ายหัวแล้วพูดว่า "ข้ารับสิ่งนี้ไว้ไม่ได้ นี่คือเงินอั่งเปาที่ท่านแม่ให้เจ้ามานะ"

อู๋ซีหยวนเม้มริมฝีปาก ดูเหมือนหมดอารมณ์เล็กน้อย "แต่ท่านแม่บอกว่า เจ้าอายุน้อยกว่าข้า ข้าก็ต้องให้อั่งเปาแก่เจ้าด้วย"

ซูจิ่วเย่ว์อดไม่ได้ที่จะเห็นเขาเสียใจ เธอจึงหยิบซองอั่งเปาสีแดงมาแล้วหยิบเหรียญใหญ่ออกมาบางส่วน ส่วนที่เหลือเธอใส่กลับเข้าไปในซองแล้วคืนให้เขา

อู๋ซีหยวนมองดูซองอั่งเปาสีแดงในมือของเขาด้วยความประหลาดใจ จากนั้นเห็นเธอถือเหรียญและส่งสายตากระพริบมาที่เขา " ข้าต้องการแค่อันเดียวเท่านั้น ข้ายังเด็กอยู่แค่หนึ่งเหรียญใหญ่ก็เพียงพอแล้ว!"

อู๋ซีหยวนต้องยอมแพ้เมื่อเห็นท่าทางขี้เล่นของเธอ และหัวใจของเขาก็เต้นรัวอยู่ในอกเหมือนผู้ชายวัยยี่สิบแปดปี

ไม่ เขาในตอนนี้ก็คือผู้ใหญ่วัยยี่สิบแปด

ใครจะไปทนไหวกับสิ่งนี้ได้? ตอนที่อายุสิบเจ็ดเธอก็ทำให้เขารู้สึกอยากจะอยู่กับเธอตลอดไปได้ขนาด ยิ่งกว่านั้นเธอตอนนี้ที่เป็นสาวแรกรุ่นที่ทั้งสวยและสดใสในวัยสิบสี่ปี

จู่ๆ เขาก็ไม่รู้ว่าจะปฏิบัติต่อเธออย่างไรดี เขาควรจะปฏิบัติต่อเธอในฐานะภรรยาหรือเลี้ยงดูเธอในฐานะลูกสาว?

ซูจิ่วเย่ว์เห็นเขาจ้องมองเธอตลอด รู้สึกเขินอายเล็กน้อย

จากนั้นเธอก็เอื้อมมือไปบีบจมูกเขาเบาๆ “เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่!”

อู๋ซีหยวนรู้สึกตัวทันทีแล้วยิ้มให้เธอ และโพล่งออกมาโดยไม่ลังเลใจว่า "ข้าคิดถึงเจ้า!"

ซูจิ่วเย่ว์คิดว่าเขาแค่หยอกล้อเธอให้อารมณ์ดีตามปกติทุกวัน แต่เธอไม่คาดคิดว่าครั้งนี้เขาคิดถึงเธอจริงๆ คิดถึงเข้ากระดูกดำ และคิดถึงเธอมานานเป็นสิบปีแล้ว

ซู่จิ่วเย่ว์หน้าแดงอีกครั้ง และอู๋ซีหยวนก็แทบไม่อยากละสายตาไปที่อื่น

ตลอดที่ผ่านมาซูจิ่วเย่ว์แค่ทำในสิ่งที่เธอควรทำ สำหรับคนอื่นแล้วเธอไม่อยากพูดถึง ตอนที่ฟังแม่สามีบ่นพี่สะใภ้ทั้งสองคนของเธอ และเธอก็ไม่ได้พูดอะไรเลย

ไม่ว่าพวกเขาจะแย่แค่ไหน ก็ไม่ใช่หน้าที่ของเธอที่จะต้องไปพูด

แม่สามีบ่นพวกเขาสองสามคำนั้นถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าให้เธอพูดนั่นไม่ใช่เป็นการหาเรื่องใส่ตัวหรือ ไม่ควรพูดอะไรจะดีกว่า

รอให้เธอพูดจบแล้ว ซูจิ่วเย่ว์จึงพูดขึ้นว่า "มีข้าเอาน้ำให้ท่านแม่ก็พอแล้ว ท่านแม่อย่าให้ใครมาแย่งข้าเลย"

เมื่อหลิวซุ่ยฮวาได้ฟังแล้วรู้สึกสบายใจมากขึ้น จะว่าไปจิ่วยาทำไมถึงได้เป็นเด็กที่เฉลี่ยวฉลาดนัก? รู้ว่าเมื่อไหร่ควรพูดและ เมื่อไหร่ไม่ควรพูด ในใจของเธอเข้าใจดีทุกอย่าง ช่างเป็นคนที่มองทะลุปรุโปร่งจริง ๆ

ในใจของเธอรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก แต่เธอพูดว่า: "ใครใช้เจ้าตักมาข้ากัน แม่ของเจ้ายังไม่ได้แก่และยังแข็งแรงอยู่ ไม่ใช่ว่าข้าจะยกมันไม่ได้ซะหน่อย"

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ซูจิ่วเย่ว์ก็พูดว่า: "เมื่อก่อนตอนที่ลูกยังไม่มาก็ช่างมันเถอะ แต่ตอนนี้ลูกเข้ามาอยู่ในบ้านนี้แล้ว และท่านแม่ก็ดีกับลูกขนาดนี้ ถ้าลูกไม่กตัญญูปรนนิบัติท่านแม่ ในใจของลูกทำไม่ได้จริง ๆ ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าช่างเป็นเด็กที่ซื่อจริงๆ” หลิวซุ่ยฮวาชื่นชมเธอสองสามคำแล้วถามว่า “ซีหยวนล่ะ? เขาตื่นหรือยัง?”

เมื่อซูจิ่วเย่ว์นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ แก้มของเธอก็แดงระเรื่อเล็กน้อย เธอก้มหน้ามองลงไปที่พื้น ไม่ว่าจะมองเธออย่างไรเธอก็ดูเหมือนเป็นเด็กผู้หญิง

“ตื่นแล้ว แต่ไม่รู้ว่าลุกจากเตียงหรือยัง”

หลิวซุ่ยฮวาเดาว่าซีหยวนเจ้าทึบนั้นน่าจะพูดอะไรไม่รู้จักความแน่ ๆ ถึงได้ทำให้ลูกสะใภ้เขินอายขนาดนี้

เมื่อดูออกแต่ไม่อยากพูดออกมา เพียงแค่รีบไล่เธอ: "เจ้าไปดูว่าซีหยวนตื่นแล้วหรือยัง ให้เขารีบไปล้างหน้า แม่จะไปต้มเกี๊ยวเอง เดี่ยวอีกสักพักเราจะต้องไปบ้านท่านลุงกัน ถ้าไปช้าคนอื่นอาจจะตำหนิเอาได้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี