ภรรยานำโชคของเสนาบดี นิยาย บท 119

“ในที่สุดคุณหนูก็มาจนได้ ท่านอ๋องรอคุณหนูอยู่นานแล้ว” กวนไหวหย่วนถือแส้ขนหางจามรีรีบออกมาต้อนรับ และยังทำความเคารพอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

เมื่อก่อนที่ซูอี๋เห็นกวนไหวหย่วน เขาไม่เคยกระตือรือร้นขนาดนี้มาก่อน

เขาเป็นขันทีข้างกายท่านอ๋องเยี่ยน และมีตำแหน่งเป็นขุนนาง แต่กับซูอี๋ที่เป็นเพียงลูกสาวของเสนาบดี ตามธรรมเนียมแล้วเธอต้องเป็นฝ่ายทำความเคารพเขา

ไม่น่าแปลกใจที่ขันทีเหล่านี้มักประจบสอพลอกับคนเบื้องบนและดูถูกคนที่ต่ำกว่า แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร

“เอาล่ะ ต้องรบกวนให้ท่านกงกงเป็นคนนำทางข้าไป” ซูอี๋ทำความเคารพ

จวนอ๋องเยี่ยนนั้นเป็นแค่ที่พักอาศัยชั่วคราวของมู่เซ่าหลิงเท่านั้น เมื่อเทียบกับที่พักของเขาในเมืองหลวงนั้นเทียบกันไม่ได้เลย แต่ก็เป็นบ้านหลังที่ดีที่สุดในเมืองยงโจวแล้ว

ทั้งสองคนเดินผ่านประตูติดกันสามบาน จนมาถึงสวนที่มู่เซ่าหลิงพำนักอยู่ และมู่เซ่าหลิงกำลังยืนรออยู่หน้าประตูแล้ว

ซูอี๋ก้าวไปข้างหน้าและทำความเคารพเขา "ถวายบังคมท่านอ๋อง"

มู่เซ่าหลิงยื่นมือออกมาพยุงเธอไว้ "พระชายาเจ้าลุกขึ้นเถิด"

เมื่อซูอี้ได้ยินที่เขาเรียกเธอ แก้มของเธอรู้สึกร้อนเล็กน้อย และเธอก็ตอบกลับด้วยเสียงแผ่วเบา: "หม่อนฉันยังไม่ได้เสกสมรสกับท่านอ๋องเลย!"

เธอลืมมารยาทไปชั่วครู่ มู่เซ่าหลิงสีหน้าทางมีความสดใสและเต็มเปี่ยมด้วยพลัง เขาดูเหมือนจะอารมณ์ดี "เรื่องนั้นเป็นเรื่องช้าเร็วที่ต้องเกิดอยู่แล้ว เจ้าและข้าควรทำความคุ้นเคยกันไว้ก่อน"

ซูอี๋ไม่เคยเห็นใครไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน เธอก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ท่านอ๋องเยี่ยนกลัวว่าเธอจะโกรธ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนานาใหม่ "ข้าได้ยินว่าเจ้ามานี่ที่เพื่อจะจัดงานเลี้ยงเป็นรางวัลแก่ข้างั้นหรือ? "

ซูอี๋เงยหน้าขึ้น “ถ้าอย่างนั้นท่านอ๋องต้องให้หม่อมฉันดูก่อนว่าผู้หญิงที่อยู่ในนี้ถูกส่งออกไปหมดแล้วจริงๆ?”

มู่เซ่าหลิงหัวเราะและพูดว่า "ข้าก็นึกสงสัยว่าทำไมวันนี้พระชายาถึงได้มีเวลามาหาข้าถึงที่นี่ ที่แท้ก็อยากจะมาตรวจสอบด้วยตัวเอง? ในเมื่อเป็นเช่นนั้นข้าขออาสาเป็นคนพาเจ้าไปดูเองว่าในสวนยังมีผู้หญิงอื่นอยู่หรือไม่"

ซูอี๋รู้สึกละอายใจเล็กน้อยในช่วงแรก แต่ในเมื่อเขาเป็นคนพูดเองว่าตรวจสอบได้ งั้นเธอก็จะไม่กรงใจ?

“ตรวจได้! บางทีอาจจะมีคนรักของข้าซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งก็เป็นได้!”

มู่เซ่าหลิงเป็นคนตรงไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว มีอะไรที่เขาต้องกลัว "ในใจของข้ามีเพียงคนเดียว แต่คนข้างกายยังไม่มีคนที่คู่ควร!"

อันที่จริงที่ซูอี๋บอกว่าจะตรวจสอบ เธอเพียงแค่เดินดูไปรอบ ๆ จวนอ๋องเยี่ยนเท่านั้น ท่านอ๋องเยี่ยนที่ดูอยู่ข้าง ๆ เห็นเธอเอาจริงเอาจัง เขาก็ยิ้มและพูดติดตลกว่า " เจ้าแค่ดู ๆ ก็พอแล้ว ยังไงซะงานอภิเษกสมรสของเราสองคนจะต้องกลับไปจัดที่เมืองหลวงอยู่แล้ว ไม่ได้อยู่ที่นี่”

ซูอี๋จ้องมองเขาและอยากจะบอกว่าคนๆ นี้ไม่มีความละอายเลยจริงๆ มู่เซ่าหลิงเอามือไพล่หลังแล้วมองดูเธอราวกับว่าเธอเป็นเม่นตัวน้อยที่มีหนามแหลมที่ชี้ฟู อดไม่ได้ที่จะหยอกล้อเธอสองสามคำ “หรือเจ้าอยากจะอิภิเษกสมรสกับข้าเร็ว ๆ ? ถ้างั้นข้าก็อดใจรอไม่ไหวแล้วจริง ๆ!”

ผู้ชายคนนี้ไร้ยางอายจริง ๆ ! เธอขี้เกียจที่จะใช้คำพูดสุภาพกับเขาด้วยซ้ำ!

เดิมทีมู่เซ่าหลิงคิดว่าจะพาซูอี๋เดินเล่นไปรอบๆ สวนเท่านั้น และก็ไม่ได้พบเห็นผู้ใดในสวน

ขณะที่เขากำลังจะกลับไปด้านหน้าสวน ก็มีเสียงอุทานออกมากระทันหันจากด้านหลังหินประดับ

“ว้าย——“

ซูอี๋หยุดเดิน รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็ชงัก เธอหันไปมองมู่เซ่าหลิงที่ยื่นอยู่ข้าง ๆ เธอ ในเวลานี้เธอรู้สึกว่าเธอดูเป็นตัวตลก

ใบหน้าของมู่เซ่าหลิงก็เคร่งขรึมเช่นกัน "ทหาร! ไปดูสิว่ามีใครมาทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ที่นั่น!"

กวนไหวหย่วนพาทหารองครักษ์ไปดูด้วยตัวเอง เขาต้องการลากตัวผู้หญิงที่อยู่ด้านหลังหินประดับนั้นออกมา เพื่อที่จะคืนความบริสุทธิ์ใจให้กับท่านอ๋องของเขา

แต่ใครจะคิดว่าเมื่อเขาดึงคนนั้นออกมาดู ก็พบว่าเป็นใบหน้าที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี